
“พระธรรมวชิรานุวัตร” เจ้าคณะภาค 14 และรองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างอุโบสถหลังใหม่ “วัดบางปิ้ง” บนพื้นที่กว่า 3 งาน โดย “พระครูวิทิตสาครธรรม” เจ้าอาวาสฯ ดำริให้สร้างใหม่แทนอุโบสถหลังปัจจุบันที่ชำรุดทรุดโทรม กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จใน 5 ปี มีศิษยานุศิษย์เข้าร่วมพิธีเนืองแน่น
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2568 ที่วัดบางปิ้ง หมู่ 2 ต.นาดี อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ได้จัดให้มีพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถหลังใหม่ เวลาฤกษ์ 09.39 น. โดยมีพระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีพระเทพสาครมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดเจษฎาราม พระอารามหลวง, พระราชวัชรสาครคณี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าอาวาสวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร, พระครูวิทิตสาครธรรม เจ้าอาวาสวัดบางปิ้ง ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเมืองสมุทรสาคร, นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร, นายศิริโรจน์ ธนิกกุล สส. สมุทรสาคร เขต 2, นายสมนึก เผือกเล็ก ไวยาวัจกรวัดบางปิ้ง รวมถึงพระเถรานุเถระ คณะกรรมการวัดบางปิ้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และศิษยานุศิษย์เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก







โดยอุโบสถหลังใหม่นี้ พระครูวิทิตสาครธรรม เจ้าอาวาสวัดบางปิ้ง มีดำริให้สร้างขึ้น เนื่องจากอุโบสถหลังปัจจุบันมีระยะเวลาในการใช้งานกิจการของคณะสงฆ์มา 68 ปี ได้เริ่มชำรุดทรุดโทรม มีปลวกขึ้นไปบนเพดาน เกิดปูนกะเทาะที่บริเวณฝาผนัง สุดที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่ ประกอบกับพระสงฆ์ของทางวัดในแต่ละปีมีจำนวนกว่า 70-80 รูป เวลาทำสังฆกรรมสวดมนต์ไหว้พระอุโบสถก็จะคับแคบ ทางเจ้าอาวาสวัดบางปิ้ง พร้อมด้วยไวยาวัจกร คณะสงฆ์ และญาติโยมศิษยานุศิษย์ จึงได้ประชุมกำหนดให้มีการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่เป็นหลังที่ 3 ของทางวัดบางปิ้ง ตั้งอยู่บริเวณด้านข้างวิหารหลวงปู่ชิต บนเนื้อที่กว่า 3 งาน มีอาณาเขตยาวตั้งแต่บันไดหน้าถึงบันไดหลัง 50.5 เมตร กว้าง 14 เมตร สูง 31 เมตร ซึ่งจะเป็นอุโบสถหลังใหญ่ มีช่อฟ้าทั้งหมด 10 ช่อ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และเสาอุโบสถจำนวน 80 ต้น กำหนดระยะเวลาการก่อสร้างประมาณ 5 ปี งบประมาณเบื้องต้น 80 ล้านบาท








สำหรับประวัติของวัดบางปิ้ง เป็นวัดราษฎร์ สังกัดมหานิกาย ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2414 ได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2496 เดิมชื่อวัดหัวป่า ต่อมาชาวบ้านเรียกว่าวัดดงปิ้งหรือวัดบางปิ้ง เนื่องจากเมื่อก่อนบริเวณรอบวัดเป็นป่าที่มีต้นปิ้งเป็นจำนวนมาก เดิมมีพระอุโบสถหลังแรก ผู้สร้างคือ เถ้าแก่หวานและนางจันทร์ ร่วมกันบริจาคทรัพย์สร้างพระอุโบสถ ต่อมาพระอุโบสถหลังเดิมทรุดโทรมจนใช้การไม่ได้ นายพุ่ม-นางรอด จันจู ได้บริจาคทรัพย์สร้างพระอุโบสถหลังใหม่ เป็นเงินหนึ่งแสนสามหมื่นบาทถ้วน และวัดได้รับการบูรณะและพัฒนามาโดยตลอด อุโบสถหลังปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่ แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2536






พระประธานในอุโบสถเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “หลวงพ่อปู่ทองคำ” เป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่และพุทธลักษณะสวยงามมาก อีกทั้งยังมี วิหารหลวงปู่ชิต ภายในประดิษฐานรูปหล่อของพระครูวิชิตสังฆภาร หรือหลวงปู่ชิต อดีตเจ้าอาวาสวัดบางปิ้ง หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ ซึ่งหลวงปู่ชิตเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นเป็นอาจารย์ที่โด่งดังในการสักยันต์ มีลูกศิษย์ลูกหาที่เป็นทหารจำนวนมาก และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยาแผนโบราณ ใครเจ็บไข้ได้ป่วยสมัยนั้นมักจะมาให้หลวงพ่อรักษาอยู่เป็นประจำ ปัจจุบันมี พระครูวิทิตสาครธรรม (ฉาบ ฐานวโร) เป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 8 ตั้งแต่ พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน



สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง