หวั่นโควิด! ชาวบ้านขวางตั้ง รพ.สนาม ภายใน ม.การกีฬาแห่งชาติฯ สมุทรสาคร

ชาวบ้านชุมชนโดยรอบ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร ฮือคัดค้านการตั้ง รพ.สนาม รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกรงเรื่องความปลอดภัย ด้านรองผู้ว่าฯ เปิดเวทีเจรจาแต่ไม่ได้ข้อยุติ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 24 ธ.ค. ชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนรอบมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร กว่า 100 คน ได้มารวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยฯ เพื่อคัดค้านการทำพื้นที่ให้เป็นโรงพยาบาลสนาม สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยมีการขัดขวางรถบรรทุกของเจ้าหน้าที่ทหารไม่ให้เข้าไปด้านในอย่างเด็ดขาด โดยนายอาวุธ วิเชียรฉาย ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เข้าเจรจากับชาวบ้านที่มาร่วมกันคัดค้าน เพื่อรับฟังข้อกังวลและแนวทางความต้องการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ด้านตัวแทนชาวบ้านรอบชุมชน ม.การกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร บอกว่า พวกตนจะไม่ยอมให้มีการทำโรงพยาบาลสนามในพื้นที่นี้อย่างเด็ดขาด เพราะว่าชุมชนที่อยู่โดยรอบมีประชากรไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ไม่รวมแรงงานข้ามชาติ อีกทั้งยังมีเด็กเล็ก ๆ มีสถานศึกษา มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และมีสถานที่สำคัญหลายแห่ง ซึ่งมหาวิทยาลัยฯ นี้ เป็นเหมือนใจกลางของชุมชนโดยรอบ ดังนั้นจะเอาคนที่มีเชื้อโควิด-19 มาไว้ตรงกลางของชุมชนโดยรอบ จึงไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะไม่มีใครรับประกันถึงความปลอดภัยจากโรคร้ายได้ว่าจะไม่มีการแพร่กระจายไปสู่ชุมชน หรือจะไม่มีผู้ป่วยหลบหนีออกไป

โดยทางชาวบ้านเห็นว่า ควรที่จะเอาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไปไว้ในสถานที่อื่น เช่น ตลาดทะเลไทย หรือค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางทำเป็นโรงพยาบาลสนาม ดังนั้นจึงต้องการให้ทางจังหวัดสมุทรสาครกลับไปหารือและหาแนวทางการแก้ไขในเรื่องนี้กันใหม่ ซึ่งการคัดค้านนั้น ชาวบ้านก็ยังคงปักหลักไปเรื่อย ๆ เพราะเกรงว่าจะมีการลักลอบนำอุปกรณ์ เตียง หรือผู้ป่วยเข้าไปในพื้นที่ แต่สุดท้ายรถบรรทุกของเจ้าหน้าที่ทหารได้ถอยร่นออกไปก่อน เพื่อเป็นการลดภาวะความตึงเครียดจากสถานการณ์ดังกล่าว

ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมนายอาวุธ วิเชียรฉาย ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร และ นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมเจรจาทำความเข้าใจกับตัวแทนชาวบ้าน บริเวณภายใน ม.การกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร โดยนายธีรพัฒน์ กล่าวว่า ทางจังหวัดสมุทรสาคร มีความจำเป็นต้องหาพื้นที่หนึ่งที่จะต้องกันคนที่ติดเชื้อโควิด-19 ไว้ ไม่ให้ออกมาภายนอก โดยมีการระดมกำลังทุกอย่าง ทั้งทหาร ตำรวจ เพื่อที่จะสร้างความปลอดภัยให้ ต้องมีเวรยาม มีการตรวจตรา มีรั้วกั้น ซึ่งทางจังหวัดเองก็มีศึกหลายด้าน เป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อให้เรื่องนี้จบเร็วที่สุด ต้องการกันให้คนที่ติดเชื้อมารักษาจนหายแล้วปล่อยคืนสู่สังคมเหมือนเดิม ไม่ใช่มาแพร่เชื้อให้ผู้อื่น ยิ่งปล่อยนานวัน ยิ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

ส่วน นพ.นเรศฤทธิ์ฯ กล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าให้โควิด-19 หยุดการแพร่ระบาดที่ จ.สมุทรสาครภายใน 1 เดือน ซึ่งได้มีการวางแผนงานเป็นขั้นตอน โดยได้เปลี่ยนวิธีการตรวจหาเชื้อเป็นแบบทราบผลได้เร็ว และแยกคนที่มีเชื้อออกมาจากในชุมชน ดังนั้นเราจะดำเนินการช่วยกันทำให้เชื้อไม่แพร่กระจายออกไป จำเป็นอย่างยิ่งต้องมีสถานที่ให้คนที่มีผลเป็นบวกแล้วไม่มีอาการให้อยู่สักพัก แล้วยืนยันและตรวจซ้ำ ถ้าปกติหรือหายดีขึ้น ไม่ไปแพร่เชื้อต่อแล้ว ก็กลับไปดำเนินชีวิตปกติ มั่นใจได้เลยว่าเขาก็จะปลอดภัย เราจะทำแบบนี้ทั้งจังหวัดสมุทรสาครอย่างรวดเร็ว

วันนี้ตนได้เรียนแผนการดำเนินการต่อผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และคิดว่าจะใช้สถานที่ตรงนี้ดำเนินการ เพราะจะได้ช่วยกันดูแล ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป แต่ตอนนี้ถ้าไม่สามารถดำเนินการได้ เราก็จะอยู่ปนกับผู้ติดเชื้อกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่รู้อีกนานแค่ไหน อีกทั้งตอนนี้โรงพยาบาลสมุทรสาคร เตียงไม่มีแล้วที่จะรักษาคนป่วยจริง ๆ ถ้าเราไม่สามารถหาทางออกเรื่องสถานที่แยกผู้ติดเชื้อออกมาได้ เราจะทำอะไรกันไม่ได้เลย

ทางด้านชาวบ้านที่เข้าร่วมหารือ ต่างยืนกรานไม่ยอมที่จะให้มีการตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ ม.การกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร อย่างเด็ดขาด และอยากให้ย้ายออกไปตั้งที่อื่น เนื่องจากเพื่อความปลอดภัย กลัวว่าจะมีผู้ติดเชื้อหลบหนีออกมาด้านนอก รวมถึงตั้งอยู่ใจกลางชุมชน การหารือผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติระหว่างชาวบ้านกับทางจังหวัดฯ ได้ สุดท้ายนายธีรภัทรฯ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อหาข้อสรุปต่อไป

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *