กลุ่มนักเรียนโครงการฟุตบอลฯ ร.ร.พันท้ายนรสิงห์วิทยา พร้อมผู้ปกครองกว่า 200 คน รวมตัวเดินเท้า 10 กม. มาโรงเรียน ขับไล่ ผอ. หลังสั่งยึดรถบัสรับ-ส่ง ด้าน ผอ.โรงเรียนแจงรถบัส พรบ. ขาด จึงสั่งหยุดแก้ไข ขณะที่ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เตรียมหารือเครียร์กับทุกฝ่าย 8 ก.ย. นี้
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 3 ก.ย. ได้มีกลุ่มนักเรียนโครงการฟุตบอลสู่ความเป็นเลิศโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา และผู้ปกครองรวมกว่า 200 คน นัดรวมตัวกันเดินเท้ามายังโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา หมู่ 3 ต.โคกขาม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เนื่องจากไม่พอใจในการบริหารงานของนางกรองแก้ว พูลเพิ่มพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา ที่ได้สั่งยึดรถบัสรับ-ส่งนักเรียนในโครงการฯ จนทำให้นักเรียนที่พักอาศัยอยู่ข้างนอกไม่มีรถไปโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือเป็นเวลา 2 วันแล้ว
โดยตัวแทนผู้ปกครองของนักเรียนในโครงการฯ บอกว่า นักเรียนที่เป็นนักกีฬาส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัด แต่เดิมเคยพักอาศัยฝึกซ้อมและศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยาต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาประมาณ 8 ปี ตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา และ MJ Academy โดยสร้างเกียรติประวัติทางด้านกีฬาฟุตบอลให้แก่โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา และจังหวัดสมุทรสาครตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทางโรงเรียนได้พิจารณาให้นักกีฬาที่เคยพักอาศัยในโรงเรียนออกไปพักนอกโรงเรียนเพื่อลดความแออัดตามมาตรการของรัฐบาลและจังหวัดสมุทรสาคร โดยให้พักอยู่ภายในโรงเรียนได้ประมาณ 40 คน ซึ่งผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานมาเข้าเรียนตามโครงการนี้ฯ ก็พอจะรับได้ แต่ก็สงสารบุตรหลานที่ต้องออกมาอาศัยนอนที่วัดและสถานที่ฝึกซ้อมเพราะมีพื้นที่อยู่อย่างจำกัด ในช่วงระหว่างรอการก่อสร้างที่พักอาศัย
กระทั่งเมื่อสองวันที่ผ่านมาทางผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ได้สั่งให้รถบัสรับ-ส่งนักเรียนหยุด โดยอ้างว่า พ.ร.บ.ขาด และสภาพรถไม่พร้อมใช้งาน หากนำมารับส่งนักเรียนแล้วเกิดอุบัติเหตุใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งทางผู้ปกครองรับไม่ได้กับเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะแค่นี้เด็กแย่มากพอแล้ว จึงได้รวมตัวกันเพื่อขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียนคนนี้ เพราะเห็นว่าบริหารงานไม่เกิดความเป็นธรรมแก่นักเรียน และถ้าหากจะให้รถโดยสารหยุดเพื่อดำเนินการซ่อมแซมจริง ก็ควรที่จะต้องหารถมาสำรองให้กับนักเรียนก่อนสัก 2 วัน ก่อนที่จะหยุดยาว
ทางด้านตัวแทนนักเรียนโครงการฟุตบอลสู่ความเป็นเลิศฯ บอกว่า ที่ผ่านมาทุกคนได้ทำตามคำสั่งของผู้อำนวยการโรงเรียนฯ มาตลอด โดยยอมออกมาพักอาศัยอยู่ข้างนอกโรงเรียน ทั้งที่แต่เดิมที่ผ่านมาก็เคยพักอาศัยอยู่ในโรงเรียน แต่การกระทำครั้งนี้ทำให้พวกตนรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก ยิ่งเมื่อมาตัดสิทธิ์รถบัสไม่ยอมให้มารับส่งพวกตนไปโรงเรียน แล้วนักเรียนกว่า 200 คน จะไปเรียนกันได้อย่างไร เพราะรถโดยสารประจำทางก็ไม่ผ่าน และนักเรียนทุกคนส่วนใหญ่ก็เป็นลูกของผู้มีรายได้น้อย หากให้เดินเท้าไปโรงเรียนก็มีระยะทางไกล 8 – 10 กิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นอันตรายจากรถที่สัญจรไปมาอีกด้วย เนื่องจากถนนเส้นที่ต้องเดินทางช่วงเช้าและเย็นจะมีปริมาณรถที่หนาแน่นมาก นอกจากนี้ ทางผู้อำนวยการโรงเรียนฯ เคยรับปากว่าจะส่งเสริมด้านกีฬาฟุตบอล แต่สุดท้ายมากลับคำพูด ดังนั้นจึงต้องการให้ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ พิจารณาการปฏิบัติหน้าที่เพื่อนักเรียนทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบ
ด้านตัวแทนผู้บริหาร MJ Academy บอกว่า ที่จริงแล้วเรื่องรถบัสไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่เป็นเสมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ผู้ปกครองและนักเรียนหมดความอดทน ซึ่งปัญหาระหว่างทีมฟุตบอลกับผู้อำนวยการโรงเรียนฯ นั้นเป็นมานานแล้วตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง โดยที่ผ่านมาจะให้ทางอะคาเดมี ผู้ปกครอง หรือนักเรียนทำอะไรก็ทำให้ตลอด จนกระทั่งมาถูกตัดสิทธิ์เรื่องรถบัสนี้เองที่ทำให้ทุกคนหมดความอดทน จนต้องมารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ย้ายออกจากโรงเรียน
ขณะที่นางกรองแก้ว พูลเพิ่มพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา ชี้แจงว่า เรื่องนี้ตนทำตามหน้าที่และระเบียบของทางราชการทุกอย่าง ส่วนเรื่องที่ต้องให้นักเรียนออกไปพักอาศัยอยู่ข้างนอกสถานศึกษา ก็เพราะเป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทุกฝ่ายรับทราบและยินยอมในข้อตกลงร่วมกัน ต่อมาทางสถานศึกษาได้ปรับปรุงเรื่องที่พักอาศัยในโรงเรียนและให้นักเรียนเข้าพักได้ 40 คน ไม่สามารถรับเด็กกลับเข้ามาได้ทั้งหมด เพราะโรงเรียนแห่งนี้เป็นเพียงโรงเรียนปกติ ไม่ใช่โรงเรียนกีฬา จึงไม่สามารถนำนักเรียนเข้ามาอยู่ได้ ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกับทางผู้บริหารอะคาเดมีแล้ว และทางผู้บริหารฯ ก็พร้อมที่จะสร้างที่พักสำหรับนักกีฬาเหล่านี้
และเรื่องของรถบัสนั้น ตนเองไม่ได้กลั่นแกล้งใคร แต่เพราะตนเพิ่งมาตรวจพบว่า รถบัสคันนี้ พ.ร.บ.ขาดมาเป็นเวลานานแล้ว อีกทั้งสภาพก็เก่าไม่พร้อมที่จะนำไปใช้งาน หากเกิดอุบัติเหตุกับนักเรียนแล้วใครจะรับผิดชอบ ซึ่งตนก็ห่วงความปลอดภัยของนักเรียน จึงได้ขอให้รถบัสหยุดการรับส่งนักเรียนเป็นเวลาชั่วคราวก่อน เพื่อรอให้มีการซ่อมแซมและต่อ พ.ร.บ.ให้ถูกต้อง โดยได้ทำหนังสือชี้แจง และเรียกผู้บริหารอะคาเดมี มารับทราบเพื่อดำเนินการจัดหารถมารับส่งนักเรียนแทน ซึ่งตนขอยืนยันว่าที่ทำทุกอย่างนั้นเป็นไปตามระเบียบราชการและเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของนักเรียนทุกคน
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา และ MJ Academy ประมาณ 10 คน ได้เข้าพบกับ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่ห้องรับรอง ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีผู้แทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 10 (สพม.เขต 10) ผู้แทนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร และนายอำเภอเมืองสมุทรสาคร เข้าร่วมด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยามาโดยตลอด ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าทุกฝ่ายทั้งผู้ปกครองนักเรียน ทั้งผู้อำนวยการโรงเรียนฯ และ MJ Academy ได้พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อนักเรียนและลูกหลานที่เข้าร่วมโครงการนี้ฯ แต่อาจจะมีแนวทางการปฏิบัติที่แตกต่างกันในเรื่องเดียวกัน จึงทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้บ้าง
ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีความชัดเจนนั้น ขอให้พบกันในการประชุมหารือเป็นกรณีพิเศษ ในวันที่ 8 ก.ย. นี้ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธาน ร่วมด้วยคณะกรรมการศึกษาธิจังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนกรมพลศึกษา ผู้แทนผู้ปกครองนักเรียน ผู้แทนอะคาเดมี รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาหาแนวทางการส่งเสริมให้โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยาเป็นโรงเรียนกีฬา และการแก้ปัญหาในประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนด้วย
ส่วนเรื่องรถบัสรับส่งนักเรียนที่เป็นฟางเส้นสุดท้ายของผู้ปกครองและนักเรียนจนนำมาสู่การประท้วงนั้น เบื้องต้นได้มอบหมายให้ผู้แทน สพม.เขต 10 ไปประสานกับผู้อำนวยการโรงเรียนพันท้ายนรสิงห์วิทยา ให้นำรถไปดำเนินการที่สำนักงานขนส่งจังหวัดฯ ให้เป็นที่เรียบร้อย ส่วนค่าใช้จ่ายก็ให้เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของสถานศึกษากับ MJ Academy พร้อมกันนี้ให้ทางผู้ปกครองและ MJ Academy ทำเรื่องขอยืมใช้รถเพื่อรับส่งนักเรียนเป็นการชั่วคราวไปก่อน จนกว่าจะมีรถคันใหม่มาใช้แทน
ด้านตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน กล่าวว่า ตนได้มาเสนอข้อเรียกร้องให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดฯ 3 เรื่อง คือ เรื่องรถบัสที่ถูกยึดคืนไป ซึ่งสรุปทางโรงเรียนฯ จะดำเนินการเรื่องภาษีรถ ส่วนทาง MJ Academy จะดำเนินการเรื่อง พ.ร.บ. และให้ทำเรื่องของใช้รถ เรื่องที่สองคือขอให้นำเด็กเข้ามาพักอาศัยในโรงเรียนเหมือนเดิมขณะรอการก่อสร้างที่พักภายนอกนั้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ยังเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์โควิด – 19 จึงไม่สามารถอนุญาตให้เด็กเข้าพักมากกว่า 40 คนได้ ซึ่งทาง MJ Academy คงต้องเร่งรีบสร้างที่พักให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
และประเด็นที่สำคัญคือ การยื่นข้อเสนอให้ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนฯ นั้น แม้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดฯ จะไม่มีอำนาจในการโยกย้ายโดยตรง แต่ก็จะมีการนำเสนอปัญหาในที่ประชุมวันที่ 8 ก.ย. นี้ เพื่อส่งข้อมูลให้แก่ สพม.เขต 10 ได้นำเสนอเพื่อการพิจารณาต่อไป
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ