กมธ.บริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา ลงพื้นที่สมุทรสาคร ขับเคลื่อน “จังหวัดพันธุ์ใหม่”

คณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา ลงพื้นที่สมุทรสาคร ติดตามการขับเคลื่อนจังหวัดที่มีความคล่องตัวในการบริหารระบบงาน ระบบเงิน และระบบกำลังคน หรือ “จังหวัดพันธุ์ใหม่”

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 ส.ค. ที่ห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ (401) ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร คณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา โดย พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ, นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล รองประธานคณะกรรมาธิการฯ คนที่สี่, พล.อ.ชูศักดิ์ เมฆสุวรรณ์ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ คนที่สอง และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตาม เสนอแนะ เร่งรัดการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน การขับเคลื่อนจังหวัดที่มีความคล่องตัวในการบริหารระบบงาน ระบบเงิน และระบบกำลังคน (จังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูง : High Performance) โดยมี นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ และนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการและ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ

สำหรับการขับเคลื่อนจังหวัดที่มีความคล่องตัวในการบริหารระบบงาน ระบบเงิน และระบบกำลังคน (จังหวัดที่มีผลสัมฤทธิ์สูง : High Performance) หรือ “จังหวัดพันธุ์ใหม่” มีรูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารราชการจังหวัดแบ่งออกเป็น ระบบโครงสร้างและการบริหารงาน, ระบบแผนงานและงบประมาณ และระบบการบริหารงานบุคคล รวมทั้งสิ้น 11 ประเด็น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ ก.พ.ร. ได้ดำเนินการนำร่องทอดลองใช้ในพื้นที่ จ.ราชบุรี เป็นจังหวัดแรก และนำร่องทดลองใช้ในอีก 5 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น นครพนม สระบุรี ชัยนาท และสมุทรสาคร

สำหรับจังหวัดสมุทรสาคร ได้เลือกประเด็นรูปแบบการพัฒนา 2 ประเด็น คือ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) โดยยกระดับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านแพ้ว เป็นศูนย์บริการด้วยระบบ E-Service โดยมีอำเภอบ้านแพ้ว ร่วมกับส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้แก่ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน, กรมการจัดหางาน, สำนักงานประกันสังคม และสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ กรมประมง กรมปศุสัตว์, กรมพัฒนาที่ดิน นำร่องให้บริการ E-Service ใน 13 งานบริการ ทั้งนี้ ในเดือน ก.ย. จะมีการอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านแพ้วให้มีความเข้าใจในงานบริการทั้งหมดจากส่วนราชการเจ้าของระเบียบ ร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ทราบ และพิจารณาผลการทดลองใช้บริการ E-Service เสนอผู้ว่าราชการจังหวัด และสำนักงาน ก.พ.ร. ดำเนินนโยบายต่อไป

ส่วนอีกประเด็นหนึ่ง คือ การมอบอำนาจการบริหารงบประมาณจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ให้คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.)/คณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.ก.) เพื่อลดขั้นตอนการทำงาน ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วขึ้น เพราะปัญหาที่ผ่านมาความล่าช้าของการอนุมัติโครงการที่จังหวัด/กลุ่มจังหวัด ขอเปลี่ยนแปลงโครงการไม่ทันต่อการก่อหนี้ผูกพัน หรือตัดสินใจในเชิงนโยบายอื่น ๆ ได้ ซึ่งขณะนี้สำนักงาน ก.พ.ร. ได้หารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา ได้มีการติดตามภารกิจของการประปาส่วนภูมิภาค เกี่ยวกับการให้บริการประชาชน และแผนการบริหารจัดการและจัดหาแหล่งน้ำสำหรับใช้ผลิตน้ำประปาเพื่อรองรับการใช้น้ำของประชาชนด้วย โดยมีนายไพฑูรย์ พงษ์รอด ผู้จัดการประปาส่วนภูมิภาคสาขาสมุทรสาคร และนายชิงชัย บุญประคอง ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร ร่วมกันชี้แจง โดยในปัจจุบัน การประปาส่วนภูมิภาคสาขาสมุทรสาครใช้แหล่งน้ำดิบจากแม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำท่าจีน มีจำนวนผู้ใช้น้ำปัจจุบัน 84,798 ราย ส่วนเทศบาลนครสมุทรสาคร ใช้แหล่งน้ำดิบจากคลองชลประทาน ดี 7

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *