นายอำเภอ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง บุกร้านลอบเปิดปาร์ตี้ยา ในโครงการแลนด์มาร์ค มหาชัย หลังพลเมืองดีสุดทนแจ้งศูนย์โควิดฯ พบ 21 วัยรุ่นมั่วสุมดื่มสุรา ออกนอกเคหะสถาน แถมซ่อนยาเสพติดไว้ที่ขอบ กกน. แจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พบยังมีคนฝ่าฝืนออกจากบ้านช่วงเคอร์ฟิวอีก 43 ราย
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุโควิด-19 ของอำเภอเมืองสมุทรสาคร ว่ามีร้านค้าลักลอบเปิดบริการ มั่วสุมดื่มสุรา และเปิดเพลงเต้นเสียงดัง บริเวณโครงการแลนด์มาร์ค มหาชัย ถนนนิคมรถไฟ ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร จึงประสานกับ พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร และสั่งการไปยังนายสิริพงษ์ กลัดเจริญ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังตำรวจ สมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองสมุทรสาครที่ 1 และ พ.ต.ท.อภิวิทย์ แจ่มแจ้ง สว.ป.สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร เข้าดำเนินการตรวจสอบสถานประกอบการคล้ายสถานบริการดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบสถานประกอบการชื่อ “เมกา” (Mega) ซึ่งด้านหน้าปิดประตู แต่มีเสียงเพลงเล็ดลอดออกมายังด้านนอก เจ้าหน้าที่จึงทำการเรียกผู้ที่อยู่ด้านในเพื่อสอบถาม พบนายธนะพัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) แสดงตนเป็นเจ้าของร้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตน โดยมีนายธนะพัฒน์ เป็นผู้นำตรวจ พบกลุ่มวัยรุ่น จำนวน 21 คน กำลังมั่วสุม ดื่มสุรากันอย่างสนุกสนาน จากการตรวจค้นภายในร้าน พบสารเสพติดจำนวนหนึ่ง ซึ่งนายธนะพัฒน์รับเป็นเจ้าของ และตรวจค้นกลุ่มวัยรุ่นพบสารเสพติด บรรจุห่อพลาสติกซ่อนอยู่บริเวณขอบกางเกงชั้นในชาย ของชายคนหนึ่งอีกด้วย
จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางเพื่อทำบันทึกจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหากลุ่มวัยรุ่นทั้ง 21 คน ว่า ร่วมกันชุมนุมมั่วสุม และออกนอกเคหะสถานในเวลา 22.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และดำเนินคดีในข้อหามีสารเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต 2 คน มีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (ยาฟลูนิแทรซิแพม) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต 1 คน และดำเนินคดีแก่เจ้าของร้านเพิ่มในข้อหาฝ่าฝืนประกาศจังหวัด เรื่อง ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว และฝ่าฝืนคำสั่งปล่อยให้มีขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่ากําหนดเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ และยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มียาเสพติดเข้าไปในสถานที่ของตน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะดำเนินการเสนอจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเสนอปิดสถานที่ดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี
ส่วนสถานการณ์การฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินอื่นๆ นั้น ศูนย์รับแจ้งเหตุโควิค 19 อำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้รับเรื่องราวจากพลเมืองดี ว่ามีการมั่วสุมในบริเวณบ้านเช่า ท้ายซอยรุ่งเศรษฐกิจ หมู่ที่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร มีการตั้งวงปาร์ตี้กัน นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร จีงได้สั่งการนายวรชาติ สายน้ำผึ้ง กำนันตำบลท่าทราย ประสานกับนายสิริพงษ์ กลัดเจริญ ปลัดอำเภอเมืองสมุทรสาคร ร่วมกับ ร.ต.ท.โกวิท ดอนจินดา รอง สวป.สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมกำลังสายตรวจคลองครุ ชุดที่ 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณท้ายซอยพบกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 8 คน นั่งมั่วสุมดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันชุมนุมมั่วสุม ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ บริเวณด่านตรวจเคอร์ฟิว ถนนบ้านแพ้ว-พระประโทน ต.ชัยมงคล อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร น.ส.เบญญพร เฮงซิ้ม กำนันตำบลชัยมงคล พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางโทรัด ได้ร่วมกันจับกุมผู้ฝ่าฝืนออกนอกเคหะสถานโดยไม่มีเหตุอันควร ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ของวันที่ 11 เม.ย. ถึงวันที่ 12 เม.ย. 2563 เวลา 04.00 น. จำนวน 4 ราย จึงได้จับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางโทรัด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอำเภอเมืองสมุทรสาคร มีสถานีตำรวจในท้องที่ 3 แห่ง ได้มีการดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนออกนอกเคหะสถานโดยไม่มีเหตุอันควร จำนวนทั้งสิ้น 43 ราย
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ