
เตือนภัย! โจรขโมยเงินบริจาควัดออกอาละวาด ล่าสุดเนียนเป็นคนมาร่วมงานบวช สบโอกาสดอดเข้าไปวิหารหลวงปู่เชย วัดเจษฎารามฯ จ.สมุทรสาคร งัดกุญแจคล้องตู้บริจาค ก่อนลักเงินสมทบทุนสร้างเมรุฯ ราวหมื่นกว่าบาท ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดเจษฎาราม (พระอารามหลวง) ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ภายหลังจากที่มีผู้โพสต์คลิปภาพลงในสื่อโซเชียล เห็นเหตุการณ์ขณะคนร้ายเป็นชายรูปร่างอ้วน สูงใหญ่ แอบย่องเข้าไปภายในวิหารหลวงปู่เชย อดีตเจ้าอาวาสวัดเจษฎารามฯ แล้วงัดกุญแจที่คล้องล็อคตู้บริจาคเงินสมทบทุนร่วมสร้างเมรุฯ ลักเอาเงินบริจาคไปจนหมดตู้ เหตุเกิดเมื่อช่วงราว ๆ 10.30 – 11.00 น.ของวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา

โดยทางลูกศิษย์ของวัดเจษฎารามฯ เล่าว่าในวันดังกล่าวเป็นวันเสาร์ มีการจัดงานอุปสมบทที่วัด ประกอบกับเป็นช่วงที่พระภิกษุสงฆ์กำลังจะฉันเพล ทุกคนจึงคิดว่าบุคคลที่เข้าไปภายในวิหารหลวงปู่เชย เป็นคนมาร่วมงานดังกล่าวแล้วเข้าไปเพื่อไหว้พระทำบุญ ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นโจรมาขโมยเงินวัดตามที่ปรากฏในคลิปภาพ โดยคนร้ายเป็นชายรูปร่างอ้วน สูงใหญ่ สวมแมสก์ปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาทางประตูข้างด้านขวาของวิหาร เมื่อเข้ามาแล้วก็หันซ้ายมองขวา แล้วเลื่อนโต๊ะไม้ที่ใช้วางพานดอกไม้มาบังตัวเองไว้ พร้อมกับเลื่อนตู้บริจาคให้เข้าไปชิดด้านในสุด จากนั้นจึงลงมือใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมางัดกุญแจที่คล้องล็อคตู้บริจาค หยิบเงินใส่กระเป๋า ก่อนเดินกลับออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป

ขณะที่ พระครูสิริสารนิวิฐ รองเจ้าคณะอำเภอเมืองสมุทรสาคร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเจษฎาราม (พระอารามหลวง) บอกว่า วัดนี้เคยถูกก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งในวันดังกล่าวมีการจัดงานอุปสมบทของบุตรชายครอบครัวหนึ่ง โดยบุคคลที่เข้ามางัดตู้บริจาคของวัดเพื่อเอาเงินนั้นก็ทำตัวเสมือนคนที่มาร่วมงาน เพราะมีคนเห็นว่า บุคคลคนนี้เดินไปเดินมาปะปนกับคนที่มาร่วมงาน และคนที่มาทำบุญในวัดอยู่หลายรอบ คือทำตัวให้กลมกลืน อีกทั้งยังเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นการมาดูลาดเลา
กระทั่งพอสบโอกาส เห็นภายในวิหารหลวงปู่เชยปลอดคนเข้ามาไหว้พระทำบุญ จึงได้เข้าไปใช้เครื่องมือที่เตรียมมา งัดกุญแจที่คล้องล็อคตู้ออก แล้วฉกหยิบเอาเงินบริจาคในตู้ไปทั้งหมด ซึ่งน่าจะมีอยู่ประมาณ 10,000 บาท เพราะเท่าที่ได้รับทราบจากครอบครัวที่มาทำบุญนั้นก็บอกว่าก่อนหน้าจะถูกงัดตู้บริจาคไม่ถึงชั่วโมง ทางครอบครัวนี้ได้นำธนบัตรใบละ 1,000 บาท ใส่ลงไปในตู้หลายใบ อีกทั้งยังมีเงินบริจาคเดิมอยู่อีกจำนวนหนึ่ง เมื่อรวม ๆ กันแล้วน่าจะไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท

โดยแต่เดิมทางวัดมีกำหนดเปิดตู้เก็บเงินบริจาคในทุกๆ วันอาทิตย์ตอนเย็น แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ก็จะมีการปรับเปลี่ยนช่วงเวลาของการเปิดตู้บริจาค และยังจะมีการเฝ้าระวังให้เข้มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังฝากไปถึงวัดทุกวัดให้ระมัดระวังภัยเช่นนี้ เพราะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัดและทุกช่วงเวลา ด้วยคนร้ายสมัยนี้ไม่ใช่อาศัยแค่ตอนกลางคืนในการก่อเหตุเท่านั้น แต่กล้าที่จะลงมือทำในทุกช่วงเวลาที่สบโอกาสให้กระทำความผิด ขณะเดียวกันในส่วนของผู้ก่อเหตุนั้น ก็อยากจะฝากเตือนว่า ในทางพระพุทธศาสนา การกระทำเช่นนี้เป็นบาปอยากขอให้ลดละเลิกและอย่ากระทำอีกอย่างเด็ดขาด

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ