
นายก อบจ.สมุทรสาคร ลงพื้นที่ติดตามการติดตั้งเครื่องสูบน้ำจืด เพื่อส่งช่วยเหลือชาวบ้าน 3 ตำบล ที่ประสบภาวะน้ำเค็มรุกพื้นที่เกษตรกรรม
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ม.ค. 2567 นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย นายอภิชาต โพธิ์ถนอม รองนายก อบจ.สมุทรสาคร ลงพื้นที่บริเวณหมู่ 1 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อติดตามการติดตั้งเครื่องสูบน้ำจืดจากคลองลำประโดง นำใส่รถบรรทุกน้ำส่งไปช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรตามสวนต่าง ๆ ที่ประสบปัญหาน้ำเค็มรุกพื้นที่เกษตรกรรมจนไม่มีน้ำจืดใช้ โดยมีผู้นำหมู่บ้านจากตำบลท่าไม้ บางยาง รวมถึงตัวแทนเกษตรกร และเจ้าหน้าที่จาก อบต.ท่าไม้ ร่วมลงพื้นที่ด้วย
สำหรับจุดที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจะเป็นคลองหลอดหรือคลองลำประโดงในพื้นที่ ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน ที่เชื่อมต่อกับคลองบางม่วง อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นคลองที่มีน้ำจืดส่งผ่านมาได้ จากนั้นก็จะทำการสูบน้ำจากคลองใส่รถน้ำดับเพลิงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น อบต.ท่าไม้ อบต.บางยาง อบต.หนองนกไข่ และ อบจ.สมุทรสาคร แล้วนำไปส่งให้กับเกษตรกรตามสวนต่าง ๆ ที่ต้องการน้ำจืดเพื่อใช้ในการเกษตร ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันนี้ พบว่ายังมีบางวันที่สามารถนำน้ำในแม่น้ำท่าจีนมาใช้ได้ เพราะค่าความเค็มยังขึ้นลงไม่คงที่ แต่ถ้าถึงช่วงที่เข้าสู่ภาวะน้ำเค็มรุกเต็มพื้นที่เมื่อใดนั้น ในแต่ละวันก็จะต้องวิ่งส่งน้ำกันหลายรอบ เพราะมีสวนกว่า 1,000 แห่งที่ต้องการน้ำจืด

ด้านตัวแทนผู้นำท้องที่ บอกว่า ปีนี้น้ำเค็มรุกมาเร็วมาก และคาดว่าจะมีความรุนแรงและยาวนานกว่าทุกปี โดยน้ำเค็มได้เกิดขึ้นมาหลายสิบวันแล้ว ที่ผ่านมาค่าความเค็มบางวันก็สูงเกินค่ามาตรฐาน จนไม่สามารถนำน้ำไปใช้ได้ โดยเฉพาะในสวนกล้วยไม้ที่อ่อนไหวต่อความเค็ม จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการส่งน้ำจืดเข้าไปเก็บตามบ่อของสวนต่าง ๆ และตอนนี้ทางท้องถิ่นที่มีเกษตรกรได้รับผลกระทบ ก็เปิดให้เกษตรกรมาลงชื่อเพื่อขอรับน้ำจืด ต่อจากนั้นก็จะมีการสูบน้ำใส่รถดับเพลิงเพื่อนำไปส่งให้ตามสวนต่าง ๆ ที่ร้องขอไว้ นอกจากนี้ กรมชลประทานก็จะเข้ามาช่วยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อบรรเทาช่วยเหลือปัญหาดังกล่าวอีกด้วย โดยจะติดตั้งในวันที่ 22 ม.ค. ที่จะถึงนี้ ในพื้นที่ ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
ส่วนตัวแทนเกษตรกร กล่าวเสริมด้วยว่า ในมุมของเกษตรกรที่ต้องประสบกับปัญหาน้ำเค็มรุกพื้นที่เกษตรกรรมทุกปี จนไม่สามารถนำน้ำมาใช้ทำการเกษตรได้นั้น ก็ต้องการให้ทางจังหวัดสมุทรสาคร หรือภาครัฐ ผลักดันให้สถานการณ์น้ำเค็มรุกพื้นที่เกษตรกรรมนี้เป็นพิบัติภัย หรือภัยทางธรรมชาติ ที่สามารถขอรับเงินเยียวยา หรือมีการจัดสรรงบประมาณมาเพื่อการแก้ไขและบรรเทาทุกข์ที่เกิดขึ้นกับพี่น้องเกษตรกรในทุกพื้นที่ได้ เช่นเดียวกับพิบัติภัยอื่น ๆ

ขณะที่นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร บอกว่า เรื่องของน้ำเค็มรุกพื้นที่เกษตรกรรมนั้น เป็นปัญหาที่พี่น้องเกษตรกรของ จ.สมุทรสาคร ที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำท่าจีนต้องประสบมาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยทาง อบจ.สมุทรสาคร ได้มีการเตรียมความพร้อมเบื้องต้นให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ได้รับผลกระทบด้วยการขุดลอกคลองและเก็บวัชพืชทางน้ำไหลผ่านไว้แล้ว กระทั่งเมื่อมีน้ำเค็มรุกเบื้องต้นก็คือการแก้ปัญหาที่สามารถทำได้ในระยะเร่งด่วนก่อน อย่างเช่น การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถดับเพลิง ทั้งของ อบจ.สมุทรสาคร และ อปท.เพื่อนำน้ำใส่รถแล้ววิ่งส่งช่วยเกษตรกรที่ลงทะเบียนไว้ รวมทั้งการพยายามเชื่อมต่อคลองสาขาหรือการหาแนวทางเพื่อวางท่อส่งน้ำให้เชื่อมโยงถึงกัน สามารถส่งน้ำจืดไปได้แบบครอบคลุมโดยไม่ต้องใช้รถส่งน้ำ
ส่วนเรื่องของทำประตูปิดแม่น้ำท่าจีน เป็นโครงการที่ทางกรมชลประทานกำลังมีการพิจารณาอยู่ นอกจากนี้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบก็จะต้องติดตามค่าความเค็มของน้ำอย่างต่อเนื่อง เพราะว่ามีความผันผวนเกินขึ้นได้ตลอด และยิ่งเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุน จะพบว่าค่าความเค็มสูงขึ้นด้วย

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ