เกิดเหตุชายสติไม่ดี นำสีมาสาดใส่รอบผนังโบสถ์มหาอุตม์ อายุกว่า 400 ปี ของวัดนางสาว จ.สมุทรสาคร ทางวัดเร่งขัดล้าง ส่วนผู้ลงมือถูกตำรวจคุมตัวได้ทันควัน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีคนนำสีมาสาดใส่ที่ฝาผนังด้านนอกโบสถ์มหาอุตม์ของวัดนางสาว ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โบสถ์เก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา อายุกว่า 400 ปี เมื่อไปถึงก็พบว่ามีทั้งผนังรอบโบสถ์มหาอุตม์ เสมา และพื้นปูน ถูกสีส้มสาดใส่ไปทั่ว โดยมีพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งเป็นพระลูกวัดของวัดนางสาว กำลังช่วยกันเช็ดถูผนังด้านนอก และทำความสะอาดพื้นในส่วนที่ยังขัดล้างสีออกไม่หมด
จากการสอบถามจากการสอบถามพระฐิตธัมโม พระลูกวัดนางสาว เล่าเหตุการณ์ว่า โบสถ์มหาอุตม์แห่งนี้ เป็นสถานที่สำหรับสวดมนต์ปฏิบัติธรรมของพระในตอนเช้าของทุกวัน เช้าวันนี้ขณะที่พระกำลังจะเดินไปที่โบสถ์มหาอุตม์ ก็มีชาวบ้านมาบอกว่ามีคนนำสีมาสาดใส่ผนังโบสถ์มหาอุตม์ แต่ไม่เห็นคนก่อเหตุ เมื่อไปดูก็พบว่ามีสีส้มสาดไปทั่วผนังโบสถ์และบริเวณโดยรอบ อีกทั้งยังพบหยดสีเป็นทางยาว แต่ไม่มีใครเห็นคนที่ลงมือก่อเหตุดังกล่าว และไม่รู้ว่าทำไปทำไม ทางวัดนางสาว และ อบต.ท่าไม้ จึงได้ใช้น้ำมันซักแห้งมาขัดล้างโดยรอบผนังโบสถ์ออกก่อน เนื่องด้วยสียังสดใหม่เพราะเพิ่งโดนสาด แต่ที่บริเวณลานพื้นปูนกับ เสมาต้องมีการทำความสะอาดและทำสีใหม่ ยกเว้นส่วนที่ยังไม่โดนแดดนั้นยังสามารถเช็ดล้างได้
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุและเข้าตรวจสอบเก็บรายละเอียดหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว ก็ได้มีนำตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งไปสอบปากคำที่ สภ.กระทุ่มแบน เพราะพบว่าที่ฝ่าเท้าและบางส่วนของลำตัวมีรอยเปื้อนของสี เบื้องต้นพบว่าเป็นบุคคลที่มีสติไม่สมประกอบ (ตามบัตรทางการแพทย์ที่พบในตัวบุคคล) จึงได้ควบคุมตัวไว้เพื่อรอการตรวจพิสูจน์อย่างชัดเจนอีกครั้ง
สำหรับโบสถ์มหาอุตม์ของวัดนางสาวนั้น เป็นโบสถ์โบราณที่มีลักษณะแปลกกว่าโบสถ์อื่น ๆ คือ เป็นโบสถ์ที่มีประตูเข้า – ออกเพียงทางเดียว ไม่มีหน้าต่าง หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา พัทธสีมาเป็นสองชั้น ไม่ปรากฏว่าได้ก่อสร้างขึ้นมาสมัยใด แต่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น มีอายุมากว่า 400 ปี นับเป็นโบสถ์ที่มีเหลือให้เห็นอยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย และโบสถ์มหาอุตม์ที่วัดนางสาวแห่งนี้ยังมีความสมบูรณ์ที่สุดอีกด้วย
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ