“ผู้ว่าฯ วีระศักดิ์” คุมเข้มตลาดนัดป้องกันโควิด-19 หากละเลยเจอสั่งปิด

ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เรียกผู้ค้าตลาดนัดชี้แจงแนวทางการค้าขายหลังคลายล็อกดาวน์ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนด ทั้งสวมแมสก์ ตรวจคัดกรอง จัดเจลล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม หากไม่ทำตามเจอ “จับ-ปรับ-ปิด” ดีเดย์ 7 พ.ค. 63

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 พ.ค. ที่ห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ (401) ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ และนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายเอกพร จุ้ยสำราญ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร และนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้จัดประชุมตัวแทนผู้ประกอบการค้าขายในตลาดเขตอำเภอเมืองสมุทรสาคร เพื่อชี้แจงแนวทางการค้าขายในตลาดนัด

หลังมีมาตรการผ่อนปรนให้สินค้าทุกชนิดกลับมาค้าขายได้ดังเดิม แต่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ทั้งเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย การตรวจคัดกรองผู้เข้ามาจับจ่ายซื้อของในตลาดนัด การใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การจัดระเบียบตลาดนัด และการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ซึ่งหลังจากนี้ก็จะประชุมตัวแทนตลาดนัดจนครบทั้ง 3 อำเภอ ก่อนที่จะเริ่มใช้มาตรการเข้ม “จับ-ปรับ-ปิด” ในวันที่ 7 พ.ค. 2563 เป็นต้นไป

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ออกประกาศให้ทุกจังหวัด มีมาตรการผ่อนปรนผู้ค้าตลาดนัด ให้สามารถกลับมาค้าขายได้ดังเดิมนั้น แม้จะเป็นการช่วยให้ผู้ค้าและผู้มาจับจ่ายซื้อของในตลาดนัดได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่สถานการณ์แบบนี้ก็ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ง่ายอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะตามตลาดต่าง ๆ ที่มีผู้คนเข้าไปจับจ่ายซื้อของกันอย่างหนาแน่น ดังนั้นทางจังหวัดสมุทรสาครจึงต้องมีการประชุมกับผู้ค้าขายในทั้ง 3 อำเภอ เพื่อสร้างความเข้าใจ ความร่วมมือ และแนวทางการปฏิบัติที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันในทุกแห่งทั้งตลาดนัดและตลาดสด

ซึ่งนอกจากจะขายได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมงแล้ว ยังจะต้องให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบตลาดนัดไม่ให้มีความแออัด อยู่ในสถานที่โล่งโปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก มีทางเข้าออกทางเดียวเพื่อให้ผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาดได้ผ่านจุดคัดกรอง มีการตั้งเจลหรือแอลกอฮอล์ล้างมือไว้ให้ลูกค้า การเว้นระยะห่างทางสังคม ด้วยการจำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้ามาซื้อของไม่ให้มีปริมาณที่มากเกินไปจนก่อให้เกิดความแออัด และที่สำคัญซึ่งมีบทลงโทษด้วย คือ มาตรการบังคับให้ทุกคนที่มาตลาดนัดทั้งผู้ค้าและผู้มาจับจ่ายซื้อของต้องสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย และต้องสวมอย่างถูกวิธีด้วย คือ สวมปิดทับจมูก ไม่ใช่สวมใส่หน้ากากแต่เอาไว้ใต้คาง

นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัยที่เชื่อมโยงกับตลาดนัดนั้น หากใครไม่ให้ความสำคัญก็จะต้องมีโทษทั้ง จับ ปรับ และปิด โดยจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องที่ลงไปตรวจตราเสมอ หากพบว่าใครไม่สวมหน้ากากอนามัย ครั้งแรกอาจจะตักเตือนก่อน หลังจากนั้นหากยังพบการกระทำผิดซ้ำก็จะต้องถูกจับปรับตามคำสั่งเดิมที่เคยประกาศไว้ มีโทษไม่เกิน 20,000 บาท

และถ้ายังคงพบการกระทำผิดซ้ำอีกแม้แต่รายเดียวในตลาดนัดแห่งเดิม หรือพบการกระทำความผิดที่เพิ่มมากขึ้น ทางผู้ดูแลตลาดนัดแห่งนั้น ก็จะต้องถูกดำเนินการขั้นเด็ดขาดด้วยการ จับ ปรับ แล้วสั่งปิดตลาดนัดทันที โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. นี้เป็นต้นไป ซึ่งมาตรการเข้มข้นนี้ ไม่ใช่จำเพาะแค่ตลาดเท่านั้น แต่รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างร้านทั่วไปด้วย  ซึ่งจะต้องรับลูกค้าเข้าร้านให้พอดีให้สามารถทำระยะห่างกันได้ 

ทั้งนี้ เนื่องจากสมุทรสาครเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนเดินทางเข้าออกตลอด จึงต้องมีการควบคุมเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น หากปล่อยปละละเลย อาจนำไปสู่การแพร่ระบาดครั้งที่ 2 ได้ แล้วสิ่งที่เคยทำมาทั้งหมดก็จะกลายเป็นศูนย์ และต้องมาเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ อีกทั้งหากเกิดขึ้นจริง นั่นหมายถึงมาตรการเข้มข้นต่าง ๆ ก็จะถูกนำมาใช้เหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิม

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *