
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำแถลงผลจับกุมคดีสำคัญในพื้นที่รับผิดชอบ 7 คดี ในพื้นที่ 3 จังหวัด ทั้งคดีบัญชีม้า ทลายโกดังสินค้าเถื่อน ใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ จยย. ยาเสพติด และคดีฆาตกรรม
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 13 พ.ย. 2568 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.กานต์ ธรรมเกษม ผบก.สส.ภ.7, พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รวมถึงรอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร, ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร, ผกก.สภ.โคกขาม, ผกก.สภ.บ้านแพ้ว, ผกก.สภ.บางโทรัด, ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม และ ผกก.สภ.ไร่สะท้อน จ.เพชรบุรี ร่วมกันแถลงผลจับกุมคดีสำคัญในพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 7 ดังต่อไปนี้

คดีแรก สภ.เมืองสมุทรสาคร จับกุมเครือข่ายบัญชีม้าลักลอบกดเงิน-ถอนเงิน ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ตามที่ได้รับการประสานกับทางวอร์รูมของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ได้ผู้ต้องหา 2 คน คือ นายภาณุพงษ์ ระวิโรจน์ พร้อมของกลาง สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 1 เล่ม ใบแจ้งยอดถอนหักบัญชีธนาคาร ระบุจำนวนเงิน 240,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ สามารถอายัดยอดเงินไว้ได้ จำนวน 46,690 บาท มีผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
และอีกคนหนึ่ง คือ น.ส.นิชชากร กลมกล่อม พร้อมของกลางเป็นสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 1 เล่ม ใบแจ้งยอดถอนหักบัญชีธนาคาร ระบุจำนวนเงิน 224,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ สามารถอายัดยอดเงินไว้ได้ จำนวน 225,930 บาท มีผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ จ.ลำปาง จับกุมได้ที่บริเวณธนาคารกสิกรไทย สาขาสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2568 เวลา 14.30 น. ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า รับจ้างเปิดบัญชีม้าจริง ได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 3,500 – 4,000 บาท

คดีที่สอง สภ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร อายัดเงินบัญชีม้า ในพื้นที่อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เริ่มจากมีผู้เสียหาย 2 คน ถูกหลอกให้โอนเงิน จำนวน 36,000 บาท และ 23,666 บาท เข้าบัญชีม้า ธนาคาร G. ของนายกฤษฎา (ขอสงวนนามสกุล) ต่อมาได้มีการโอนเงิน จำนวน 240,000 บาท จากบัญชีดังกล่าวไปเข้าบัญชีม้า ธนาคาร S. ระบุว่าเป็นของบริษัทแห่งหนึ่ง และได้มีการโอนเงินจากบัญชีนี้ 2 ครั้ง จำนวน 250,000 บาท และ 750,000 บาท ไปยังบัญชีม้า ธนาคาร S. ของนายมนเทียน (ขอสงวนนามสกุล) สุดท้ายเจ้าหน้าที่ฯ เข้าจับกุมนายมนเทียน ขณะกำลังถอนเงิน จำนวน 990,000 บาท ออกจากบัญชีดังกล่าว ที่ธนาคาร S. ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และอายัดเงิน จำนวน 994,713 บาท เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป เบื้องต้นพบว่าบัญชีดังกล่าวมีเส้นทางการเงินที่มาจากผู้เสียหายจำนวนมาก

คดีที่สาม สภ.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร จับกุมผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ในท้องที่ โดยใช้อาวุธมีดในการก่อเหตุ ได้ผู้ต้องหา 2 คน คือ นายสมชาย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ชาว ต.โคกขาม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร กับ นายเจ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาว ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร จับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 12 พ.ย. 2568 พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมไป 2 คัน โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย อาวุธมีดและเสื้อผ้าของผู้ต้องหาที่ใช้ในวันก่อเหตุ โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้งสองคน ได้ลงมือก่อเหตุใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ชายคนหนึ่ง เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.บางโทรัด ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี จนสามารถเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนดังกล่าว จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันชิงทรัพย์โดย ใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิดหรือหลบหนีการจับกุม” ซึ่งนายสมชาย 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้นั้นเคยต้องคดีปล้นทรัพย์ และเพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2567


คดีที่สี่ สภ.โคกขาม จ.สมุทรสาคร เป็นการระดมกำลังกวาดล้างปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย ยาเสพติดและอาวุธปืน เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 13 พ.ย. 2568 ได้ผู้ต้องหา คือ นายสมศักดิ์ แซ่อุ่น อายุ 55 ปี ภายในบ้าน หมู่ 7 ต.โคกขาม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 Super 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 1 นัด ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แบ่งออกเป็นยาบ้า จำนวน 358 เม็ด ไอซ์ 23.28 กรัม รถจักรยานยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และอุปกรณ์อื่น ๆ รวมจำนวน 10 รายการ


คดีที่ห้า กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร (กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร) จับกุมโกดังหลอกลวงให้ซื้อสินค้าและบริการ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 พ.ย. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกขาม สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสมุทรสาคร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร กำนันตำบลพันท้ายนรสิงห์ และเทศบาลเมืองพันท้ายนรสิงห์ ร่วมกันจับกุม นายหมิงยิง แซ่จ้าว อายุ 28 ปี พร้อมของกลาง สินค้าประเภทเครื่องสำอางที่ไม่มีการจดแจ้ง และไม่มีฉลากหรือแสดงฉลากไม่ถูกต้อง (เครื่องสำอางฉลากภาษาจีน) จำนวน 5,124 ชิ้น จับกุมได้ที่โกดังแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 2 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยนายหมิงยิง เปิดขายสินค้าดังกล่าวผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เชื่อมโยงขบวนการส่งสินค้าที่ประชาชนไม่ได้มีการสั่งซื้อ มีการเรียกเก็บเงินปลายทาง (COD) และส่งสินค้าคุณภาพต่ำ


คดีที่หก สภ.เมืองสมุทรสงคราม จับกุมผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ฆาตกรรม นายติ๊ก เรืองรอง อายุ 69 ปี ถูกอาวุธปืนยิงที่ศีรษะ ภายในเพิงพักบริเวณนาเกลือ หมู่ 7 ต.บางแก้ว อ.เมืองฯ จ.สมุทรสงคราม โดยมีผู้พบศพเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2568 เวลา 20.20 น. ซึ่งทางด้าน สภ.เมืองสมุทรสงคราม บูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงานติดตามเร่งรัดคดีฆาตกรรมดังกล่าว กระทั่งได้เข้าจับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือ นายต๋อย ไวยโรจน์ อายุ 59 ปี กับ นายพูลสวัสดิ์ ศิริสาคร อายุ 61 ปี เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2568 พร้อมของกลางเป็น อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก เงินสด 5,000 บาท และยาบ้า 47 เม็ด สาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นชู้กับภรรยาของนายพูลสวัสดิ์


คดีที่เจ็ด สภ.ไร่สะท้อน จ.เพชรบุรี จับกุมผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา คือ นายพัฒนะ นิลสุข อายุ 44 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายรุ่งอรุณ เทียนขำ อายุ 46 ปี เสียชีวิตบริเวณถนนภายในซอย 5 บ้านไร่กร่าง หมู่ 5 ต.ไร่สะท้อน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี แล้วหลบหนีไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ทราบว่านายพัฒนะ หลบหนีมาอยู่ที่คอกวัวแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 6 ต.กุยเหนือ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงเข้าจับกุมตัวเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2568 เวลา 13.30 น. พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ โอกาสนี้ ทางครอบครัวของนายพัฒนะ ผู้เสียชีวิต ก็ได้เดินทางมาจาก จ.เพชรบุรี เพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ที่ช่วยติดตามคนร้าย คืนความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย



ทั้งนี้ พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7 กล่าวว่า การปฏิบัติงานของตำรวจภูธรภาค 7 ในคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมด เราไม่ได้ทอดทิ้ง เราพยายามควบคุมอาชญากรรม คืนความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

