ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร พร้อมผู้การฯ มอบนโยบายแก้ปัญหายาเสพติด “No Drugs No Dealers” มุ่งเป้าผู้ค้า-ผู้เสพลดลง เสริมสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง โดยใช้กลไกฝ่ายปกครอง-ตำรวจ ลั่น 2 เดือนจากนี้ นำผู้ค้ายามาลงโทษ ส่งผู้ติดยาขั้นรุนแรงไปบำบัดรักษาในค่ายทหาร
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 ก.ค. 2568 ที่หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เทศบาลเมืองคลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานการมอบนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาผู้ค้า ผู้เสพ ลดลง เสริมสร้าง หมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง ขยายพื้นที่ความสำเร็จ จังหวัดสมุทรสาคร “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด โดยมี พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รวมถึงปลัดจังหวัดสมุทรสาคร รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร นายอำเภอ หัวหน้าสถานีตำรวจในสังกัด ภ.จว.สมุทรสาคร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนหมู่บ้าน/ชุมชนจากทั้ง 3 อำเภอของจังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วม
โดยมีกิจกรรมการมอบนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติด จากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร และการบรรยายให้ความรู้จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้านและชุมชนปลอดยาเสพติด แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ
ตามที่รัฐบาลได้ผลักดันวาระการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ ให้เป็นวาระของจังหวัด อำเภอ และหมู่บ้าน/ชุมชนทั่วประเทศ ผ่านปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด โดยมีเป้าหมายให้หมู่บ้าน/ชุมชนที่มีปัญหายาเสพติด จะต้องเริ่มแก้ไขปัญหา วางกลไกของชุมชน และประกาศตนเป็น “หมู่บ้านปลอดยาเสพติด” ที่จะต้องไม่มีผู้ค้าและผู้เสพอีกต่อไป
ดังนั้น จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้กำหนดจัดการมอบนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาฯ ดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ 1. เพื่อตอกย้ำเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของรัฐบาลและจังหวัดสมุทรสาคร ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด, 2. เพื่อเร่งรัดและกำชับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลอย่างเด็ดขาด และ 3. เพื่อมอบหมายให้ผู้ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ ได้เร่งดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดผ่านปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealer” ผนึกกำลังชุมชน ปลอดยาเสพติด นั้นมีเป้าหมายให้หมู่บ้าน/ชุมชน ที่มีปัญหาสามารถแก้ไขและประกาศตนเป็น “หมู่บ้านปลอดยาเสพติด” ที่จะต้องไม่มีผู้ค้าและผู้เสพอีกต่อไป ซึ่งจังหวัดสมุทรสาคร ตอบรับนโยบายดังกล่าวเป็นสำคัญ และได้แบ่งกระบวนการปฏิบัติ QUICK WIN ในห้วง 3 เดือน ตั้งแต่ 17 ก.ค. ถึง 16 ต.ค. 2568 โดยเน้นย้ำการปฏิบัติ 4 มาตรการสำคัญ ได้แก่ 1. มาตรการป้องกัน, 2. มาตรการป้องปราม 3. มาตรการปราบปราม และ 4. มาตรการบำบัดฟื้นฟู
สำหรับในห้วงเดือน ส.ค. 2568 เป็นต้นไป ขอให้พื้นที่ภายในจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาผู้ค้า ผู้เสพ ลดลง เสริมสร้าง หมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง ขยายพื้นที่ความสำเร็จ ซึ่งฝ่ายปกครองในระดับพื้นที่เป็นกลไกสำคัญที่ต้องร่วมบูรณาการในการขับเคลื่อน รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน และแพทย์ประจำตำบล ที่เป็นกลไกในระดับพื้นที่ ที่สามารถเข้าถึงประชาชนของตนเองและทราบข้อมูลในพื้นที่มากที่สุด ดังนั้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่และชุมชน โดยใช้กำลังหลักของฝ่ายปกครอง จึงเป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดสิ้นไป
นายนริศ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถิติที่พบในปัจจุบัน จังหวัดสมุทรสาครยังมีผู้ค้ายาเสพติดอยู่ประมาณ 90 กว่าราย และผู้เสพยาเสพติดอีกกว่า 300 ราย ดังนั้นในห้วงเวลา 2 เดือนนี้ คือช่วงปฏิบัติการเข้มข้นที่จะต้องนำผู้ค้ายาเสพติดทุกคนเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายให้ได้ครบทั้งหมด ส่วนผู้ที่ติดยาเสพติดในขั้นรุนแรง จะต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติดภายในค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน เป็นเวลา 3-4 เดือน ขณะที่ผู้ติดยาเสพติดในระดับเบาบางนั้น อยู่ในแผนของฝ่ายปกครองจังหวัดฯ และสาธารณสุขจังหวัดฯ ว่าจะดำเนินการบำบัดรักษาด้วยขั้นตอนหรือวิธีการอย่างไร และใช้เวลานานเท่าใด
ทั้งนี้ จึงขอประกาศไว้ให้ทราบโดยทั่วกันว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายเดินหน้าเอาจริงกับผู้ที่ค้ายาเสพติด หากใครคิดได้ เลิกได้ ก็ขอให้เลิกทันที และให้แจ้งเบาะแสผู้ค้ารายอื่นแก่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองด้วย เพราะหากใครไม่เลิกยุ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมอันเป็นภัยร้ายแรงเหล่านี้ ก็จะต้องถูกรวบตัวหรือถูกจับกุมดำเนินคดีสถานเดียว ส่วนผู้ที่คิดได้เลิกได้ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้า หรือผู้เสพ ก็อย่าได้หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
ทางด้าน พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งหากได้พลังของหมู่บ้านและชุมชนเข้ามาร่วมด้วย จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสู่แหล่งกระทำความผิดได้ง่ายขึ้น และทำให้จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดปลอดยาเสพติดได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นหากใครพบเบาะแสผู้ค้า ผู้เสพ ยาเสพติดในหมู่บ้านหรือชุมชน ก็ขอให้แจ้งมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือจะสายตรงมาที่ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร หรือ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฯ ก็ได้เช่นเดียวกัน
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ