พพ. เปิดเวทีสาธารณะถกร่างแผน “AEDP 2018” ภาคตะวันออก จัดเวทีสุดท้าย กรุงเทพฯ 28 ส.ค. นี้

กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จัดสัมมนาเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก “AEDP 2018” ครั้งที่ 4 จ.ชลบุรี พร้อมเดินสายทำประชาพิจารณ์ครั้งสุดท้าย ที่สโมสรทหารบก กรุงเทพฯ 28 ส.ค. 2562

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ห้องแสนสุข โรงแรมบางแสนเฮอริเทจ ต.แสนสุข อ.เมืองฯ จ.ชลบุรี กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน จัดการสัมมนา “เวทีรับฟังความคิดเห็น (Public Hearing) ต่อ (ร่าง) แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ.2561-2580 (AEDP 2018)” ครั้งที่ 4 จ.ชลบุรี โดยมี นายยงยุทธ์ สวัสดิสวนีย์ รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เป็นประธานเปิดการประชุม มีผู้แทนจากส่วนราชการ สถาบันการศึกษา สภาอุตสาหกรรมฯ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเข้าร่วมสัมมนา

พพ. ได้รับมอบหมายจากกระทรวงพลังงานให้ดำเนินการจัดทำ (ร่าง) แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ.2561-2580 หรือ AEDP 2018 และจัดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศ เพื่อให้การพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกของประเทศมีความสมบูรณ์ ได้รับการยอมรับจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งการจัดทำ (ร่าง) แผน AEDP 2018 มีกรอบการดำเนินการที่สอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580 (PDP2018) และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยรักษาระดับเป้าหมาย สัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนต่อการใช้พลังงานขั้นสุดท้าย ไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ในปี 2580

นายยงยุทธ์ เปิดเผยว่า ในการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผน AEDP 2018 ครั้งที่ 4 จ.ชลบุรี เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเฉพาะภาคประชาชน ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการจัดทำแผน AEDP 2018 ให้มีความสมบูรณ์ ซึ่งส่วนใหญ่มีความคิดเห็นที่สอดรับกับแนวทางของการเข้าไปส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกให้มีความเหมาะสมกับวัตถุดิบในท้องถิ่น ซึ่งภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ที่มีการใช้พลังงานสูง เพราะเป็นพื้นที่การลงทุนและมีการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศ

ดังนั้นแนวทางการส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ และพลังงานทดแทน จะเป็นส่วนช่วยในการสร้างเสถียรภาพความมั่นคงด้านพลังงานให้เพียงพอต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่เป็นพื้นที่เป้าหมายการลงทุนของรัฐบาล ขณะเดียวกันจะเห็นว่าพื้นที่ภาคตะวันออก ยังให้ความสำคัญในการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งการนำพลังงานทดแทนมาใช้เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตการใช้พลังงาน จะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้กับพื้นที่ด้วย

นายยงยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับเป้าหมายในการทำประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ พพ. จะนำข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมความคิดเห็นจากภาคประชาชน ไปประมวลและวิเคราะห์เพื่อจัดทำแผน AEDP ฉบับปรับปรุงให้สอดรับกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2018) โดยในแผน AEDP มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนเป็นร้อยละ 30 ของการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศ จากพลังงานทดแทนทุกประเภท ทั้งวัสดุเหลือทิ้งการเกษตร ก๊าซชีวภาพ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังน้ำ พลังงานลม และพืชพลังงาน เพื่อนำมาผลิตเป็นพลังงานในรูปของไฟฟ้า ความร้อนในภาคอุตสาหกรรม และเชื้อเพลิงชีวภาพในภาคขนส่ง

ทั้งนี้ แผนการระดมความคิดเห็นดังกล่าว ก่อนหน้านี้ พพ. ได้จัดมาแล้ว 5 ครั้ง ในพื้นที่ส่วนกลาง 2 เวที และพื้นที่ส่วนภูมิภาค 3 เวที คือ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น โดยจะจัดเวทีขึ้นในครั้งที่ 5 เป็นครั้งสุดท้ายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันที่ 28 ส.ค. 2562 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 12.00 น. ที่ห้องประชุมเทวกรรมรังรักษ์ ชั้น 2 สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต แขวง สามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *