“ผู้ว่าวีระศักดิ์” ฮึ่มสั่งปิดซ้ำโรงงาน “ปล่องแดงนาโคก” ฝ่าฝืนลักลอบหลอมโลหะ

“ผวจ.สมุทรสาคร” นำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานหล่อหลอมโลหะอื้อฉาวย่านนาโคก พบฝ่าฝืนคำสั่งปิดให้ปรับปรุง ลักลอบทำการผลิตสินค้า ปล่อยมลพิษเดือดร้อนทั้งตำบล สั่งปิดและดำเนินคดีทันที

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 ต.ค. 2562 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รอง ผวจ.สมุทรสาคร นายเอกพร จุ้ยสำราญ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ สนง.อุตสาหกรรมจังหวัดฯ สนง.สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฯ สนง.จัดหางานจังหวัดฯ สนง.ประกันสังคมจังหวัดฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางโทรัด และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.นาโคก

ได้เข้าตรวจโรงหล่อหลอมกษิดิ์เดช หรือ โรงงานปล่องแดง ตั้งอยู่เลขที่ 88/4 ถ.เอกชัยสายเก่า หมู่ 2 ต.นาโคก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ซึ่งโรงงานแห่งนี้ถูกชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนมาหลายครั้งและยาวนานหลายปี เพราะว่าเป็นโรงงานที่ก่อมลพิษทั้งกลิ่นเหม็น ฝุ่นละอองพิษ และน้ำเน่าเสียในพื้นที่หมู่ 2 ต.นาโคก รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง สำหรับการเข้าตรวจในครั้งนี้พบว่าทางผู้ดูแลโรงงานได้ฝ่าฝืนคำสั่ง เพราะขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสั่งปิดเพื่อปรับปรุง แต่พบว่ายังมีการแอบลักลอบทำงานผลิตสินค้า เพราะเตาเผายังมีควันและมีอุณหภูมิความร้อน อีกทั้งยังมีการก่อสร้างบางส่วนเพิ่มเติมด้วย โดยมีรถบรรทุกกำลังนำวัตถุดิบที่บรรจุกระสอบเข้ามาภายในโรงงาน ซึ่งพบว่าเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และมีเครื่องจักรอีกหลายตัวที่นำมาตั้งภายนอกอาคาร ส่วนบริเวณลานด้านนอกมีการเก็บกองวัตถุต่าง ๆ เอาไว้เป็นจำนวนมาก และมีฝุ่นทั่วบริเวณโรงงาน นอกจากนี้ยังพบคนงานที่เป็นแรงงานต่างด้าว 2 คน

ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร หลังจากที่ได้ตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ แล้วก็ได้ออกคำสั่งปิดโรงงานปล่องแดง เพราะว่าโรงงานนี้ได้ฝ่าฝืนคำสั่ง มีการลักลอบดำเนินการในขณะที่ต้องหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว จึงสั่งให้ดำเนินคดีตามกฎหมายในทุกความผิดที่พบ และสั่งให้ดำเนินการทันที มีผลอย่างช้าสุดจะต้องไม่เกินวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.)  ขณะเดียวกันก็ยังได้เข้าตรวจสอบ สถานที่หลอมและรีดโลหะที่อยู่ติดกัน ซึ่งพบว่าชื่อโรงงานเป็นคนละชื่อ แต่ใช้ใบอนุญาตในชื่อกษิดิ์เดช ประกอบการเหมือนกัน จึงเท่ากับมีความผิด และได้เรียกผู้ที่บอกว่าเป็นผู้ดูแลโรงงานไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย พร้อมกันนี้ก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเก็บวัตถุที่พบในโรงงานไปตรวจสอบเพื่อหาว่าเป็นวัตถุประเภทใด เพราะแต่ละจุดจะมีวัตถุที่สีต่างกัน และมีกลิ่นเหม็นฉุนแสบจมูก  โดยได้มีการผูกมัดประทับตราเครื่องจักรเพื่อห้ามเปิดใช้งาน ซึ่งถ้าเข้ามาตรวจอีกและพบว่ามีการแกะออก ก็จะมีความผิดอีกเช่นกัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า หลังจากที่ตรวจโรงงานแห่งนี้แล้ว ก็ได้ให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ หากพบความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมาย หากความผิดใดหน่วยงานไหนรับผิดชอบ ก็ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด และต้องทำให้เร็ว เพราะยังมีอีกหลายเรื่อง อีกหลายแห่งที่ต้องดำเนินการ และฝากให้ผู้ประกอบการ ตระหนักถึงความถูกต้อง ให้คำนึงถึงชีวิตคน คำนึงถึงสภาพแวดล้อม เพราะหากดำเนินการแบบผิด ๆ แบบนี้ก็จะไปไม่รอด และจะไม่มีทางพัฒนาสมุทรสาครให้น่าอยู่ ให้น่าเที่ยวได้ เพราะสิ่งแวดล้อมยังไม่ดี และหากอะไรที่ทำแล้วไม่เป็นธรรมต่อประชาชน ตนเองก็ยอมไม่ได้  ซึ่งหากวันหน้าตนเองมาลงพื้นที่อีกครั้ง ก็หวังว่าจะไม่พบความผิดแบบนี้อีก และย้ำให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นแบบอย่างให้อีกหลายพันโรงงานได้ทำตาม ไม่ปล่อยให้สมุทรสาครมีแต่โรงงานที่ทำลายแต่สิ่งแวดล้อม

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *