การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เตรียมเปิดให้บริการ “ศูนย์เอสเอ็มอีไอทีซี” ฟูลเซอร์วิส 10 นิคมฯ ทั่วประเทศ พัฒนาสตาร์ทอัพ – เอสเอ็มอี ส่วนสมุทรสาครเปิด ก.ย. นี้ เน้นสนับสนุนผู้ประกอบการแปรรูปอาหาร
นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา รักษาการผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าได้จัดตั้ง SMEs Industry Transformation Center (SMEs – ITC) ระยะที่ 1 ในนิคมอุตสาหกรรม 10 แห่ง เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรม ส่งเสริมเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ปัจจุบันเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบที่นิคมฯ แหลมฉบัง ที่มุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการด้านชิ้นส่วนยานยนต์ โลจิสติกส์ และหุ่นยนต์
รวมทั้งอีก 4 แห่งที่จะเปิดภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ได้แก่ นิคมฯ ภาคเหนือ (ลำพูน) มุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการด้านอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อาหารและเกษตรแปรรูป, นิคมฯ บางปู มุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการด้านอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ, นิคมฯ บางปะอิน มุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการด้านอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และ นิคมฯ ภาคใต้ มุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการด้านเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และยางพารา
ส่วนอีก 5 แห่ง จะเปิดให้บริการภายในเดือนกันยายนนี้ ประกอบด้วย นิคมฯ เกตเวย์ซิตี้ มุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการด้านชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอาหาร, นิคมฯ มาบตาพุด มุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการด้านผลิตภัณฑ์จากพลาสติก, นิคมฯ ลาดกระบัง มุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการด้านอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และการแปรรูปอาหาร, นิคมฯ บางชัน มุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการด้านอาหาร และชิ้นส่วนยานยนต์ และนิคมฯ สมุทรสาคร มุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการด้านแปรรูปอาหาร
ทั้งนี้ ศูนย์เอสเอ็มอีไอทีซี มีการเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษา ได้แก่ ความร่วมมือระดับหน่วยงานภายใน ประสานกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งยังช่วยสนับสนุนทั้งในด้านการเงิน เช่น สินเชื่อประชารัฐเพื่อเอสเอ็มอีขนาดเล็ก (Micro SMEs) สินเชื่อเพื่อซื้อ/ขยายเครื่องจักร บริการปรึกษาแนะนำแก้ไขปัญหาธุรกิจ การทดสอบตลาด การต่อยอดนวัตกรรมและงานวิจัย การให้คำปรึกษาเฉพาะด้าน การพัฒนากระบวนการทางธุรกิจด้วยระบบเทคโนโลยีและดิจิทัล
ส่วนความร่วมมือระดับหน่วยงานภายนอก จะเชื่อมกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ รวมทั้งความร่วมมือกับผู้ประกอบการรายใหญ่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม (Big Brother) รวมกว่า 50 บริษัท ที่จะนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มาให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ที่มีศักยภาพต่อยอดธุรกิจ รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคนิคในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
“กนอ.มุ่งหวังให้ศูนย์เอสเอ็มอีไอทีซีทั้ง 10 แห่ง เป็นศูนย์กลางการพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ พร้อมกับส่งเสริมให้เอสเอ็มอีเติบโต ทั้งในระดับส่วนกลาง และภูมิภาค รวมทั้งคาดหวังให้ผู้ดำเนินธุรกิจได้มีโอกาสนำองค์ความรู้และเทคนิคต่างๆ มาปรับใช้ทั้งในทางตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีนวัตกรรม – ความสร้างสรรค์ รวมถึงปรับโมเดลธุรกิจให้มีความน่าสนใจและเพิ่มมูลค่าในทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น กนอ.ยังมีแผนเปิดศูนย์บริการดังกล่าวอีก 10 ศูนย์ ในระยะที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างการกำหนดพื้นที่ คาดว่าจะมีความชัดเจนในราวสิ้นปี 2561” นายอัฐพล กล่าว
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ