
สมุทรสาคร ซิตี้ ดึง “น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม นั่งประธานเทคนิค “นายกถัง” เผยมีอิมพอร์ต 3 แข้งนอกจากแคเมอรูนเสริมทัพ ส่วนขุมกำลังมั่นใจคุณภาพนักเตะตัวจริง-สำรองใกล้เคียงกัน มีลุ้นขึ้นชั้น เรื่องสนามมีการปรับปรุงไฟส่องสว่างให้พร้อมแข่งขันช่วง 6 โมงเย็น โปรแกรมอุ่นเครื่อง ส.ค. นี้ มีคิวพบกับ 2 ทีมจากโซนตะวันตก
ความเคลื่อนไหวของทีม “พยัคฆ์สาคร” สมุทรสาคร ซิตี้ ในการเตรียมลงสู้ศึกไทยลีก 3 โซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฤดูกาล 2023-24 ล่าสุดลงเล่นนัดอุ่นเครื่องเอาชนะ “ช้างตกมัน” ทัพหลวง ยูไนเต็ด ทีมน้องใหม่จากไทยลีก 3 โซนภาคตะวันตก ที่เพิ่งเลื่อนชั้นจากเซมิโปรลีก ด้วยสกอร์ 2-5 ณ สนามซ้อมทีมทัพหลวงยูไนเต็ด จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา


วันนี้ (1 ส.ค.) “นายกถัง” วิชัย ถีระปราโมทย์ ผู้จัดการทีมสโมสรสมุทรสาคร ซิตี้ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงการเตรียมทีมว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม โค้ชมากประสบการณ์ ที่เคยสร้างตำนานจากการคุมทีม “ปลาทูคะนอง” สมุทรสงคราม เอฟซี ซึ่งช่วงนี้เพิ่งหมดสัญญากับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด และว่างงานอยู่ จึงได้เชิญมาร่วมงานให้มาเป็นประธานเทคนิค ดูแลเรื่องแท็กติกต่าง ๆ เพื่อช่วย “อเดบาโย กาเดโบ” เฮดโค้ชของทีม สร้างผลงานให้ทีมลุ้นไปเล่นในรอบแชมเปียนส์ลีก เพื่อโอกาสเลื่อนชั้นต่อไป
ทางด้านการตัดตัวนักเตะในทีม สำหรับนักเตะไทยดำเนินการไปแล้ว 99 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนักเตะต่างชาติคาดว่าใน 1-2 วันนี้ จะเดินทางมาร่วมทีม โดยเป็น 3 นักเตะอิมพอร์ตจากแคเมอรูน ทั้งตำแหน่งศูนย์หน้า กองกลาง และเซ็นเตอร์แบ็ค ที่จะมาช่วยทีมในซีซั่นนี้ แต่ก็ต้องดูอีกครั้งว่าจะเลือกนักเตะต่างชาติคนใดส่งลงเล่นในไทยลีก 3 ส่วนอีกคนหนึ่งจะใช้ลงเตะในฟุตบอลถ้วย ด้วยตัวนักเตะต่างชาติเรามี ดิยุฟ บีรัม ยืนพื้นอยู่แล้ว โดยเซ็นสัญญาต่อเนื่องจากซีซั่นที่แล้วมาช่วยทีม ซึ่ง ดิยุฟ มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วย พยัคฆ์สาคร ให้ขึ้นชั้นไปเล่นในไทยลีก 2 ให้ได้

“ตอนแรกนักเตะที่จะส่งไทยลีก 3 เต็มที่ 25 คน แต่นักเตะที่มีอยู่ก็ตัดตัวไม่ลง เนื่องจากเรากลัวเรื่องตัวผู้เล่นมีอาการบาดเจ็บบ้าง ไม่พร้อมลงสนามบ้าง เราก็เคยมีประสบการณ์จากเลกที่ 2 เมื่อซีซั่นที่แล้ว ตัวสำรองของเราไม่สามารถที่จะทดแทนกับตัวจริงได้ แต่ในซีซั่นนี้คุณภาพนักเตะทั้งตัวจริงและตัวสำรองใกล้เคียงกันหมด ดังนั้นเราก็ไม่ค่อยวิตกกังวลเท่าไหร่ ซึ่งในไทยลีก 3 ซีซั่นนี้ มีเกมลงเตะทั้งนัดสุดสัปดาห์และนัดกลางสัปดาห์ด้วย นักเตะที่จะมีอาการบาดเจ็บก็อาจจะเกิดขึ้นได้กับทุกทีม
รอบนี้ สมุทรสาคร ซิตี้ มีประสบการณ์แล้ว ดังนั้นนักเตะมีฝีเท้าใกล้เคียงกัน จึงจะสามารถลุ้นคว้าตั๋วไปเล่นในรอบแชมเปียนส์ลีก ขยับขึ้นไปเล่นในลีกที่สูงขึ้นได้ ส่วนในเลกที่ 2 จะต้องดูอีกทีหนึ่งว่าจะมีเสริมทีมเพิ่มอีกหรือไม่ ถ้ามีตัวนักเตะเพียงพอ ไม่มีอาการบาดเจ็บ มาตรฐานและคุณภาพเพียงพอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสริมทีม แต่ถ้ามีอาการบาดเจ็บ ก็ยังมีพื้นที่ให้นักเตะใหม่เข้ามาเสริมทีม” นายกถัง กล่าว
เมื่อถามถึงเรื่องความพร้อมของสนามมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร ที่ใช้เป็นรังเหย้าในไทยลีก 3 โซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฤดูกาลนี้ นายกถัง ชี้แจงว่า สามารถลงแข่งขันในช่วงเย็นได้เลย ขณะนี้กำลังเช็คเรื่องระบบไฟฟ้าส่องสว่าง เพราะตอนนี้ทางไทยลีก 3 จะอนุโลมเรื่องความสว่างของสนาม ซึ่งสเปกเดิมอยู่ที่ 600 ลักซ์ แต่ในการประชุมฯ ครั้งที่แล้วได้ลดให้เหลือ 400 ลักซ์ ก็เหลือแค่ปรับปรุงเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ซึ่งเกมอุ่นเครื่องในบ้านกับ นครศรี ยูไนเต็ด เมื่อ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา ก็ได้มีการทดลอง พบว่าความสว่างตรงกลางสนามดรอปลงเล็กน้อย เบื้องต้นจะเสนอกับทางไทยลีกให้มีการแข่งขันในเวลา 18.00 น. เพื่อให้แฟนคลับ พยัคฆ์สาคร เข้ามาเชียร์และติดตามชมเกมในสนาม

นายกถัง กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับโปรแกรมอุ่นเครื่องนัดต่อไปจะพบกับ “ทัพบัวหลวง” พีทียู ม.ปทุมธานี เอฟซี ทีมจากไทยลีก 3 โซนภาคตะวันตก ในวันที่ 5 ส.ค. 66 เวลา 16.00 น. ณ สนามกีฬาราชคราม สปอร์ตคลับ บางไทร ก่อนที่ในช่วงกลางเดือน ส.ค. จะพบกับ “เรือใบสีขาว” หัวหิน ซิตี้ ทีมจากไทยลีก 3 โซนภาคตะวันตก โดยจะลงแข่งขัน 2 นัด ผลัดกันเป็นเจ้าบ้าน ซึ่งทีม หัวหิน ซิตี้ มีเป้าหมายเหมือนกับเรา ที่จะไปเล่นในรอบแชมเปียนส์ลีก ขึ้นชั้นสู่ไทยลีก 2 เช่นเดียวกัน
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง