“บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.ตม. สั่งการให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปิดล้อมตรวจค้นหอพักย่านโคกขาม พบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 36 คน คนไทย 1 คน ข้อหายาเสพติด อาวุธปืน และเข้าเมืองผิด กม. ตะลึงในหอพักมีการผลิตน้ำกระท่อมขนาดใหญ่ส่งขายแรงงานต่างด้าว เจ้าของหอพักอ้างไม่รู้เห็น ขณะที่ บิ๊กโจ๊ก ลั่นต่างด้าวผิดกฎหมายต้องเป็นศูนย์
เมื่อ 10.00 น. วันที่ 16 ต.ค. 2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.ตม.) สั่งการให้ พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รักษาราชการแทน ผู้บังคับการศูนย์สืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบก.สส.สตม.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.เดชรพี คงดี ผกก.ตม.จังหวัดสมุทรสาคร นำกำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สนธิความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.), ตำรวจสืบสวน กก.1 บก.ทท.3, ตำรวจ สภ.โคกขาม, ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ทหารค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน
เข้าปิดล้อมตรวจค้นหอพักไชยยันบูรณ์ เลขที่ 25/2 ม.4 ต.โคกขาม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เนื่องจากได้รับแจ้งจากสายตำรวจว่ามีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายอาศัยอยู่ และมีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ภายในหอพักมีห้องของแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 90 ห้อง ขณะตรวจค้นมีผู้พักอาศัยเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 140 คน และคนไทย 1 คน จึงได้ตรวจสอบหลักฐานการเข้าเมืองฯ พบแรงงานกระทำความผิดทั้งหมด 37 คน เป็นคนต่างด้าว 36 คน กับ คนไทยอีก 1 คน จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดไว้
ในจำนวนนี้มีผู้ต้องหา 19 คน กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ 2 คดี โดยคดีที่ 1 ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายและครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต กับ คดีที่ 2 ข้อหาร่วมกันผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 (น้ำกระท่อม) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนที่เหลือเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง เช่น อยู่อาศัยในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต 13 คน, อยู่ในราชอาณาจักรโดยกายอนุญาตสิ้นสุดลง, ไม่แจ้ง 90 วัน, ไม่แจ้งเปลี่ยนที่พักตามมาตรา 37 และบุคคลพื้นที่สูงออกนอกเขต เป็นต้น
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เข้าตรวจค้นภายห้องพักแต่ละห้อง โดยเกือบ 10 ห้องที่แรงงานต่างด้าวเช่าพักอาศัย พบมีการผลิตน้ำกระท่อมภายในห้อง มีทั้งใบกระท่อมสด อุปกรณ์การปั่น การต้ม การกรอง ยาแก้ไอไว้สำหรับผสมน้ำกระท่อม และน้ำกระท่อมบรรจุขวดน้ำอัดลมพลาสติกแช่ไว้ในตู้เย็นจำนวนมาก บางห้องเปลี่ยนจากห้องพักอาศัยเป็นห้องสำหรับผลิตน้ำกระท่อมเพียงอย่างเดียว สอบถามผู้ต้องหาชาวต่างด้าว บอกว่า ได้ผลิตน้ำกระท่อมขายให้กับแรงงานต่างด้าว โดยขวดเล็กขายในราคาขวดละ 50 บาท ขวดใหญ่ 1.25 ลิตร ขายในราคาขวดละ 100 บาท ส่วนยาแก้ไอนั้นผสมลงไปในน้ำกระท่อมส่งผลทำให้มีฤทธิ์กดประสาท โดยผู้ดื่มเข้าไปจะรู้สึกสดชื่นมากขึ้นและทำงานได้มากขึ้น
ทั้งนี้ จากการรวบรวมสิ่งผิดกฎหมายได้ของกลางทั้งหมด ประกอบไปด้วย ยาบ้า 105 เม็ด, ยาไอซ์ 0.7 กรัม, อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง, กัญชาแห้ง 1.8 กรัม, น้ำกระท่อมต้มสุก 65 ขวด, ยาแก้ไอยี่ห้อกูสเฟน (ไม่มี อย.) จำนวน 476 ขวด, ใบกระท่อมสดจำนวนมาก, อุปกรณ์การเสพยาเสพติด และอุปกรณ์สำหรับการต้มน้ำกระท่อมอีกหลายรายการ
จากการสอบถามนายกมลธร ไชยยันบูรณ์ อายุ 45 ปี เจ้าของหอพัก บอกว่า ตนเองเปิดหอพักดังกล่าวมาประมาณ 10 ปีแล้ว แต่ช่วงหลังไม่ได้อยู่ดูแลเพราะต้องไปทำธุรกิจที่ต่างจังหวัด จึงให้ลูกหลานดูแลแทน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง ส่วนเรื่องที่มียาเสพติดและอาวุธปืนนั้นตนไม่รู้เรื่อง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.โคกขาม เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่แรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายทั้งหมดจะถูกดำเนินคดี ทั้งกฎหมายยาเสพติดและลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.ตม. พร้อมด้วย นายพิริยะ ฉันทดิลก รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท.ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย รรท.ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และ พ.ต.อ.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการปิดล้อมตรวจค้นโรงงานและที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าว ตามมาตรการของรัฐบาล ที่กำหนดว่าประเทศไทยจะต้องไม่มีแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย หรือหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หรือพักอาศัยอยู่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งวันนี้จะต้องทำให้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในประเทศไทยกลายเป็นศูนย์ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับประชาชนคนไทยในทุกพื้นที่ โดยการเข้าตรวจค้นนำร่องนั้น ได้มีการเข้าตรวจค้น 2 จังหวัด 3 จุด ในพื้นที่ จ.สมุทรสาครและสมุทรปราการ เนื่องจากมีโรงงานสถานประกอบการและที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าวอยู่เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้ฝากไปยังผู้ประกอบการโรงงานกับเจ้าของหอพักต่างๆ ที่ให้แรงงานต่างด้าวเช่าพักอาศัยนั้น จะต้องควบคุมไม่ให้มีแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายหรือแรงงานต่างด้าวที่กระทำความผิดทางกฎหมาย ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในสถานประกอบการหรือที่พักอาศัยอย่างเด็ดขาด สำหรับผู้กำกับการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทุกจังหวัด จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการเข้าตรวจค้นโรงงานต่าง ๆ ด้วยการบูรณาการกำลังร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 38 ของ พ.ร.บ.แรงงานต่างด้าว ซึ่งหากปล่อยปละละเลยก็ได้มีการคาดโทษไว้แล้ว
ในส่วนของเจ้าของหอพักจะต้องถูกดำเนินคดีฐานให้ที่พักพิงแก่แรงงานต่างด้าวโดยไม่แจ้งต่อตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและคดียาเสพติดให้โทษด้วย ส่วนแรงงานต่างด้าวที่กระทำความผิดทั้งหมดนั้น ก็จะต้องถูกนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันออกนอกราชอาณาจักรต่อไป
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ