รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ยันจังหวัดฯ ต้องมีศูนย์เฝ้าระวังผู้ติดเชื้อ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เผยทางจังหวัดจำเป็นต้องตั้งศูนย์เฝ้าระวัง รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ จนกว่าจะสร้างแอนตี้บอดี้ขึ้นมาได้

จากกรณีประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนรอบมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ จังหวัดสมุทรสาคร ได้รวมตัวกันออกมาคัดค้านที่จะปรับพื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยฯ ให้เป็นโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากอยู่ใจกลางชุมชน และมีความกังวลในเรื่องของความปลอดภัย ทั้งการแพร่กระจายเชื้อ หรือมีผู้ป่วยหลบหนีออกไปสู่ชุมชน เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. นั้น

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 25 ธ.ค. นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ให้สัมภาษณ์ในกรณีนี้ว่า จากการที่มีชาวบ้านออกมาต่อต้านในหลายพื้นที่ไม่ให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามนั้น เบื้องต้นตนเองไม่อยากให้ใช้คำว่า โรงพยาบาลสนาม เพราะคำว่าโรงพยาบาลฟังดูแล้วอาจจะน่ากลัว ว่าเป็นที่รองรับผู้ป่วยหนักเชื้อโควิด-19 ดังนั้นจึงอยากให้ปรับมาใช้คำว่า ศูนย์เฝ้าระวังผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า ด้วยสถานที่แห่งนี้จะใช้เพื่อการเฝ้าดูอาการของผู้ที่ตรวจพบเชื้อแล้วเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ที่ตรวจพบเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย หากมีอาการที่หนักมากขึ้น ก็จะส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร

อีกทั้งเชื้อโรคยังไม่สามารถแพร่กระจายลอยไปในอากาศได้ ตนจึงอยากให้มั่นใจในระบบการควบคุมดูแล และการรักษาพยาบาล ว่ามีความพร้อมอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังเชื่อมั่นได้ว่า ผู้ที่พบเชื้อนั้นจะไม่หนีไปไหน เพราะคนที่พบเชื้อก็ต้องการรักษาให้หาย ต้องการมีที่กิน มีที่อยู่ หากหนีออกไปจะไปใช้ชีวิตอย่างไร โดยกลุ่มคนที่จะนำเข้าสู่ศูนย์เฝ้าระวังฯ นี้ ส่วนใหญ่จะหายได้เองหลังจากที่อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จนมีการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมานั่นเอง

นายธีรพัฒน์ กล่าวอีกว่า แม้ว่าสถานที่ 2 แห่ง จะไม่สามารถดำเนินการได้แล้ว แต่ทางจังหวัดก็ยังมีความจำเป็นในการหาพื้นที่เพื่อจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังฯ เพราะด้วยข้อจำกัดที่ไม่สามารถที่จะหาพื้นที่ขนาดใหญ่ได้เร็ว และถ้าหากเกิดพบคนมีเชื้อเพิ่มมากขึ้น ก็ต้องมีศูนย์เพื่อให้เขาอยู่ในพื้นที่ที่จำกัดจนกว่าจะเกิดแอนตี้บอดี้ขึ้นมาเอง ฉะนั้นจำเป็นที่จะต้องมีศูนย์ตรงนี้ขึ้นมาหลายพื้นที่ แต่สิ่งหนึ่งที่อยากบอกก็คือ จังหวัดสมุทรสาครมีแค่ 3 อำเภอ พื้นที่ค่อนข้างเล็กจึงยากต่อการหาพื้นที่ขนาดใหญ่ไว้รองรับกลุ่มคนที่ตรวจพบเชื้อจำนวนมาก 

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาพื้นที่ ๆ มีความเหมาะสมเอาไว้ก่อน แล้วดำเนินการจัดเตรียมความพร้อมของพื้นที่ให้เรียบร้อยที่สุด ถ้าไม่มีความพร้อมเลยก็ไม่สามารถที่จะไปนำคนเข้ามาอยู่ได้ โดยพื้นที่ที่เหมาะสมนั้น ก็จะต้องมีรั้วรอบขอบชิด มีห้องพักสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ มีห้องน้ำ ไปมาสะดวก มีการจัดเวรยามเฝ้า ต้องจัดผู้บัญชาการเหตุการณ์ และต้องจัดในลักษณะของกองอำนวยการร่วม เพื่อจะดูแลบุคคลเหล่านี้ทั้งหมดได้ โดยขณะนี้ก็ยังอยู่ระหว่างการหารือถึงสถานที่ ๆ มีความเหมาะสม และที่สำคัญคือ ต้องรองรับผู้ติดเชื้อ หรือผู้ที่ตรวจพบเชื้อจำนวนมากได้ เป็นการเตรียมความพร้อมไว้ก่อนล่วงหน้า ส่วนในอนาคตอาจจะได้ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *