ส.ว. พบประชาชนสมุทรสาคร เอกชนวอนแก้ปัญหาต่างด้าว-ประมง

สมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่พบประชาชน จ.สมุทรสาคร รับฟังความคิดเห็น นำไปสู่การดำเนินการตามหน้าที่-อำนาจของวุฒิสภา ภาคเอกชน – ประชาชน เสนอแนะแนวทางแก้ไปปัญหาจังหวัด

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 ส.ค. ที่ห้องประชุมนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร ต.โคกขาม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร คณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง นำโดย นายวิทยา ผิวผ่อง สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองประธานคณะกรรมการโครงการฯ คนที่หนึ่ง พร้อมด้วยคณะสมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่พบปะผู้แทนส่วนราชการ องค์กรภาคเอกชน และประชาชน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภา กฎหมายที่น่าสนใจ ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ จากการลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ครั้งที่ผ่านมา พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ในประเด็นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การพัฒนาภาคอุตสาหกรรม การส่งเสริมการท่องเที่ยว ของ จ.สมุทรสาคร ตลอดจนประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

โดยมี นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ ดารารัตนโรจน์ ประธานกรรมการบริหารนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งคณะวุฒิสภาที่ร่วมลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ในครั้งนี้ ประกอบด้วย นายวิทยา ผิวผ่อง, พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช, นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ, นายเจตน์ ศิรธรานนท์, นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล, พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้, นางสุนี จึงวิโรจน์, นางศิรินา ปวโรฬารวิทยา, นายประดิษฐ์ เหลืองอร่าม, พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์, ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล, นายกิตติ วะสีนนท์ และ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม

สำหรับ “โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน” มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประกอบการติดตาม เสนอแนะและเร่งรัดการปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งการพิจารณากลั่นกรองกฎหมาย ประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พัฒนากฎหมายให้สอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่ และสะท้อนข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะไปสู่การแก้ไขด้วยกลไกของวุฒิสภา 

โดยในช่วงของการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะถึงคณะสมาชิกวุฒิสภา ทางหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ได้เสนอเรื่องการยกระดับสมุทรสาครเป็นจังหวัดปริมณฑล, มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ของผู้ประกอบการ ทั้งเรื่องการส่งเงินสบทบเข้ากองทุนประกันสังคมของนายจ้าง จาก 4% ให้เหลือ 1% เป็นระยะเวลา 1 ปี และลดอัตราค่าน้ำประปา-ไฟฟ้า ลงจากเดิม 15%, การแก้ไขปัญหาการจราจร ทั้งในเขตเทศบาลและ ถ.พระราม 2, การปรับปรุงรถไฟสายวงเวียนใหญ่ – มหาชัย, ผลักดันให้ อ.บ้านแพ้ว เป็นเกษตรมูลค่าสูง ใช้นวัตกรรมพัฒนาและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร, ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน, จัดตั้งสำนักงานท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสาคร และส่งเสริมและพัฒนาภาคการเกษตรอย่างครบวงจร                                   

ทางด้านสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้เสนอแนะเรื่องการปรับขนาดของหน่วยงานราชการในภาคอุตสาหกรรม ให้สอดคล้องกับปริมาณโรงงานของแต่ละจังหวัด, เพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้ยั่งยืน เพื่อเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำ ส่งเสริมครัวของโลก, ทบทวนเรื่องกฎหมายประมงนอกน่านน้ำ, แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานต่างด้าว, เสนอจัดตั้งศูนย์กักตัวสำหรับกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่หน้าด่านชายแดน และจัดตั้งศูนย์ข้อมูลแรงงานต่างด้าว, ผลักดันการจ้างงานกลุ่มเยาวชนผู้เคยต้องคดี, เสนอให้ยกเว้นเรื่องค่าประกันไฟฟ้า ลดอัตราค่าน้ำประปา-น้ำบาดาลในภาคอุตสาหกรรมให้เท่ากับทั่วประเทศ 

นอกจากนี้ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสาคร เสนอแนะการสร้างท่าเทียบเรือศาลาพุทธมหาสมุทร หรือศาลาพระกลางน้ำที่ชำรุด ให้สำรวจเส้นทางท่องเที่ยว และก่อสร้างท่าเทียบเรือที่ได้มาตรฐานในพื้นที่หมู่บ้านชาวประมง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการท่องเที่ยว รวมถึงอุปนายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร เสนอให้แก้ไขกฎหมายประมงที่ไม่เป็นธรรม ให้ทางรัฐบาลเยียวยาความเดือดร้อนของชาวประมง และทางภาคประชาชน เสนอให้ส่งเสริมเรื่องของสมาร์ทซิตี้ โครงการถนนเชื่อม 3 จังหวัด และผลักดันการก่อสร้างสำนักงานเจ้าท่าฯ ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะนำข้อมูลและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่ได้รับจากการลงพื้นที่ไปสู่การดำเนิการตามหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภาต่อไป

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *