“ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร” เร่งหาทางเยียวยาแรงงานไทย-ต่างด้าว 80 ชีวิต ถูกนายจ้างลอยแพ

ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร นำทูตแรงงานเมียนมา ส่วนราชการ ก.แรงงาน รุดเยียวยาแรงงานไทย-ต่างด้าว 80 ชีวิต ถูกบริษัทผลิตรถพ่วงเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ด้านแรงงานทั้งหมดอยู่หอพักในโรงงาน ไม่มีน้ำ-ไฟฟ้า ปักหลักรอเงินชดเชย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 พ.ค. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน นายเย ยัน อ่าว ทูตแรงงานเมียนมา หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่พบกับแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว รวม 75 ครัวเรือน หรือประมาณ 80 คน เป็นแรงงานเมียนมา 67 คน และแรงงานไทย 13 คน ซึ่งเป็นพนักงานและพักอาศัยอยู่ในหอพักของบริษัท ดี-คลาส (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 109/30 หมู่ 5 ถ.เศรษฐกิจ ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

โดยทั้งหมดถูกเลิกจ้างงานอย่างไม่เป็นธรรม เนื่องจากบริษัทปิดตัวลงอย่างกะทันหันโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการบริหารงานของทางบริษัทฯ ก่อนหน้าที่จะเกิดภาวะโควิด-19 แต่ได้พยายามที่จะพยุงมาจนสิ้นสุดการจ้างงาน ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยทั้งบริษัทและหอพักที่พนักงานพักอยู่ก็โดนตัดน้ำตัดไฟ ทำให้ต้องซื้อน้ำมาบริโภคและจุดเทียนไขแทนไฟฟ้า ส่วนเรื่องอาหารได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ ในท้องที่ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ผลัดเปลี่ยนกันนำอาหารมาแจกให้บ้าง ซึ่งก็พอจะประทังชีวิตไปได้ 

น.ส.กุสุมา ตั้งศรีทรัพย์ อายุ 34 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี อดีตพนักงานบริษัทฯ เล่าว่า ตนเองและสามีเป็นพนักงานของโรงงานแห่งนี้ทำงานกันมานานเกือบ 10 ปี แต่ตนลาออกมาก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น เพราะต้องมาเลี้ยงลูกแต่ก็ยังคงขอเช่าพักอาศัยอยู่ที่หอพักของโรงงาน ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะทำเกี่ยวกับการประกอบรถประเภทต่าง ๆ ที่ใช้ในราชการ โดยเริ่มมีสัญญาณเตือนประมาณกลางเดือน มี.ค. 2563 เมื่อทางบริษัทฯ เอาเครื่องสแกนนิ้วออก ให้ใช้การเซ็นชื่อแทน แต่บางครั้งไม่มีเจ้าหน้าที่มารับเซ็นชื่อ ต่อมามีการสั่งยุบแผนกทำสี และมีการสั่งให้หยุดงานตั้งแต่วันที่ 1-15 เม.ย. 2563 เพราะไม่มีงานสั่งเข้ามา เมื่อเปิดงานวันที่ 16 เม.ย. 2563 พนักงานที่เข้ามาทำงานก็พบว่าที่บริษัทฯ ตัดน้ำตัดไฟและไม่มีการทำงานใด ๆ หลายคนจึงทราบว่าพวกตนน่าจะโดนลอยแพแล้ว จึงได้มีการแจ้งไปยังหน่วยงานของกระทรวงแรงงานเพื่อร้องเรียนในสิ่งที่เกิดขึ้น 

น.ส.กุสุมา บอกอีกว่า ที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ได้มีการแจ้งว่าจะชดเชยเงินให้ โดยจะจ่ายให้กับพนักงานในช่วงเดือน มิ.ย. แต่ทุกคนก็ไม่มั่นใจว่าจะได้รับเงินก้อนนี้จริง เพราะก่อนหน้านั้นทางบริษัทไม่ได้มีการส่งเงินประกันสังคมให้กับพนักงานมาตั้งแต่เดือน ม.ค. 2563 การจ่ายเงินเดือนก็ไม่ตรงเวลา จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง และครึ่งเดือนหลังในเดือน มี.ค. ก็จ่ายเงินให้ครึ่งหนึ่งโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าด้วย จึงทำให้ทุกคนยังไม่ยอมไปไหน เฝ้ารอความคืบหน้าและอาศัยอยู่ที่หอพักแม้ว่าจะไม่มีน้ำและไฟฟ้าใช้ก็ตาม กลัวว่าหากเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดก็จะโดนกักตัว 14 วัน หากมีอะไรเกิดขึ้น หรือนายจ้างยอมจ่ายเงินให้ ก็จะไม่สามารถเดินทางมาได้ ทุกคนจึงขออยู่ตรงนี้เพื่อทราบความชัดเจนและรอเงินชดเชยเพื่อนำกลับไปเป็นทุนในการประกอบอาชีพใหม่ที่บ้านเกิด 

ส่วนการใช้ชีวิตในทุกวันนี้ ก็ต้องซื้อน้ำมาดื่ม รวมถึงน้ำที่ใช้อาบกับชำระล้างสิ่งสกปรกก็ได้รับความช่วยเหลือจากทางเทศบาลเมืองคลองมะเดื่อ โดยนำมาใส่บ่อพักแล้วคนงานในหอก็มาตักไปใช้กัน ขณะที่ไฟฟ้านั้นก็ต้องใช้เทียนไขแทน การหุงหาอาหารก็กินกันแบบพอมีพอกินเท่าที่มีอยู่ ใช้เตาถ่านหรือเตาแก๊สหุงข้าว ทำกับข้าวแทน ส่วนที่นอนก็ยกลงมาข้างล่างเพราะไม่สามารถนอนในห้องได้เนื่องจากอากาศร้อนจัด แต่ก็ต้องทนกับยุงกัดกันบ้าง เพราะด้านหลังอาคารมีคลองน้ำเน่าเสียจึงทำให้มียุงชุกชุม บางครอบครัวต้องส่งลูกหลานกลับไปอยู่กับญาติที่บ้านเกิดก่อน ส่วนพ่อแม่ก็ปักหลักรอเงินชดเชยจากทางบริษัทฯ ต่อไป

ขณะที่การให้ความช่วยเหลือจากทางจังหวัดสมุทรสาครและทูตแรงงานเมียนมาในเบื้องต้นนี้ นอกจากจะเข้ามารับทราบปัญหาเพื่อเร่งรัดให้การช่วยเหลือ ทั้งเรื่องการหาสถานที่ทำงานใหม่ การแจ้งเปลี่ยนนายจ้างในแรงงานต่างด้าวและการให้ลูกจ้างได้เข้าถึงสิทธิการช่วยเหลือต่างๆอย่างเป็นธรรมแล้วนั้น ทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาครก็ยังได้จัดชุดถุงยังชีพนำมามอบให้อีกด้วย

สำหรับข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท ดี-คลาส (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2558 ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท มีนายปัญญา สุดเกตุ เป็นกรรมการผู้จัดการ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ 99/50 หมู่ 8 ต.บางคูวัด อ.เมืองฯ จ.ปทุมธานี ประกอบธุรกิจการผลิตรถพ่วงและรถกึ่งรถพ่วง ข้อมูลงบการเงิน ปี 2561 มีสินทรัพย์รวม 119.17 ล้านบาท รายได้รวม 128.21 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 32.95 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2560 มีรายได้รวม 528.30 ล้านบาท กำไรสุทธิ 29.47 ล้านบาท

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *