
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ตรวจเยี่ยมแรงงานกัมพูชา ของสถานประกอบการ 2 แห่ง ภายในในนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร เผยทุกคนยังต้องการทำงานเหมือนเดิม ไม่มีใครขอลาออก พร้อมฝากแรงงานทุกคนรักผืนแผ่นดินไทยด้วย ขณะที่ตัวเลขแรงงานกัมพูชาในจังหวัดฯ มีอยู่ราว 7 พันคน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. 2568 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย น.ส.พินยุดา แจ่มจันทร์ศรี แรงงานจังหวัดสมุทรสาคร นายวันชัย สาครมณีรัตน์ จัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร พ.จ.ต.พิระ โชคบุญเจริญ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึง นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร น.ส.กฤษฎาพร บุญอยู่ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ได้เข้าตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์การใช้แรงงานสัญชาติกัมพูชาในสถานประกอบการ 2 แห่ง ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร หมู่ 2 ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร

แห่งแรก บริษัท สยามอินเตอร์ล็อคเทค จำกัด ผู้ผลิตกุญแจและบานพับ มีแรงงานกัมพูชา จำนวน 180 คน ส่วนแห่งที่สอง บริษัท สยามชัยพอยท์ จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจประเภทอุตสาหกรรมยานยนต์ มีแรงงานกัมพูชา จำนวน 94 คน โดยแรงงานสัญชาติกัมพูชาของทั้งสองบริษัทฯ ได้เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับสวัสดิการตามที่กฎหมายไทยกำหนด มีการทำงานร่วมกับแรงงานไทย ซึ่งที่ผ่านมาสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสงบสุข และปฏิบัติตามกฎระเบียบของบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา

นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เนื่องจากจังหวัดสมุทรสาคร มีการใช้แรงงานข้ามชาติอยู่เป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือแรงงานสัญชาติกัมพูชา และจากการสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น อาจมีแรงงานกัมพูชาบางส่วนที่ต้องการเดินทางกลับประเทศต้นทาง ส่งผลกระทบต่อสถานประกอบการได้ ดังนั้นจึงได้ลงพื้นที่มาดูสภาพการจ้าง พูดคุยถึงความสุขและความพึงพอใจของแรงงานกัมพูชาที่มีต่อการทำงานและนายจ้าง ซึ่งจากการตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ 2 แห่ง ได้พูดคุยกับทางผู้ประกอบการและแรงงานโดยตรงนั้น ทราบว่าแรงงานกัมพูชายังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ทุกคนยังต้องการทำงานเหมือนเดิม อีกทั้งยังตระหนักถึงความสามัคคีในการอยู่ร่วมกันกับคนไทย รักษาไว้ซึ่งความสงบสุขที่พึงมีต่อกันอีกด้วย


นอกจากนี้ ในการลงพื้นที่ดังกล่าวนั้น เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนด้วยว่ารัฐบาลไทย หรือภาคส่วนราชการ และผู้ประกอบการในจังหวัดสมุทรสาคร ไม่มีมาตรการในการผลักดันแรงงานกัมพูชาที่เดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้น กลับออกไปยังประเทศต้นทางแต่อย่างใดทั้งสิ้น จึงขอให้ทุกคนทำงานกันไปตามปกติอย่างเช่นที่ได้รับการจ้างงาน แต่นอกจากจะรักในงานที่ทำแล้ว ก็ขอให้ทุกคนรักผืนแผ่นดินไทยด้วย ส่วนมาตรการในด้านการป้องกันและควบคุมแรงงานผิดกฎหมายที่อาจจะลักลอบเข้ามาทำงานในจังหวัดสมุทรสาครนั้น ทางจังหวัดฯ ได้มีมาตรการสำคัญ โดยมีคำสั่งเด็ดขาดให้ทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันจัดระเบียบสังคม ป้องกันไม่ให้มีการใช้แรงงานผิดกฎหมายในจังหวัดสมุทรสาคร หากพบการกระทำความผิดก็ต้องนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด

ทางด้านผู้แทนสถานประกอบการหรือนายจ้าง ก็บอกว่า แรงงานกัมพูชานั้นยังทำงานกันเหมือนเดิม ไม่มีใครขอลาออกเพื่อกลับประเทศ และก็รักในการทำงาน และรักนายจ้างคนไทย จึงเชื่อมั่นได้ว่าทุกคนจะร่วมกันรักษาความสงบเรียบร้อย อีกทั้งยังจะเป็นฟันเฟืองที่มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป ไม่มีผลกระทบตามมาอย่างแน่นอน

สำหรับจังหวัดสมุทรสาคร ปัจจุบันมีแรงงานสัญชาติกัมพูชา ที่ขออนุญาตเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 7,808 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานก่อสร้าง รองลงมาเป็นแรงงานในสถานประกอบการประเภทอุตสาหกรรมทั่วไป ขณะที่สถานการณ์โดยรวม ณ ปัจจุบันนั้น ยังไม่พบว่ามีผู้ใช้แรงงานกัมพูชาขอเดินทางกลับประเทศต้นทาง ทุกคนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อการทำงานที่จังหวัดสมุทรสาคร

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ