สมุทรสาคร 1,455 ร้านค้า เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง”

23 ตุลาคม 2563 เป็นวันแรกที่รัฐบาลจะเปิดระบบให้ประชาชน 10 ล้านคน ใช้สิทธิในโครงการ “คนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย

โดยรัฐบาลจะให้ส่วนลด 50% เมื่อใช้จ่ายตามร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านค้าโอทอป สินค้าธงฟ้า และสินค้าทั่วไป โดยใช้สิทธิผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” สูงสุดไม่เกิน 150 บาทต่อวัน และไม่เกิน 3,000 บาทตลอดโครงการ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563

ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องลงทะเบียนที่เว็บไซต์ คนละครึ่ง.com และได้รับ SMS ยืนยัน จากนั้นให้เติมเงินลงใน G-Wallet ก่อนสแกนจ่ายตามร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ระบบจะหักส่วนลด 50% โดยอัตโนมัติ ส่วนที่เหลือชำระผ่าน G-Wallet ที่เราเติมไว้

สามารถเติมเงินผ่าน Mobile Banking, QR Payment หรือตู้ ATM โดยใช้เลขที่ G-Wallet ด้านบนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”

สมมติว่า ค่าอาหารทั้งหมด 200 บาท หากชำระผ่านโครงการคนละครึ่งโดย “สแกน QR เพื่อใช้คูปอง” ระบบจะแสดงส่วนลด “สิทธิเงินสนับสนุนคนละครึ่ง” 100 บาท ยอดเงินที่ต้องชำระ 100 บาท

อย่างไรก็ตาม หากใช้จ่ายมากกว่า 300 บาทขึ้นไป สิทธิเงินสนับสนุนคนละครึ่ง จะได้สูงสุดแค่ 150 บาทเท่านั้น สมมติว่า ค่าอาหารทั้งหมด 500 บาท ระบบจะแสดงส่วนลด “สิทธิเงินสนับสนุนคนละครึ่ง” เพียง 150 บาท ยอดเงินที่ต้องชำระ 350 บาท

แต่ถ้าในแต่ละวันใช้ไม่หมด ระบบจะคืนสิทธิที่ไม่ได้ใช้ เข้ายอดรวมของผู้ได้รับสิทธิ และจะคำนวณสิทธิใหม่ในเวลา 6.00 น. ของทุกวัน โดย 1 คนสามารถใช้สิทธิได้ไม่เกิน 3,000 บาทตลอดโครงการ

“สาครออนไลน์” สำรวจไปยังเว็บไซต์ คนละครึ่ง.com พบว่าจังหวัดสมุทรสาครมีร้านค้าที่ลงทะเบียน 1,455 แห่ง เป็นอันดับที่ 47 แต่เมื่อจำแนกข้อมูลพบว่า ร้านอาหารและเครื่องดื่มมากที่สุด รองลงมาคือสินค้าทั่วไป สินค้าธงฟ้า และร้านค้า OTOP

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เป็นกิจการประเภท ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไป และผู้ประกอบการรายย่อย ในรูปแบบบุคคลธรรมดา ไม่ได้จดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคล จึงมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการไม่คุ้นชื่อนัก

จากฐานข้อมูลพบว่า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ประกอบด้วย อำเภอเมืองสมุทรสาคร 432 แห่ง กระทุ่มแบน 221 แห่ง และบ้านแพ้ว 89 แห่ง ร้านสินค้าทั่วไป ประกอบด้วย อำเภอเมืองสมุทรสาคร 122 แห่ง กระทุ่มแบน 43 แห่ง และบ้านแพ้ว 32 แห่ง

ร้านสินค้าธงฟ้า ประกอบด้วย อำเภอเมืองสมุทรสาคร 53 แห่ง กระทุ่มแบน 37 แห่ง และบ้านแพ้ว 17 แห่ง ร้านค้า OTOP ประกอบด้วย อำเภอเมืองสมุทรสาคร 3 แห่ง กระทุ่มแบน 7 แห่ง และบ้านแพ้ว 3 แห่ง ที่เหลือไม่ระบุชื่ออำเภอ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังมีมาตรการที่ชื่อว่า “ช้อปดีมีคืน” โดยเมื่อซื้อสินค้าและบริการ ตั้งแต่ 23 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2563 ให้ขอใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี ตามจำนวนที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท

ผู้ที่ได้รับสิทธิและใช้สิทธิในโครงการคนละครึ่งแล้ว จะไม่ได้รับสิทธิมาตรการช้อปดีมีคืน จึงควรที่จะพิจารณาว่าเราจ่ายภาษีเงินได้เป็นประจำทุกปีหรือไม่ และไลฟ์สไตล์ในการจับจ่ายในชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ

-กิตตินันท์ นาคทอง-

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *