วัยรุ่นเมาแล้วคึก แซวเพื่อนสาวผู้ใหญ่บ้าน ก่อนยกพวกตะลุมบอน ถูกยิงสวนหวิดดับ

วัยรุ่นเมาแซวเพื่อนสาวผู้ใหญ่บ้าน ถูกตะเพิดให้ออกไปจากร้าน ไม่พอใจยกพวกมาตะลุมบอนกลุ่มผู้ใหญ่บ้านจนสลบ น้องชายคว้าปืนยิงสวนกลับไป บาดเจ็บ 2 ราย เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาคนยิงพยายามฆ่า พกพาอาวุธ ยิงปืนในที่สาธารณะ

เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. วันที่ 23 เม.ย. ร.ต.อ.รุ่งเรือง เฮงฮู้ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาท ที่ร้านมหาชิลลล… ภายในตลาดนัดยามเย็น ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร  จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ต.สุขม เพาะไธสง สวป.สภ.เมืองสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนฯ ซึ่งภายในที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านสภาพโต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาด มีขวดแก้วแตกกระจายเกลื่อนพื้น มีปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่พื้นจำนวน 6 ปลอก และกองเลือด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่วิทยาการจากกองพิสูจน์หลักฐานก็ได้เข้ามาเก็บรวบรวมลายนิ้วมือและวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ

ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 4 คน ถูกนำตัวส่ง รพ.สมุทรสาครไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อต่อมา คือ นายชโลธร หรือผู้ใหญ่โล แพรกอุดม อายุ 35 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ถูกขวดแก้วตีที่ศีรษะจนสลบมีบาดแผลเย็บที่ศีรษะด้านขวา 2 เข็ม และ น.ส.สร (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ถูกขวดแก้วปาดแขนด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์เย็บ 12 เข็ม, ส่วนคู่กรณีกับกลุ่มนายชโลธร คือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ถูกกระสุนที่ต้นแขนซ้าย และ 4.นายบี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ถูกกระสุนปืนที่ต้นขาซ้าย โดยได้ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.วิชัยเวชฯ สมุทรสาคร และอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


นายชโลธร แพรกอุดม หนึ่งในผู้บาดเจ็บ

ส่วนคนยิงหลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวมาสอบปากคำ ทราบชื่อคือ นายรณชัย หรือโย ตุ้มนิลการ อายุ 30 ปี ชาว ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี พร้อมกับอาวุธปืนขนาด 9 มม. อีก 1 กระบอก ซึ่งนายรณชัย เล่าว่า ตนเองเดินเข้ามาก็เห็นกลุ่มวัยรุ่นรุมตีนายชโลธร ซึ่งตนนับถือเป็นพี่ชาย โดยที่ก็ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่พอเห็นพี่ชายถูกทำร้ายจนสลบและตัวเองก็ถูกตีด้วย ก็เลยไปคว้าปืนจากตัวพี่ชายแล้วก็เอาออกมายิงขู่พวกกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนที่เข้ามารุมทำร้าย ทำให้วงจะแตกกระเจิงหนีไปคนละทิศละทาง

ทางด้านนายพินิจ พวงเงิน อายุ 27 ปี คนดูแลร้านที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุนั้นทางร้านเหล้าและสถานบันเทิงต่าง ๆ ได้ปิดให้บริการและปิดไฟปิดเพลงไปหมดแล้วในเวลาเที่ยงคืนตามที่กฎหมายกำหนด แต่กลุ่มของนายชโลธรที่มาด้วยกัน 5 คน ยังคงนั่งดื่มและพูดคุยกันต่อที่โต๊ะกลางหน้าร้านเพราะเครื่องดื่มยังไม่หมด ซึ่งด้านคนดูแลร้านต่าง ๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะต่างก็กำลังรีบเก็บทำร้านให้เรียบร้อยก่อนที่จะกลับไปพักผ่อน

กระทั่งได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น แล้วก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาหลายนัด พอออกมาดูก็เห็นนายชโลธรนอนสลบอยู่กับพื้นใต้โต๊ะ เลือดไหลอาบศีรษะเพราะถูกตีหัว ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่มีเรื่องด้วยต่างก็วิ่งหนีไปคนละทิศละทาง แล้วก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาตะลุมบอนกับกลุ่มนายชโลธรนั้นมาจากไหน เพราะก่อนหน้านี้เห็นมีเพียงกลุ่มนายชโลธรนั่งอยู่เพียงแค่โต๊ะเดียว

ขณะที่นายชโลธร เปิดเผยว่า ตนเองกับเพื่อน ๆ รวม 5 คน ไปนั่งดื่มกินตรงที่เกิดเหตุ พอเลยเวลาเที่ยงคืนซึ่งร้านต่าง ๆ ให้ปิดให้บริการแล้วนั้น ด้วยเครื่องดื่มที่มีอยู่ยังไม่หมด ตนและเพื่อน ๆ จึงนั่งกินกันต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งตอนนั้นก็มีวัยรุ่นคนหนึ่งนั่งคุยอยู่กับน้องผู้หญิงอีกคนที่โต๊ะข้าง ๆ กัน แล้วพอน้องผู้หญิงลุกออกไป ประกอบกับเป็นช่วงที่ตนลุกไปเข้าห้องน้ำ วัยรุ่นชายคนนั้นก็หันมาถามเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะของตนว่า “ถ้าจะพาไปด้วยคิดเท่าไหร่” ซึ่งพอตนเดินกลับมาเพื่อนในโต๊ะก็เล่าให้ฟัง ตนจึงลุกขึ้นแล้วบอกว่า “คุณพูดแบบนี้ไม่ถูก ให้คุณกลับไป จะได้ไม่มีเรื่องกัน” ทั้งนี้ชายวัยรุ่นก็ลุกเดินออกไป

แล้วพอสักพักประมาณ 10 นาที ก็เดินกลับเข้ามาอีกแล้วบอกว่ากลับมาเอาของ ตนเองจึงไม่สนใจอะไรก็หันกลับมานั่งกินต่อ แต่พอรู้ตัวอีกทีก็ถูกของแข็งตีเข้าที่ศีรษะแล้วก็สลบไป มารู้สึกตัวก็ตอนที่อยู่โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งเมื่อถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีคนเล่าว่า หลังจากที่ตนเองถูกตีก็มีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามารุมทำร้ายพวกตนและจะรุมยำตนซ้ำด้วยทั้งๆที่นอนสลบอยู่ ทางนายรณชัยซึ่งเป็นน้องที่มาด้วยกัน จึงคว้าเอาอาวุธปืนของตนนั้นออกมายิงเพื่อป้องกันตนและป้องกันเพื่อน ๆ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบปากคำ และนำตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร อีกทั้งยังจะได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด โดยได้มีการตั้งข้อกล่าวหาแก่นายรณชัย ไว้ก่อนว่า พยายามฆ่า พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยมีมูลเหตุเนื่องจากทะเลาะวิวาทเลยใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตัว

นายรณชัย ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มวัยรุ่น

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. ทางผู้สื่อข่าวได้ไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณตลาดนัดยามเย็น ก็พบว่าก่อนเกิดเหตุนั้นทางด้านนายชโลธร ได้นั่งดื่มสุราอยู่กับกลุ่มเพื่อนชายหญิงรวม 5 คน จากนั้นได้มีชายวัยรุ่นสวมเสื้อสีขาวแอบถือขวดไว้ด้านหลัง แล้วก็เข้ามาตีที่ศรีษะนายชโลธรจนล้มคว่ำตกลงไปที่พื้น อีกทั้งยังได้เข้าไปทำร้ายร่างกายซ้ำด้วยการเอาเก้าอี้ฟาด ขณะนั้นเองก็มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนเกือบ 10 คน ต่างกรูเข้ามาทำร้ายคนในโต๊ะจนกระทั่งนายรณชัยล้มลงไปกองกับพื้น จากนั้นนายรณชัย ก็คว้าเอาปืนของนายชโลธร มาแล้วลุกขึ้นได้ ก็ลั่นกระสุนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นจนแตกกระเจิงและได้รับบาดเจ็บ

ด้านนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ในกรณีที่ผู้ใหญ่บ้านได้มีการทะเลาะวิวาทและมีเหตุทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันนั้น  ทางอำเภอจะดำเนินการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งถ้าได้ข้อเท็จจริงอย่างไร จะสู่กระบวนการในการสอบวินัย เพื่อดำเนินคดีกับทางตัวผู้ใหญ่บ้าน ถ้าพบว่าข้อเท็จจริง เกิดจากความบกพร่องหรือเกิดจากความประพฤติเสื่อมเสียของทางผู้ใหญ่บ้านก็จะต้องถูกดำเนินคดี

ส่วนในเรื่องการพกปืนนั้นจากการตรวจสอบไม่มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งก็จะได้เรียกผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวมาพบก่อนเพื่อสอบถามมูลเหตุเบื้องต้น ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสอบสวนต่อไป  นอกจากนี้ทางสถานบริการก็จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเหมือนกันว่าในช่วงเกิดเหตุร้านได้ลักลอบเปิดให้บริการหรือมีการปล่อยปละละเลยหรือไม่   ซึ่งถ้ามีความผิดก็ว่ากันไปในความผิดนั้น ๆ

และเมื่อเวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับ พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อติดตามความคืบหน้าในเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทดังกล่าว ซึ่ง พ.ต.อ.จิระวุฒิ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุก็ได้ควบคุมตัวผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นมาดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่า พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยมีมูลเหตุเนื่องจากทะเลาะวิวาทเลยใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตัว

ในส่วนความผิดของผู้ก่อเหตุที่ใช้ขวดเข้าไปตีศีรษะผู้เสียหายและกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าร่วมทำร้ายร่างกายด้วยนั้น ก็ต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ และรอเรียกนายชโลธรกับเพื่อนสาว ซึ่งเป็นผู้เสียหายโดยตรงเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมแก่พนักงานสอบสวน เพื่อนำไปสู่การตั้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ก่อเหตุฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น

นอกจากนี้ในส่วนของความผิดอื่น ๆ เช่น พ.ร.บ.อาวุธปืน การพกพาอาวุธปืน และการครอบครองอาวุธปืนนั้น ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ขณะที่ร้านอาหารก็ต้องมีการตรวจสอบด้วยว่า ในช่วงเกิดเหตุนั้นปิดแล้วจริงหรือไม่ แต่จากคำบอกกล่าวในเบื้องต้นก็บอกว่าปิดหมดแล้วตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งก็อาจจะมีความผิดในฐานปล่อยปละละเลย จนทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามความเป็นจริง

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *