เพลิงไหม้โรงงานผลิตเสื่อน้ำมัน “เอช วี พลาส” ซอยต้นสน ถนนเศรษฐกิจ 1 ย่านนาดี ยาวนาน 18 ชั่วโมง ค่ำยันบ่ายของอีกวัน ต้องรอประกายไฟดับ ก่อนคุ้ยสารเคมีออกจากโกดัง ดับสนิท คาดเสียหายหลักร้อยล้านบาท พบปี 57 เพลิงไหม้ครั้งหนึ่ง เสียหายกว่า 300 ล้าน ใช้เวลาเป็นปีกว่าฟื้นฟู
เมื่อเวลาประมาณสองทุ่มเศษ วันที่ 25 มิ.ย. 2560 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่บริษัท เอช วี พลาส จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตฟิล์มหด PVC เสื่อน้ำมัน และผลิตภัณฑ์จากพลาสติก ภายในซอยต้นสน เลขที่ 18/23 หมู่ 5 ต.นาดี อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 30 ไร่เศษ โดยเพลิงได้เริ่มลุกไหม้อย่างรวดเร็วที่โกดังอาคาร 2 ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่สำหรับเก็บสินค้าทั้งแผ่นพลาสติกสำเร็จรูป สินค้ารอการส่งออก และวัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิต
หลังได้รับแจ้งเหตุ ได้มีการประสานรถดับเพลิงประมาณ 50 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เข้าควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้อย่างรวดเร็วบริเวณโกดังอาคาร 2 แต่เนื่องจากต้นเพลิงอยู่ลึกเข้าไปด้านใน และมีวัสดุเป็นเชื้อเพลิงจำนวนมาก ทำให้การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องระดมฉีดน้ำหล่อเลี้ยงพื้นที่โดยรอบโกดังเพื่อให้เพลิงอยู่ในวงจำกัด อีกทั้งเขม่าควันจากการเผาไหม้วัสดุพลาสติกเรซิน ทำให้ผู้สัมผัสมีอาการแสบตาและจมูก บางรายคันตามผิวหนัง แต่เบื้องต้นไม่พบผู้บาดเจ็บ
ต่อมาเมื่อเวลา 00.30 น. เข้าสู่วันใหม่ 26 มิ.ย. 2560 นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ เพื่อพูดคุยถึงสาเหตุเพลิงไหม้กับทางเจ้าของโรงงาน และเข้าไปให้กำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกนาย พร้อมกันนี้ยังได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อขอรถน้ำดับเพลิงขนาดใหญ่เข้ามาให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมในช่วงเช้าอีกด้วย โดยก่อนหน้านั้น นายโชติพัฒน์ สิชฌรังษี นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร และนายวิทยา จันทร์เสนะ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้เฝ้าดูแลสถานการณ์และควบคุมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
นายชุติเดช วิวัฒนขจรสุข เจ้าของโรงงานเล่าว่า หลังจากเกิดเพลิงไหม้ ได้มีการเรียกพนักงานที่ดูแลโกดังเก็บสินค้ามาสอบถามแล้ว โดยพนักงานทุกคนยืนยันว่า ก่อนปิดโกดังได้ทำการถอดปลั๊กไฟทั้งหมดออก และหัวหน้าผู้ควบคุมก็ได้ตรวจตามระเบียบของบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อย เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่จะเกิดขึ้นจากตรงจุดไหนนั้น ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบในภายหลัง ส่วนมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำว่า 100 – 200 ล้านบาท เพราะภายในโกดัง มีทั้งเครื่องจักรที่สั่งเข้ามาใหม่เพื่อรอการติดตั้ง วัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิตที่เพิ่งสั่งเข้ามา และยังมีแผ่นพลาสติก กับ เสื่อน้ำมันจำนวนมากที่ผลิตแล้วรอการส่งออก
เข้าสู่ช่วงกลางวัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังคงมีเพลิงโหมลุกไหม้อยู่ในโกดังพร้อมควันสีดำพวยพุ่งเป็นจำนวนมาก ต้องฉีดน้ำต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ประกายไฟที่ลุกอยู่ในตัวอาคารดับลงก่อน ต่อมาในช่วงบ่ายได้มีการใช้รถแบ็กโฮช่วยตักเพื่อเปิดหลังคา และคุ้ยเอาสารเคมีออก พร้อมนำรถน้ำเข้าไปดับไฟอีกครั้ง กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. เพลิงที่ลุกไหม้เป็นเวลากว่า 18 ชั่วโมงได้ดับลงไปอย่างสนิท
สำหรับโรงงานดังกล่าว เคยเกิดเพลิงไหม้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อบ่ายวันที่ 4 พ.ค. 2557 บริเวณอาคารผลิต ทำให้ตัวอาคารขนาดใหญ่เสียหายเกือบทั้งหลังและวัตถุดิบที่อยู่ภายในสำหรับทำเสื่อน้ำมัน ตลอดจนอุปกรณ์เครื่องจักรกลเสียหายทั้งหมดคิดเป็นมูลค่าเกือบ 300 ล้านบาท ซึ่งกว่าทางโรงงานกลับเข้าสู่สภาวะปกติใช้เวลาถึง 1 ปี จากนั้นก็ได้มอบแผ่นพลาสติกและเสื่อน้ำมันเกือบ 3,000 ม้วน ให้กับทางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อส่งมอบให้กับประเทศเนปาล เมื่อครั้งเกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ปี 2558
เจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษ เข้าตรวจวัดคุณภาพน้ำและอากาศ บริเวณโดยรอบโรงงานที่เกิดเพลิงไหม้
สาครออนไลน์ โดย กองบรรณาธิการ