
รองเลขาธิการ กพฐ. เปิดมหกรรมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (SYMPOSIUM) “จุดประกายการเรียนรู้ สู่อนาคตที่ยั่งยืน : SKSS Edu Spark 2025” นำเสนอผลงานเด่นจาก 20 โรงเรียน ในสังกัด สพม.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ส.ค. 2568 นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เป็นประธานในพิธีเปิดมหกรรมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (SYMPOSIUM) “จุดประกายการเรียนรู้ สู่อนาคตที่ยั่งยืน : SKSS Edu Spark 2025” ประจำปี 2568 ณ หอประชุมอาคาร 90 ปี โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยมี นายมิน ประจวบวัน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม (สพม.สคสส.) นายอุดม ไกรวัฒนุสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร คณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการศึกษา (ก.ต.ป.น.) ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนเข้าร่วมงาน




สำหรับงานมหกรรมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (SYMPOSIUM) “จุดประกายการเรียนรู้ สู่อนาคตที่ยั่งยืน : SKSS Edu Spark 2025” จัดขึ้นเพื่อให้บุคลากรทางการศึกษาในสังกัดมีความรู้ ความสามารถ และทักษะที่หลากหลาย สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของการพัฒนาการศึกษาและมุ่งมั่น ทันต่อโลกยุคปัจจุบัน พร้อมทั้งปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก เป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จุดประกายความคิดและแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้ครูและนักเรียนเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทาย และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับเยาวชน
ภายในงาน SKSS Edu Spark 2025 มีการแสดงความสามารถของนักเรียนบนเวที เช่น การแสดงการต่อสู้ด้วยอาวุธไทย (กระบี่กระบอง) ของโรงเรียนกระทุ่มแบน “วิเศษสมุทคุณ” การแสดงเดี่ยวขิม ของโรงเรียนสมุทรสาครบูรณะ การแสดงรำวงตามบทร้องพื้นบ้าน ของโรงเรียนอัมพวันวิทยาลัย รวมถึงการนำเสนอผลงานสุดยอดผลิตภัณฑ์ การมอบรางวัลผลงานแนวการปฏิบัติที่ดีสู่ความสำเร็จ (Best Practice) และการจัดแสดงผลงานของโรงเรียนต่าง ๆ จาก 20 โรงเรียนในสังกัด สพม.สคสส. โดยเฉพาะโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย ได้มีการจัดแสดงหุ่นยนต์ สร้างความสนใจให้กับผู้เข้าเยี่ยมชมงานเป็นจำนวนมาก




นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชน ให้ได้รับโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง สนองพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่เน้นย้ำบทบาทของครูไม่ใช่สอนแค่วิชาการ แต่รวมถึงการอบรมบ่มนิสัยควบคู่กับการจัดการเรียนรู้ เพื่อหล่อหลอมนักเรียนให้เป็นผู้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยสามารถแทรกทุกกิจกรรมลงสู่ 8 ประการ ที่ควรเริ่มต้นขึ้นที่โรงเรียน ซึ่งจะทำให้นักเรียนรู้หน้าที่ของตนเอง และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เป็นรากฐานที่สำคัญในอนาคต
ในส่วนของแนวคิด “จุดประกายการเรียนรู้” ก็สะท้อนเจตนารมณ์ในการสร้างแรงบันดาลใจที่เกิดจากภายในของผู้เรียน ส่งเสริมการเรียนรู้ที่แตกต่างหลากหลาย ตามความถนัดของแต่ละคน โดยจัดแสดงผลงาน 20 บูธ ที่สะท้อนศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และความสุขของนักเรียนและครู สอดคล้องกับแนวทางการประเมินผลในอนาคต OECD ที่เน้นย้ำการประเมินผลต้องนำไปสู่การแสวงหาความรู้ของนักเรียน ทำให้เด็กเกิดความอยากเรียนรู้ เกิดไอเดียทางความคิด






งานนี้จึงเป็นการเริ่มต้นจุดมุ่งหมายหลักที่สำคัญของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน เกิดความถนัดความสนใจที่แตกต่างกันออกไป ขณะที่การสร้างเครือข่ายการศึกษาที่เข้มแข็ง ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ช่วยเปิดโอกาสให้โรงเรียนขนาดเล็กได้รับการพัฒนาเท่าเทียมกับโรงเรียนอื่น ๆ ส่งเสริมการแบ่งปันองค์ความรู้ ครูต้นแบบสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ไปสู่โรงเรียนในเครือข่ายอย่างทั่วถึง สร้างศรัทธากับชุมชน และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ทั้งนี้ ตนขอชื่นชมการจุดประกายความรู้ ของ สพม.สคสส. และเครือข่ายที่เข้มแข็ง ที่ได้ร่วมกันสร้าง ทำให้ทั้ง 20 โรงเรียน มีองค์ประกอบหลักครบ สามารถเป็นต้นแบบได้ ทำให้เด็กทุกโรงเรียนได้รับโอกาสในการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างสิ่งที่เกิดศรัทธากับชุมชนให้สำเร็จ ทำให้เห็นประโยชน์จากการไม่หยุดนิ่งในการจัดองค์ประกอบการเรียนรู้ให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สร้างภูมิคุ้มกันภายใต้การคิด วิเคราะห์ กระบวนการที่สำคัญ ให้กับนักเรียนทุกคนจากความพร้อมของผู้นำ ข้าราชการครูและบุคลากร และเครือข่ายที่เข้มแข็งของเขตพื้นที่การศึกษาต่อไป





สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง