
รมช.สาธารณสุข ลุยตรวจสอบโรงพยาบาลเอกชนใน จ.สมุทรสาคร ฝ่าฝืนรับตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวเพื่อยื่นขออนุญาตทำงานในไทย ทั้งที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้เป็นสถานพยาบาล เผยรับตรวจสุขภาพฯ ตั้งแต่ต้นปีไปแล้วกว่า 1.3 หมื่นราย ชี้ใบตรวจสุขภาพที่ออกมาไม่ถูกต้อง แฉอดีต ขรก. ระดับ 10 มีเอี่ยวด้วย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ส.ค. 2568 นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ทพ.อาคม ประดิษฐ์สุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีโรงพยาบาลดับเบิ้ลยู เมดิคอล เอกชัย (W Medical Hospital) เป็นโรงพยาบาลเอกชนทั่วไปขนาดเล็ก ตั้งอยู่ ถ.เอกชัย หมู่ 5 ต.บางน้ำจืด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่รับตรวจสุขภาพให้กับแรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ ตามมติ ครม. 24 ก.ย. 2567 เพื่อเป็นเอกสารหลักฐานในการยื่นขออนุญาตทำงานในประเทศไทยต่อกรมการจัดหางาน ไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
โดยมี นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นพ.ประกิต สาระเทพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร นายวันชัย สาครมณีรัตน์ จัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร และ ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ร่วมตรวจสอบ ขณะที่ทางฝ่ายโรงพยาบาลฯ มีทางด้านกรรมการผู้อำนวยการ พร้อมคณะเข้าชี้แจงข้อมูล โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า จากการที่กระทรวงฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนสำหรับโรงพยาบาลเอกชนที่ตรวจสุขภาพให้กับแรงงานต่างด้าว 4 สัญชาติ ไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง มาตรฐานการให้บริการตรวจสุขภาพคนต่างด้าว พ.ศ. 2567 ที่ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 ซึ่งทางกระทรวงฯ ทราบข้อมูลว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ได้มีการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อกฎหมายดังกล่าว
และจากการตรวจสอบพบว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ ได้ขอขึ้นทะเบียนกับกรมจัดหางานในการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว แต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้เป็นสถานพยาบาลจากกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการยื่นขออนุญาตสร้างห้องปฏิบัติการและห้องเอกซเรย์ ซึ่งเป็นการทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 35 (4) มีโทษจำคุก 1 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท
ซึ่งการกระทำดังกล่าว ทางสถานพยาบาลทราบดีอยู่แล้วว่าไม่สามารถตรวจสุขภาพให้กับแรงงานต่างด้าวได้ นับตั้งแต่เดือน ม.ค. เรื่อยมาจนถึง ก.ค. 2568 ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ได้รายงานว่ามีการตรวจแรงงานต่างด้าวไปแล้วจำนวน 13,121 คน ดังนั้นใบตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวทั้งหมดถือว่าผิดกฎหมาย ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขในการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว นอกจากนี้ บริษัทจัดหางานหรือนายจ้างของแรงงานต่างด้าวทั้งหมดนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะส่งเรื่องไปให้กรมการจัดงานตรวจสอบด้วยว่า มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ในการดำเนินการครั้งนี้

นายชัยชนะ กล่าวเพิ่มเติมว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กระทรวงสาธารณสุขจะเดินหน้าเอาจริงเอาจัง เราจะทำครั้งนี้เป็นการคิกออฟที่นี่ และจะเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพราะตนทราบข่าวว่า การกระทำเหล่านี้มีอดีตข้าราชการอยู่ในกรมการจัดหางาน ระดับ 10 ร่วมขบวนการอยู่ เพราะฉะนั้นตนเรียกร้องว่า สิ่งไหนที่ผิดกฎหมาย อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน คิดถึงประโยชน์ประเทศชาติเป็นส่วนรวม
ถ้าเราดำเนินการและให้แรงงานต่างด้าวไม่ได้ตรวจสุขภาพจริง หรือการตรวจสุขภาพไม่ถูกต้อง แล้วนำโรคระบาดเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทย สุดท้ายแล้วประชาชนชาวไทยก็จะได้รับโรคระบาดเหล่านี้ไปอย่างนั้นหรือ นี่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นตนมองว่าอย่าคิดแค่ผลประโยชน์ส่วนตน ผลประโยชน์แค่วันพรุ่งนี้มะรืนนี้ ให้คิดถึงอนาคตของลูกหลานเยอะ ๆ หน่อย
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้ตนดูแลเรื่องนี้และเดินหน้าเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตนขอเรียนว่านโยบายรัฐบาลสนับสนุนให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทย แต่เราไม่สนับสนุนให้มีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นในประเทศไทย

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ