
คณะอนุกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวฯ วุฒิสภา ลงพื้นที่สมุทรสาคร รับทราบนโยบายสร้างความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. 2568 คณะอนุกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา นำโดย พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ ดร.นิคม มากรุ่งแจ้ง สมาชิกวุฒิสภา และคณะอนุกรรมาธิการฯ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อประชุมรับทราบนโยบายการสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสาคร โดยมี นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย ดร.พรรณพิมล ฉายาจิตชยวัศ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร นายชัยวิทย์ เผื่อนอุดม ผอ.ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม พ.ต.อ.อดุลย์ชัย เผ่าพันธุ์ศร รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสมุทรสาคร นายชัยพร ศิริพงษ์เวคิน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ตลอดจนผู้แทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมให้การต้อนรับและให้ข้อมูลนโยบายการสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสาคร



นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยจุดแข็งด้านภูมิศาสตร์ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล และเป็นศูนย์กลางการประมง การแปรรูปอาหารทะเล รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก จึงทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดมีความเข้มแข็งและหลากหลาย ขณะที่ด้านการท่องเที่ยวได้ตั้งเป้าหมายให้จังหวัดฯ เป็นเมืองท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ เป็นพื้นที่ที่มีป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ มีวัฒนธรรมประเพณีจากหลากหลายชาติพันธุ์ รวมตัวกันเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม มีวิถีชีวิตชุมชนที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น จึงเหมาะกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม
โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง เช่น สะพานแดง ศาลพันท้ายนรสิงห์ ชุมชนบ้านท่าฉลอม ชุมชนเบญจรงค์ดอนไก่ดี รวมทั้งการท่องเที่ยวเชิงเกษตร สวนมะพร้าว สวนองุ่น อีกทั้งยังมีร้านอาหารจำนวนมากที่มีวัตถุดิบสดใหม่ สะอาด และรสชาติดี จึงเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ต้องการท่องเที่ยวแบบ One Day Trip นอกจากนี้ จังหวัดสมุทรสาครยังมีกิจกรรมกีฬาและนันทนาการที่ส่งเสริมไห้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีสุขภาพที่ดี เช่น การจัดงานวิ่ง การจัดแข่งจักรยาน เป็นต้น
ในเรื่องของความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่จังหวัดสมุทรสาครให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อสร้างระบบรักษาความปลอดภัยอย่างรอบด้าน ทั้งด้านสาธารณสุข การคมนาคม การดูแลสิ่งแวดล้อม และการให้บริการที่เป็นมิตรและอบอุ่นในฐานะเจ้าบ้าน



นายนริศ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสาครนั้น มีปัญหาใหญ่ ๆ ที่พบ คือ เส้นทางคมนาคมบนถนนพระราม 2 ที่ยังคงเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเดินทางผ่านถนนเส้นดังกล่าว ซึ่งไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ขยายไปถึงเรื่องการค้าขายอาหารทะเล และร้านอาหารในจังหวัดฯ อีกด้วย โดยเรื่องนี้ได้มีการรายงานให้ทางรัฐมนตรีและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นผลตามที่ร้องขอ จึงต้องการให้มีการผลักดันให้เปิดใช้ทางในบางจุดเพื่อให้เกิดการสัญจรที่สะดวกมากยิ่งขึ้น และระบายการจราจรที่แออัดบนถนนพระราม 2 เช่น สะพานแยกต่างระดับบ้านแพ้ว ระบายรถเข้าสู่ถนนสายบ้านแพ้ว – พระประโทน เป็นต้น
นอกจากนี้ ในด้านการป้องกันและควบคุมการก่ออาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่นักเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดสมุทรสาครนั้น ตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้มีการสั่งการจัดระเบียบสังคม บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น จริงจัง ต่อเนื่อง ภายใต้นโยบาย 8 มาตรการ ประกอบด้วย 1. ยาเสพติด, 2. บุหรี่ไฟฟ้า, 3. แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย, 4.ร้านอาหาร สถานบริการ สถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ, 5. ร้านคาราโอเกะ ร้านนวด, 6. โต๊ะสนุ๊กเกอร์ แหล่งมั่วสุม, 7. น้ำกะท่อม และ 8. การนำห้องเช่า ห้องชุด ทำเป็นโรงแรม โดยต้องได้ผลที่เป็นรูปธรรม ปฏิบัติการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมาย ลงโทษผู้กระทำผิดบทหนัก ป้องกันการกลับมาทำผิดซ้ำซาก

ทางด้าน พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ประธานคณะอนุกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครในครั้งนี้ ก็เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับจากในพื้นที่ฯ เข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา เพื่อวางแนวทาง มาตรการ และนโยบายการสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งหลังจากรับฟังข้อมูลดังกล่าวนี้แล้ว ก็จะได้นั่งรถไฟสายบ้านแหลม – แม่กลอง เพื่อศึกษาเส้นทางการท่องเที่ยว พร้อมกับดูอุปกรณ์แจ้งเตือนและสิ่งกั้นทางรถไฟ โดยเฉพาะตรงจุดตัดทางลักผ่าน เช่น บนถนนสาครบุรี ที่มีทางรถไฟตัดผ่านเป็นแนวเดียวกับถนน ว่ามีการทำสัญลักษณ์อะไรบ้างที่โดดเด่น ทำให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาได้ทราบว่ามีทางรถไฟอยู่ตรงบริเวณนั้น เพื่อนำไปพิจารณาเป็นโมเดลให้แก่จังหวัดอื่น ๆ ทั้งนี้ สิ่งที่อยากฝากไว้ให้ทางจังหวัดสมุทรสาคร โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องวางมาตรการด้านการป้องกันอาชญากรรมที่ชัดเจน และบังคับใช้ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เพื่อการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคน รวมถึงความรวดเร็วในการรับแจ้งเหตุต่าง ๆ การเข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และการอำนวยความสะดวก ทั้งทางด้านอุปกรณ์และกำลังคน รองรับการเจริญเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวทั้งในปัจจุบันและอนาคต
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ