บิ๊กคลีนนิ่งตลาดกุ้งสมุทรสาคร ผู้ว่าฯ เพิ่มความเข้มข้นสวมหน้ากาก ยังไม่ถึงขั้นปิดจังหวัด

ผู้ว่าฯ สมุทรสาครนำเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตลาดกุ้งครั้งใหญ่ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายล่าสุด เผยกลุ่มเสี่ยงสูงหนึ่งในนั้นเป็นแม่ผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุ แจงการสอบสวนโรคทำได้ยาก แรงงานต่างด้าวเยอะ ย้ำสมุทรสาครโมเดลทำงานเชิงรุกตลอดเวลา เตรียมเข้มงวดสวมหน้ากากอนามัย ชี้คนตื่นตระหนกไม่ซื้อปลา-กุ้งต้องช่วยกันอธิบาย ยังไม่ถึงขั้นปิดจังหวัด

จากกรณีที่จังหวัดสมุทรสาครพบผู้ป่วยรายใหม่ เป็นหญิงไทย อายุ 67 ปี เป็นเจ้าของแพปลาในตลาดกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร เริ่มป่วยวันที่ 13 ธ.ค. 2563 ด้วยอาการปวดเมื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น เวลา 18.00 น. มารักษาที่แผนกผู้ป่วยโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แพทย์เก็บตัวส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผู้ป่วยกลับไปรอผลที่บ้าน และเวลา 22.00 น. ผลตรวจพบเชื้อ ติดตามผู้ป่วยมาแยกกักที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร กระทั่งเวลา 08.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. ส่งตรวจยืนยันอีกครั้งที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 5 สมุทรสงคราม ผลพบเชื้อ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (18 ธ.ค.) นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้นำเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร ทางแยกต่างระดับสมุทรสาคร ถนนพระราม 2 ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยใช้น้ำยาคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรคและไวรัส ขณะเดียวกันในวันนี้ตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาครได้ปิดการซื้อขาย 1 วันเพื่อทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ ส่วนแพปลาและแพกุ้งที่เป็นปัญหานั้นได้ปิดการซื้อขายเป็นเวลา 3 วัน

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์อย่างที่รายงานให้สื่อมวลชนทราบเมื่อวานนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 18 รายตามตัวได้ครบหมดแล้ว ตอนนี้อยู่ในระหว่างการดูแลของโรงพยาบาล ซึ่งผลการตรวจแจ้งยืนยันไปแล้ว 10 ราย ไม่พบเชื้อ เหลือ 8 ราย ส่วนตัวเป็นห่วงรายที่เป็นแม่ของผู้ป่วย อายุ 92 ปี บ้านอยู่ตรงข้ามบ้านผู้ป่วย ทุกวันผู้ป่วยจะต้องไปนอนเป็นเพื่อนแม่ทุกวัน ทุกคืน ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ถ้าผลตรวจออกมาว่าพบเชื้อโควิด-19 ก็จะมีอัตราเสี่ยงค่อนข้างสูงมาก

ขณะเดียวกัน จังหวัดสมุทรสาครมีแรงงานต่างด้าวเยอะ คนจะมาใช้แรงงานที่นี่กันเยอะ การปิดประเทศที่ผ่านมามีคนลักลอบเข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติบ่อยครั้ง ทางเราถ้าจับกุมได้ก็จะผลักดันออกนอกประเทศ โดยใช้กระบวนการกักกันตัวตามกฎหมายของตรวจคนเข้าเมืองเป็นหลัก ที่ผ่านมาก็ดำเนินการด้วยดีมาโดยตลอด ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเป็นลูกจ้างชาวเมียนมา 2 ราย ติดตามตัวเรียบร้อยแล้ว ที่ผ่านมาอยู่ในประเทศไทยตลอด ส่วนแรงงานต่างด้าวคนอื่นๆ ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดโดยตรง แต่อาจจะมีการค้าขายในตลาดด้วยกัน ซึ่งทีมสอบสวนโรคกำลังดำเนินการอยู่

เมื่อถามว่า ในการสอบสวนโรคผู้ป่วยสันนิษฐานว่าติดเชื้อมาจากที่ใดหรือไม่ นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีข้อมูล แต่คิดว่าน่าจะได้คำตอบเพิ่มขึ้น ลำดับเหตุการณ์ (ไทม์ไลน์) ที่ออกมายังไม่ละเอียด เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา แต่วันนี้น่าจะได้รายละเอียดเพิ่มเติมมากขึ้น ส่วนความเป็นไปได้ที่ติดเชื้อมาจากแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามานั้น ถ้าพยายามหาสาเหตุให้ได้ จะสามารถหาต้นตอในการติดเชื้อครั้งนี้ ตีกรอบเพื่อป้องกันเชื้อได้ง่าย และอยากจะหาสาเหตุว่าติดเชื้อเพราะอะไร ที่น่ากลัวอย่างหนึ่งก็คือ หาสาเหตุไม่ได้ เราไม่รู้ว่าผู้ป่วยติดเชื้อมาจากที่ใด แต่ที่สอบสวนโรคผู้ป่วยไม่มีการออกนอกพื้นที่

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า แรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่ในตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาครประมาณ 2,000 คน แต่เข้ามาให้ข้อมูลมีประมาณ 200-300 คน กำลังอยู่ในระหว่างหารือว่าจะให้แรงงานต่างด้าวเหล่านี้มาให้ข้อมูลครบได้อย่างไร ส่วนใหญ่พักอาศัยอย่างเดียว ไม่ได้ทำงานที่นี่ ส่วนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 นั้น ต้องสอบสวนโรคให้ครบทุกคนก่อน ถ้าเห็นว่าจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อจะใช้วิธีการสวอบ (Swob) หาเชื้อ ที่ผ่านมามีประมาณ 8 ราย ได้ดำเนินการสวอบหาเชื้อแล้ว ก็จะดำเนินการไปเรื่อยๆ

“ความยากในการสอบสวนโรคก็คือ แรงงานต่างด้าวค่อนข้างเยอะ ขณะเดียวกันเราใช้มาตรการกับแรงงานต่างด้าวมาหลายเดือนแล้ว เพราะฉะนั้นพิสูจน์ให้เห็นว่ากลไกสมุทรสาครโมเดลทำงานเชิงรุกตลอดเวลา แต่ตามไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลง เพราะไม่ใช่จังหวัดปิดแบบห้ามคนออกนอกพื้นที่ ในขณะเดียวกันเราไม่ได้ห้ามคนเข้ามา เพราะฉะนั้นมีการเคลื่อนไหวที่เป็นพลวัตร คนที่หลบหนีเข้าเมืองเข้ามาโดยใช้ช่องทางธรรมชาติ บางคนเดินทางมาถึงมหาชัย ถ้าเรารู้ เราจับได้ เราก็ส่งตัวกลับ อันนี้มีอยู่ ที่จับได้มีเกือบทุกวัน” นายวีระศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ความมั่นใจการควบคุมโรคในจังหวัดสมุทรสาคร โดยเฉพาะกลุ่มแรงงาน นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า คิดว่าถ้าเป็นสมุทรสาครโมเดล เป็นบทพิสูจน์ว่าเราทำงานเชิงรุก และตรวจแรงงานต่างด้าวเราตรวจก่อน หลายคนถามว่าทำไมยอดเฝ้าระวังของเราเยอะ ที่ผ่านมายอดเฝ้าระวังยิ่งเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี แสดงว่าเราเอาใจใส่ดูแล ยอดเฝ้าระวังเป็นพันคน แต่ทุกครั้งที่เฝ้าระวังยังไม่เคยเจอ เพราะฉะนั้นขอให้เชื่อใจและมั่นใจว่าจังหวัดสมุทรสาครไม่แพ้แน่นอน จะผ่านไปด้วยกัน เพราะเรามั่นใจว่ามาตรการเชิงรุกของเราดำเนินการไปอย่างเข้มข้น ไม่ใช่ปัจจุบันมาเป็นตื่นเต้น วัวหายล้อมคอก เราดำเนินการมาตั้งแต่เมื่อ 3-4 เดือนก่อน

เมื่อถามว่า มีการปรับแผนเพิ่มขึ้นอย่างไร นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า เพิ่มความเข้มข้นโดยเฉพาะหน้ากากอนามัย เดิมหลายคนกังวล คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อออกระเบียบว่า ถ้าไม่สวมหน้ากากอนามัยไปในที่ชุมชน มีโทษปรับ 20,000 บาท หลายคนบอกว่า เศรษฐกิจไม่ดี ค้าขายแย่ ยังจะออกคำสั่งปรับเงินอีก เป็นการซ้ำเติมประชาชน ทำลายสิทธิเสรีภาพ ซึ่งได้อธิบายว่ามาตรการนี้เป็นการคุ้มครองสุขภาพของประชาชน เราไม่ได้ต้องการเงิน แต่เราต้องการให้ประชาชนมีสุขภาพอนามัยที่ดีมีมาตรฐาน มากกว่าค่าของเงิน เพราะฉะนั้นมาตรการตรงนี้ต้องถูกหยิบยกมาพูดคุยว่าจะดำเนินการเข้มข้นอย่างไร

เมื่อถามว่า ได้ข่าวว่าผู้ป่วยไม่ใส่หน้ากากอนามัย นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า เป็นจุดหนึ่งที่สำคัญว่า ผู้ป่วยไม่นิยมชมชอบการใส่หน้ากาก ไม่ถึงกับไม่ใส่เลย ใส่ค่อนข้างน้อย มาตรการนี้ไม่ใช่ดึงกลับมาใช้ ยังไม่เคยปลดระวางการใช้เลย ยังใช้อยู่ เพียงแต่ว่าคนบางคนอ่อนแอเกินไป หย่อนยานกับการบังคับใช้ตัวเองเกินไป เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่กฎหมายอย่างเดียวแล้ว แต่รวมไปถึงจิตสำนึกของผู้คนด้วย

เมื่อถามว่า มีมาตรการอย่างไรที่จะแก้ภาพลักษณ์จังหวัดสมุทรสาครอย่างไร เพราะแพปลา แพกุ้งไม่มีคนมาซื้อของ นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับความจริงว่าเป็นความตื่นตระหนกของผู้คน เหมือนเหตุการณ์ที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ บางคนโทรศัพท์หาตนว่าทำไมคนที่กลับจากเชียงราย เชียงใหม่ถึงไม่กักตัว ทำไมไม่กักบริเวณไว้ ยังไปเพ่นพ่าน ตนก็ชี้แจงว่าไม่ได้เป็นพื้นที่เสี่ยงอันตราย ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สมุทรสาคร จะไปดำเนินการกับสินค้าต่างๆ ที่มาจากสมุทรสาคร กล่าวหาว่าไม่ได้คุณภาพ ก็ต้องช่วยบอกกัน

“จริงๆ แล้วมีคณะกรรมการคอยดูแลเรื่องนี้อยู่ ทุกอย่างเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ ควบคุมเด็ดขาดโดยเจ้าหน้าที่ เป็นเรื่องของความเชื่อมั่น อยากให้ทุกคนที่เป็นคนสมุทรสาครได้ช่วยกัน บ้านของเรากำลังถูกหลายฝ่ายโจมตีว่าทำให้เกิดความเสียหาย ต้องช่วยกันแสดงน้ำใจว่าสมุทรสาครยังอยู่ดีมีสุข ยังไม่ใช่เมืองอันตรายหรือโซนห้ามเข้า สินค้าที่ออกจากที่นี่ยิ่งต้องมีความเข้มข้นในการตรวจตรามากขึ้น ขอให้ประชาชน ผู้บริโภคทั่วประเทศมั่นใจว่า สินค้าที่มาจากสมุทรสาครถูกหลักอนามัยและมีคุณภาพจริงๆ” นายวีระศักดิ์ กล่าว

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า เวลา 16.00 น. วันนี้จะมีการประชุมเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันและยืนยันแน่นอน เพราะไม่ใช่ว่าตรวจครั้งแรกแล้วบอกว่าเป็นผู้ติดเชื้อเลย ต้องตรวจสองครั้งถึงจะยืนยันได้ เพราะมีหลายครั้งที่พบเชื้อครั้งแรก แต่ครั้งที่สองไม่ใช่ กรณีที่พบผู้ติดเชื้อยังไม่ถึงขั้นต้องปิดจังหวัด เพราะอยู่ในความคาดหมาย เพียงแต่ว่าไม่น่ามาช่วงนี้เลย เคยพูดมาหลายครั้งว่ามีการระบาดแน่นอน แต่หลายคนไม่เชื่ออย่างที่พวกเราเชื่อ

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *