ศิริพงษ์ สมบูรณ์

ชลบุรี – “ดี-แลนด์ กรุ๊ป” เปิดตัวโครงการนอกเขตพื้นที่สมุทรสาคร “ดีคอมเพล็กซ์” ศรีราชา ชลบุรี รูปแบบมิกซ์ยูส รับศูนย์กลางลอจิสติกส์และท่องเที่ยว เจาะกลุ่มผู้บริหาร-ต่างชาติในนิคมฯ เล็งเปิดอีก 2 โครงการ-ผุดคอนโดมิเนียม เพิ่มสัดส่วนลงทุน 60% ปี 60 เผยชะลอลงทุนทาวน์เฮ้าส์ เหตุหนี้ครัวเรือนอนุมัติสินเชื่อยาก คาดกลับมาปกติใน 2 ปี

นายศิริพงษ์ สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเขตถนนพระราม 2 และ จ.สมุทรสาคร ได้เปิดตัวโครงการดีคอมเพล็กซ์ ศรีราชา-นิคมปิ่นทอง 1 ถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 (ชลบุรี-พัทยา) ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์นอกเขตพื้นที่โครงการแรก บนพื้นที่ 14 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 500 ล้านบาท ในรูปแบบอาคารพาณิชย์มิกซ์ยูส เน้นการใช้งานรูปแบบผสม 3 รูปแบบ ได้แก่ อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ลึก 12 เมตร พื้นที่ใช้สอย 265 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท, โฮมออฟฟิศ 3 ชั้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 220 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท และอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นกึ่งห้องพักอาศัย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท

นายศิริพงษ์ เปิดเผยถึงการลงทุนในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ จะเน้นพัฒนาโครงการใน จ.สมุทรสาคร และโซนพระราม 2 มานานถึง 14 ปี พัฒนาไปแล้ว 16 โครงการ จำนวน 2,000 ยูนิต แต่ช่วงที่ผ่านมาได้ขยายการลงทุนไปยัง จ.ชลบุรี เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพในทำเลภาคตะวันออก โดยเฉพาะ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นทั้งเมืองนิคมอุตสาหกรรม และเมืองท่องเที่ยว อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจยังเติบโตเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ มีทั้งภาคการท่องเที่ยวและแหล่งงาน เนื่องจากมีนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง มีพนักงาน ผู้บริหารทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ทำงานในนิคมจำนวนมาก ทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัย ทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและเช่าอยู่อาศัย โดยเฉพาะที่ อ.ศรีราชา

“ภาคตะวันออกเป็นเมืองที่ถูกวางไว้ให้เป็นศูนย์กลางด้านลอจิสติกส์ของประเทศและในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะท่าเทียบเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ถึง 2 แห่ง ทำให้เกิดการค้าการลงทุนอย่างมากมาย นิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่กว่า 70% ของประเทศอยู่ในภาคตะวันออก มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐอย่างมากมายมารองรับ ล่าสุดได้แก่โครงการรถไฟความเร็วสูง นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดมีความแข็งแกร่งทั้งด้านการผลิต การท่องเที่ยว พาณิชยกรรม อีกทั้งในด้านอสังหาริมทรัพย์ ชลบุรีถือเป็นจังหวัดที่มีตลาดอสังหาริมทรัพย์โตเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากกรุงเทพฯ และมีอัตราการเพิ่มประชากรเติบโตสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ” นายศิริพงษ์ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในอนาคตจะขยายการลงทุนไปยังภาคตะวันออกมากขึ้น โดยเฉพาะย่านศรีราชา ควบคู่กับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในย่าน จ.สมุทรสาคร โดยปี 2559 ได้วางสัดส่วนการลงทุนในพื้นที่ศรีราชา 50% สมุทรสาคร 50% ซึ่งมีแผนเปิดตัวใหม่ 3 โครงการ ทำเลศรีราชา 2 โครงการ มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท ขณะนี้มีที่ดินรองรับแล้ว 1 แปลง อยู่ใกล้สวนเสือศรีราชา ตั้งอยู่บนพื้นที่ 24 ไร่ มูลค่าที่ดินกว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะพัฒนาเป็นโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส ส่วนอีก 1 แปลง อยู่ในระหว่างการเจรจา ซึ่งจะใช้พื้นที่ประมาณ 20 ไร่ อีก 1 โครงการที่ จ.สมุทรสาคร เป็นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ “เดอะ พราว” ราคาเริ่มต้น 4-5 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 600 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 จะปรับสัดส่วนการลงทุนในย่านศรีราชาเพิ่มเป็น 60% และสมุทรสาครลดลงเหลือ 40% โดยบริษัทฯ จะชะลอการลงทุนโครงการประเภททาวน์เฮาส์ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่มีปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง จากผลกระทบของโครงการรถยนต์คันแรก ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดและไม่อนุมัติเงินสินเชื่อให้ ส่งผลให้มียอดการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน (Reject) ในสัดส่วนถึง 15% และปิดการขายได้ช้า คาดว่าสถานการณ์จะฟื้นตัวกลับสู่สภาวะปกติได้ภายในอีก 2 ปี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสนใจที่จะพัฒนาคอนโดมิเนียมในย่านศรีราชา ขนาด 24 ตารางเมตร ราคาประมาณ 1 ล้านบาทขึ้นไปอีกด้วย

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ