
เหตุเพลิงไหม้โกดังสินค้าย่านบางปลา จ.สมุทรสาคร ผ่านไปแล้ว 2 วัน ไฟยังมอดไม่หมด เทศบาลตำบลบางปลา สั่งเจ้าหน้าที่ฯ ตรึงกำลังต่อเนื่อง พบแบตเตอรี่ไร้ มอก. ซุกชั้นใต้ดิน รอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้โกดังสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศจีน ของบริษัท ยูเมย์ โลจิสติกส์ จำกัด เลขที่ 47/45 หมู่ 4 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 16 พ.ย. 2568 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงฯ ได้ระดมฉีดน้ำจนสามารถควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัด ต่อมาเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 17 พ.ย. 2568 ก็ได้เกิดการปะทุขึ้นมาอีก เนื่องจากเพลิงได้ลุกลามลงไปที่ชั้นใต้ดินของตัวโกดัง ซึ่งทางเจ้าของสินค้าแจ้งภายหลังว่า มีสินค้าประเภท หัวเชื้อน้ำมันรวมปริมาณ 5,000 ลิตร แบตเตอรี่รถยนต์ รถจักยานยนต์ รถจักรยานไฟฟ้า เสื้อผ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า และสินค้าอื่น ๆ อีกจำนวนมาก กักเก็บไว้ที่ชั้นล่างสุดของตัวโกดัง ประกอบกับสภาพการทรุดตัวของโครงสร้างอาคาร ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เข้าไปช่วยกันดับเพลิงภายในพื้นที่เกิดเหตุ ต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ และไม่สามารถเข้าไปถึงจุดกลางของตัวโกดังได้ แม้จะใช้รถแบคโฮเข้ามาช่วยก็ตามที ส่งผลให้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา แม้ปริมาณแสงเพลิงส่วนใหญ่จะสงบลงแล้วกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ตรงกลางข้างล่างของตัวโกดัง ยังคงมีแสงไฟลุกอยู่ เนื่องจากน้ำฉีดเข้าไปไม่ถึง และยังไม่ปรากฎข้อมูลเป็นที่ชัดเจนได้ว่า บริเวณดังกล่าวมีการกักเก็บสินค้าประเภทใดกันแน่

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 พ.ย. 2568 ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายชาตรี โพธิ์อบ นายกเทศมนตรีตำบลบางปลา เจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสาคร และ เจ้าหน้าที่กองงานสาธารณสุข เทศบาลตำบลบางปลา ก็ได้เข้าไปตรวจติดตามสถานการณ์ในที่เกิดเหตุ พบว่า ในส่วนของการดับเพลิงนั้น มีการถอนกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่อาสาฯ ออกไปแล้ว เพื่อให้ทุกคนได้พักร่างกายหลังจากที่ต้องตรากตรำต่อสู้กับเหตุการณ์ไฟไหม้มาอย่างยาวนานเกือบ 48 ชั่วโมง คงไว้ซึ่งชุดปฏิบัติการดับเพลิงของเทศบาลตำบลบางปลา ที่ยังคงต้องตรึงกำลังเพื่อรอประเมินสถานการณ์ และคอยฉีดน้ำไปจุดยังที่มีไฟลุกขึ้นมา ขณะเดียวกัน ยังคงมีควันดำพวยพุ่งออกมาจากทางบริเวณด้านหลังของตัวโกดัง เนื่องจากการฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงยังเข้าไปไม่ถึงตรงกลางโกดัง


ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร กล่าวว่า จากการรวมกำลังของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยกันดับเพลิงโกดังเก็บสินค้าจีนแห่งนี้ ก็สามารถทำให้เพลิงสงบลงไปได้มากแล้ว แต่ยังไม่ดับทั้งหมด เพราะการฉีดน้ำยังเข้าไม่ถึงบริเวณตรงกลางของตัวโกดัง ต้องใช้ทั้งกำลังคนและรถแบคโฮค่อยๆ คลี่คลายไปเรื่อย ๆ คาดว่าจะใช้เวลาอีกราว 2 วัน ทั้งเปลวเพลิงและกลุ่มควันไฟก็จะดับสนิทลง ซึ่งทางเทศบาลตำบลบางปลา ได้มีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ ทางเทศบาลฯ ก็จะได้เรียกเจ้าของสินค้า ที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีอยู่ประมาณ 5 ราย มาพูดคุยเพื่อสอบถามข้อมูลสินค้า และปริมาณอย่างละเอียด เพื่อการประเมินสถานการณ์ได้ว่า จะเกิดการปะทุขึ้นมาอีกหรือไม่ ขณะเดียวกันในส่วนของสินค้าที่พบเห็นกระจัดกระจายอยู่ทั้งในโกดังที่เกิดไฟไหม้ และรอบ ๆ โกดังนั้น ก็มีมากมายหลายอย่างและมีจำนวนมหาศาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ได้เป็นอย่างดี ส่วนพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้ สามารถมาแจ้งปัญหาความเดือดร้อนได้ที่เทศบาลตำบลบางปลา เพื่อนำสู่การพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามระเบียบข้อบังคับ

นอกจากนี้ทางเทศบาลตำบลบางปลา จะได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สรรพากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบสินค้าต่าง ๆ อีกด้วย เนื่องจากพบว่ามีสินค้าบางประเภท อาทิ แบตเตอรี่รถยนต์ ที่ถูกขนย้ายออกมากองไว้นั้น เป็นสินค้าที่ผลิตและนำเข้ามาจากประเทศจีน แม้จะมีฉลากภาษาไทยกำกับ แต่ไม่ปรากฎเครื่องหมาย มอก. ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบคุณภาพสินค้าและการนำเข้ามาอย่างละเอียดเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำความผิดต่อไป

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

