ชาวประมงสมุทรสาคร ทวงถาม รบ. ซื้อเรือประมงออกนอกระบบคืน พร้อมยกระดับการเคลื่อนไหว

ชาวประมงสมุทรสาคร ที่ลงชื่อในโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ 1,007 ลำ หารือด่วนพร้อมยกระดับขับเคลื่อนผลักดันเรียกร้องรัฐซื้อเรือคืน

วันนี้ (10 ก.ค.) เวลา 10.30 น. ที่สมาคมการประมงสมุทรสาคร (แห่งใหม่) ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร นายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร จัดประชุมเร่งด่วนร่วมกับพี่น้องชาวประมงที่อยู่ในกลุ่มเรือที่ขายคืนรัฐ 1,007 ลำ เพื่อหารือแนวทางเร่งรัดให้รัฐบาลเร่งดำเนินการซื้อเรือคืน ภายหลังจากที่ทางรัฐบาลได้ยืดระยะเวลาออกมานานเกินกำหนดที่ได้เคยให้ไว้กับที่น้องชาวประมงทั่วประเทศ

นายมงคล กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อกลางเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ทางกรมประมงได้มีรายชื่อของพี่น้องชาวประมงที่ลงชื่อในโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบไว้ตั้งแต่ปี 2562 โดยแจ้งมาจากทางจังหวัด และให้พี่น้องชาวประมงไปยืนยันว่ายินดีขายเรือตามโครงการฯ ที่รัฐได้ประเมินราคาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในกลุ่มเรือ 1,007 ลำทั่วประเทศ สำหรับ จ.สมุทรสาคร มีผู้ลงทะเบียนในโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ จำนวน 98 ลำ แต่ยืนยันที่จะขายเรือคืน จำนวน 77 ลำ จากนั้นทางกรมประมงก็เสนอแผนปฏิบัติการตามขั้นตอนคือ จะมีการประชุมคณะนโยบายหรือคณะฟื้นฟูประมง เพื่อเห็นชอบในการซื้อเรือคืนออกนอกระบบ และนำเข้าสู่ ครม. ภายในช่วงกลางเดือน มิ.ย. จึงนับเป็นความหวังของพี่น้องชาวประมงที่ได้ลงชื่อไว้ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 5-6 ปีแล้ว ที่ทุกคนได้แต่เฝ้ารอการดำเนินงานของรัฐตามระยะเวลาที่ระบุไว้

จนบัดนี้นับตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. จนถึงกลางเดือน ก.ค. เป็นระยะเวลา 1 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีการประชุมจากคณะฟื้นฟูประมง หรือนำเข้าสู่ ครม. แต่อย่างใดทั้งสิ้น จึงส่งผลทำให้พี่น้องชาวประมงต้องลุกขึ้นมาขับเคลื่อนแทนการเฝ้ารอคอย เพื่อเป็นการเรียกร้อง เร่งรัด ให้รัฐบาลทำตามที่ได้เคยให้คำมั่นสัญญาไว้ เพราะเรือประมงที่อยู่ในกลุ่ม 1,007 ลำนี้ ภายหลังจากที่ลงทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี 2562 แล้ว พี่น้องชาวประมงก็ต้องจอดเรือ เสียค่าดูแลรักษา หรือบางลำก็ต้องปล่อยทิ้งตามสภาพ จนไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้ใหม่ รวมถึงภาระปัญหาหนี้สินต่างๆ ก็ยังคงอยู่ ส่วนเงินที่จะได้จากการขายเรือคืนให้รัฐบาลนั้น จะเพียงพอต่อการชดใช้หนี้สิน หรือลงทุนทำอย่างอื่นแทน เพื่อสร้างอาชีพใหม่ ชีวิตใหม่นั้น ก็ยังไม่รู้ว่าจะเพียงพอหรือไม่ ดังนั้นทุกคนจึงอยากเร่งรัดให้รัฐบาลพิจารณาและอนุมัติเงินเพื่อรับซื้อเรือคืนให้ได้โดยเร็วที่สุด

ขณะที่ผลจากการประชุมหารือเร่งด่วนในครั้งนี้ พบว่า พี่น้องชาวประมง จ.สมุทรสาคร ที่อยู่ในกลุ่มเรือที่ขายคืนรัฐ 1,007 ลำ เห็นชอบให้เริ่มจากการขับเคลื่อนในระดับจังหวัด คือ จะมีการติดป้ายแสดงให้เห็นถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมง พร้อมกับการยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรับซื้อเรือคืน ผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร และผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ส่งไปถึงนายกรัฐมนตรี จากนั้นหากยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ หรือยังไม่มีเสียงสะท้อนการตอบรับจากรัฐบาลในเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 19 ก.ค. 2567 ทางสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ก็จะเข้าไปส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง ขณะที่ในส่วนของพี่น้องชาวประมงทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเรือที่ขายคืนรัฐ 1,007 ลำ ก็จะมีการขับเคลื่อนยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ ตามความล่าช้าของรัฐบาล ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้รัฐบาลเห็นความสำคัญและเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ ตามที่เคยได้ให้สัญญากับพี่น้องชาวประมง

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *