หวิดฉาวยกจังหวัด! “อิทธิพร” ประธาน กกต.ให้ข่าวผิด ย้ำ “สมุทรสาคร” ไม่มีขโมยบัตร

ควันหลงเลือกตั้งล่วงหน้า ประธาน กกต.ให้ข่าว อ้าง “สมุทรสาคร” ขโมยบัตรทั้งเล่ม สื่อท้องถิ่นเช็กข่าวกันวุ่น ผอ.กกต.จังหวัดงงยันไม่มี เช็กอีกทีพบที่แม่กลอง พบต้นเหตุสาวร้านข้าวหมูแดง ตลาดอัมพวา อ้างเห็นเล่มบัตรวางอยู่ นึกว่าให้กาทั้งเล่ม ลงคะแนนรวดเดียว 17 ใบ ถูกดำเนินคดีแล้ว

การเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดทั่วประเทศเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ได้รับความสนใจจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง แต่ก็พบว่ามีเรื่องที่ทำให้จังหวัดสมุทรสาครเกือบจะเสื่อมเสียชื่อเสียง เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาคารศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. แถลงผลการลงคะแนนเลือกตั้ง ว่า ในจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ 2.6 ล้านคน มีผู้ออกมาใช้สิทธิคิดเป็นร้อยละ 86.98 และมีหลายแห่งใช้สิทธิเกินกว่าร้อยละ 90

• เสียงดังฟังชัด ประธาน กกต. พูด “สมุทรสาคร” ขโมยบัตร

แต่จากรายงานพบการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายรวม 3 กรณี คือ 1. อาจมีการกระทำทุจริตใน 3 จังหวัด คือ จ.สมุทรสาคร ที่มีผู้แอบนำบัตรเลือกตั้งทั้งเล่มไปทำเครื่องหมายให้กับผู้สมัครพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบและบัตรเล่มนั้นไปเจาะทำลาย และนำบัตรเลือกตั้งเล่มใหม่ส่งไปทดแทน พร้อมแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด กรณี จ.อุทัยธานี มีการนำบัตรประจำตัวของบุคคลอื่นไปแสดงตนขอใช้สิทธิลงคะแนน ซึ่งก็มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว และที่ จ.กาฬสินธุ์ เขตเลือกตั้งที่ 2 มีการทำเอกสารปลอมโดยอ้างว่าผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตประกาศไม่รับสมัครผู้สมัครของพรรคการเมืองหนึ่ง ทั้งที่ในพื้นที่ยังพบมีป้ายหาเสียงอยู่ จึงได้แนะนำให้ผู้สมัครไปแจ้งความไว้

กรณีที่ 2 เจ้าหน้าที่แจกบัตรเลือกตั้งผิดเขต ซึ่งพบมากในหลายจังหวัด โดยถ้าเป็นการพบหรือทักท้วงก่อนการลงคะแนน เจ้าหน้าที่ได้มีการแก้ไขโดยแจกบัตรเลือกตั้งที่ถูกต้องให้กับผู้ใช้สิทธิ แต่หากมีการลงคะแนนไปและนำบัตรใส่ในหีบบัตรเลือกตั้งไม่สามารถแก้ไขได้ ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการบันทึกเหตุการณ์ไว้ ส่วนกรณีผู้มีสิทธิได้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า แต่ไม่พบข้อมูลที่หน่วยเลือกตั้งเมื่อได้ทำการตรวจสอบหลักฐาน เมื่อพบว่ามีการลงทะเบียนจริง กรรมการประจำหน่วยก็จะเพิ่มชื่อให้ผู้มีสิทธิได้ใช้สิทธิ กรณีที่ 3 แอปพลิเคชันสมาร์ทโหวต (SMART VOTE) ไม่สามารถใช้งานได้ในระยะเวลา 08.30 น. และได้ปรับปรุงเซิร์ฟเวอร์เป็นเวลา 15 นาที จนสามารถใช้งานได้ตามปกติ ทั้งนี้ ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะซักซ้อมเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นอีกในวันเลือกตั้งที่ 24 มี.ค.

• สื่อเช็กกันวุ่น กกต.สมุทรสาครยันไม่มี-เช็กแล้วพบที่แม่กลอง

ทันทีที่นายอิทธิพรแถลงข่าวจบ และถูกนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนหลายสำนัก ทำให้เมื่อเวลา 13.30 น. บรรดาสื่อมวลชนในจังหวัดสมุทรสาครหลายสำนัก เข้าพบ นายเธียรสรรค์ วิริยานุภาพ ผู้อำนวยการ กกต.จว.สมุทรสาคร เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว นายเธียรสรรค์ กล่าวว่า กล่าวว่า หลังทราบข่าวจากประธาน กกต. ได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเหตุเกิดที่จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นจังหวัดติดกัน ไม่ใช่จังหวัดสมุทรสาครแต่อย่างใดทั้งสิ้น ยืนยันว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าของจังหวัดสมุทรสาคร ไม่พบการกระทำความผิดหรือทุจริตการเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้ง 3 เขตเลือกตั้งแต่อย่างใด ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบและรายงานของทาง กกต.จว.สมุทรสงคราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทาง กกต.จว.สมุทรสาคร ไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ ส่วนผลการเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง และนอกเขตจังหวัดเมื่อวานนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเรื่องทุจริตการเลือกตั้ง แต่จะพบปัญหาเล็กน้อยเรื่องการจราจรหน้าสถานที่เลือกตั้งกลาง และความสับสนในการเข้าหน่วยเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ส่วนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งพบว่าเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 80 ของจำนวนผู้มีลงทะเบียนและสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งทั้งหมด

• ปลื้มผู้ใช้สิทธิ์ทุกเขตเกินร้อยละ 80

สำหรับจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด พบว่า เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 24,790 คน จากจำนวนผู้ที่ลงทะเบียน 29,409 คน คิดเป็นร้อยละ 84.29, เขตเลือกตั้งที่ 2 ที่เทศบาลนครอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 19,365 คน จากจำนวนผู้ที่ลงทะเบียน 23,774 คน คิดเป็นร้อยละ 81.45 และ เขตเลือกตั้งที่ 3 ที่ศาลาประชาคมอำเภอบ้านแพ้ว มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 1,904 คน จากจำนวนผู้ที่ลงทะเบียน 2,175 คน คิดเป็นร้อยละ 87.54 ส่วนการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง พบว่า เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่อาคารนิวนามทอง สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 239 คน จากจำนวนผู้ที่ลงทะเบียน 246 คน คิดเป็นร้อยละ 97.15, เขตเลือกตั้งที่ 2 ที่โรงเรียนศรีบุญญานุสสรณ์ อ.กระทุ่มแบน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 87 คน จากจำนวนผู้ที่ลงทะเบียน 88 คน คิดเป็นร้อยละ 98.86 และเขตเลือกตั้งที่ 3 ที่ศาลาประชาคมอำเภอบ้านแพ้ว มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 53 คน จากจำนวนผู้ที่ลงทะเบียน 55 คน คิดเป็นร้อยละ 96.36

• สุดท้ายขอแก้ข่าวเป็น “สมุทรสงคราม” – เลขาฯ กกต.สั่งสอบแล้ว

รายงานข่าวจาก กกต. แจ้งว่า หลังจากที่นายอิทธิพรได้แถลงข่าวไปก่อนหน้านี้ และเมื่อสื่อมวลชนในจังหวัดสมุทรสาครเข้าพบ กกต.จว.สมุทรสาคร เพื่อสอบถามเรื่องนี้ ทำให้ในภายหลัง นายอิทธิพร ได้ชี้แจงแก้ข้อมูลเรื่องการกระทำอาจส่อทุจริตการเลือกตั้ง ในกรณีเอาบัตรเลือกตั้งไปกาทั้งเล่มนั้น เป็นกรณีที่เกิดขึ้นในจังหวัดสมุทรสงคราม ไม่ใช่จังหวัดสมุทรสาครตามที่มีการแถลงข่าวในตอนเช้า โดย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ได้สั่งให้พนักงานสืบสวนสอบสวนไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เบื่องต้นเข้าใจว่ามาเป็นการใช้สิทธิ์ครั้งแรกและหยิบเอาบัตรเลือกตั้งเข้าไปในคูหาทั้งเล่ม เมื่อนำไปกาเสร็จแล้วก็นำมาส่งให้เจ้าหน้าที่ แต่ข้อเท็จจริงดังกล่าวยังไม่เป็นที่สิ้นสุด ต้องรอฟังผลจากชุดสืบสวนสอบสวนเสียก่อน

• “สาวร้านข้าวหมูแดงอัมพวา” ต้นเรื่องกาบัตรยกเล่ม

อีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า เหตุการณ์ที่ที่มีผู้แอบนำบัตรเลือกตั้งทั้งเล่มไปทำเครื่องหมายให้กับผู้สมัครพรรคการเมืองหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่หน่วยเลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้ง จังหวัดสมุทรสงคราม เขตเลือกตั้งที่ 1 บริเวณอาคารกิจกรรม วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม ถนนเอกชัยสายเก่า ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสงคราม แบ่งออกเป็น 4 หน่วยเลือกตั้ง มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่ได้ลงทะเบียนไว้ 3,199 คน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. บริเวณหน่วยเลือกตั้งที่ 2 มีทั้งหมด 18 จังหวัด จำนวนผู้มาลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 796 คน ขณะนั้นมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมาก กกต.จว.สมุทรสงคราม จึงนำเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งสำรองมาเพิ่ม หน่วยเลือกตั้งละ 1 คน

ต่อมา น.ส.เบญจมาภรณ์ ศรีละออ อายุ 26 ปี อาชีพแม่ค้าขายข้าวหมูแดงในตลาดอัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ภูมิลำเนาหมู่ 5 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งได้วางเล่มบัตรเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดนนทบุรี เอาไว้ที่โต๊ะ ซึ่งมีบัตรเลือกตั้งจำนวน 20 ใบ ก่อนหน้านี้มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งแล้ว 3 คน ทำให้เหลือบัตรเลือกตั้ง 17 ใบ ปรากฎว่า น.ส.เบญจมาภรณ์ มาลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นคนที่ 4 ได้หยิบเล่มบัตรเลือกตั้งไปทั้งเล่ม แล้วเข้าคูหา กากบาทเลือกผู้สมัครพรรคการเมืองหนึ่ง ทั้งหมด 17 ใบ

• กรรมการรู้ที่หลัง กากบาทรวดเดียว 17 ใบ เร่งขอบัตรใหม่ชั่วโมงครึ่ง

จากนั้น น.ส.เบญจมาภรณ์ นำเล่มบัตรเลือกตั้งมามอบให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่โต๊ะบรรจุซอง เจ้าหน้าที่สอบถามว่า ทำไมถือบัตรเลือกตั้งจำนวนมาก น.ส.เบญจมาภรณ์ ก็อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ยื่นบัตรให้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ได้นำบัตรเลือกตั้งใส่ซอง ระบุหน่วยเลือกตั้งและจังหวัด 1 ใบ และให้นำเล่มบัตรเลือกตั้ง ไปวางไว้ที่โต๊ะแจกบัตร ก่อนที่ น.ส.เบญจมาภรณ์ จะเดินทางกลับไป โดยไม่ได้สังเกตว่าเล่มบัตรเลือกตั้งที่มีบัตรเลือกตั้งเหลืออยู่ 16 ใบ ถูกทำเครื่องหมายกากบาทไปแล้วทั้งเล่ม

เมื่อมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งคนที่ 5 มาลงทะเบียน ขณะจะรับบัตรเลือกตั้งไปลงคะแนน ปรากฎว่าเล่มบัตรเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดนนทบุรี มีการกากบาทหมายเลขผู้สมัคร ลงในบัตรเลือกตั้งไปแล้วทั้งเล่ม เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง จึงทำการเจาะทำลายบัตรเลือกตั้งที่เหลือทั้งหมด พร้อมประสานงานไปยัง กกต.กลาง เพื่อขอบัตรเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดนนทบุรีทดแทน กกต.กลาง จึงได้นำส่งบัตรเลือกตั้งในเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที ในที่สุดผู้ใช้สิทธิเขตเลือกตั้งที่ 6 จังหวัดนนทบุรีที่เหลือ จึงได้กลับมาลงคะแนนตามปกติ

• อ้าง “รู้เท่าไม่ถึงการณ์” สารภาพเห็นวางอยู่ “นึกว่าให้กาทั้งเล่ม”

ต่อมา นายณฏฐวรรณ บุญนิ่ม ประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.หญิง เกียรติสุดา แก้วชนะ รอง สว.สภ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.เบญจมาภรณ์ ในข้อหาจงใจกระทำด้วยประการใดๆ ให้บัตรเลือกตั้งชำรุดหรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย หรือกระทำด้วยประการใดๆ แก่บัตรเสียเพื่อให้เป็นบัตรที่ใช้ได้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 144 ก่อนนำตัว น.ส.เบญจมาภรณ์ ที่กลับบ้านพักใน อ.อัมพวา มาสอบปากคำ

น.ส.เบญจมาภรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำเครื่องหมายกากบาทลงในบัตรเลือกตั้งทั้งหมดจริง แต่อ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะเจ้าหน้าที่วางบัตรเลือกตั้งทิ้งไว้ให้ทั้งเล่ม จึงเข้าใจว่าให้กากบาทหมดทั้งเล่ม โดยไม่รู้ว่าต้องฉีกบัตรเลือกตั้งจากเล่มเพียงใบเดียว ไม่คิดว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อพนักงานสอบสวนเห็นว่า น.ส.เบญจมาภรณ์ ไม่มีเจตนากระทำผิด เพราะเอาบัตรไปคืนเจ้าหน้าที่ อีกทั้งไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงได้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่ได้ดำเนินคดีกับ น.ส.เบญจมาภรณ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

• เปิดประวัติ “อิทธิพร บุญประคอง” ประธาน กกต. เรียกจังหวัดผิดในตำนาน

สำหรับนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ที่ออกมาแถลงข่าวโดยให้ข้อมูลผิดจังหวัด จนเกือบจะทำให้จังหวัดสมุทรสาครเสื่อมเสียชื่อเสียงนั้น จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เกิดเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2499 ปัจจุบันอายุ 63 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2522 ปริญญาโทนิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยทูเลน ในเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ปี 2527 รับราชการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และเป็นตัวแทนประเทศไทย ในคดีตีความคำพิพากษาศาลยุธิธรรมระหว่างประเทศว่าด้วยปราสาทพระวิหาร ปี 2553 และเป็นกรรมการในคณะกรรมการในคณะกรรมการองค์กรร่วมเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นดินใต้ทะเลในบริเวณที่กำหนดของไหล่ทวีประหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย ปี 2553-2555

ต่อมาได้รับตำแหน่งให้เป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ในปี 2555 เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ณ กรุงไนโรบี ในปี 2555 เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์สหประชาชาติ ณ กรุงไนโรบี ในปี 2555 ประธานกลุ่ม 77 และจีนประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติและโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ ณ กรุงไนโรบี ในปี 2557 เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำองค์การเพื่อการห้ามอาวุธเคมี ปี 2558 และยังเป็นผู้แทนพิเศษของรัฐบาลไทยในการรณรงค์หาเสียงสนับสนุนเข้ารับการเลือกตั้งของไทย ในตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ปี 2559 ก่อนเกษียณอายุราชการ

จากนั้นเป็นข้าราชการบำนาญ กระทั่งเมื่อช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 2561 ได้สมัครเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นคณะกรรมการ กกต. รอบสอง หลังจากการสรรหารอบแรกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่ให้ความเห็นชอบ โดยนายอิทธิพรสมัครเป็นลำดับที่ 20 หลังจากนั้น สนช. ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัคร กระทั่งวันที่ 13 ก.ค. 2561 สนช. ลงมติเห็นชอบ ว่าที่ กกต. 5 คน คือ นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์, นายอิทธิพร บุญประครอง, นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย, นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี และนายปกรณ์ มหรรณพ ส่วนนายสมชาย ชาญณรงค์กุล และ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ไม่ผ่านความเห็นชอบ จากนั้นวันที่ 31 ก.ค. ได้มีการประชุมว่าที่ กกต. มีมติเลือกนายอิทธิพรให้ดำรงตำแหน่งประธาน กกต. และได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2561 โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 7 ปี สิ้นสุดในปี 2568

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กิตตินันท์ นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *