
ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาเจ้าของสวนมะพร้าวผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สภ.โคกขาม หลังถูกบริษัทผลิตน้ำมะพร้าวแห่งหนึ่งฉ้อโกงไม่จ่ายเงิน แถมท้าให้ฟ้องแพ่ง ยอมเป็นบุคคลล้มละลาย
วันนี้ (16 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ สถานีตำรวจภูธรโคกขาม จ.สมุทรสาคร นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำผู้เสียหายที่ถูกทางบริษัทผลิตน้ำมะพร้าวแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.โคกขาม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ฉ้อโกงไม่ยอมจ่ายเงินให้เจ้าของสวนมะพร้าว เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.โคกขาม โดยมี พ.ต.อ.สมชาย ขอค้า ผกก.สภ.โคกขาม และ พ.ต.ท.ประสพ พันแจ้ง รอง ผกก.สอบสวน สภ.โคกขาม เป็นผู้ดำเนินรับเรื่องแจ้งความ ซึ่งผู้เสียหายที่มาแจ้งความในวันนี้ มีจำนวนทั้งหมดเกือบ 10 ราย
โดยหนึ่งในผู้เสียหายคือ น.ส.จวงจันทร์ ศรีอริยะกุล อายุ 43 ปี ชาว ต.ดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี บอกว่าทางบริษัทฯ ได้ติดต่อสั่งซื้อมะพร้าวที่สวนของตน เมื่อส่งมะพร้าวไปแล้วตอนแรกก็จ่ายเงินสดให้ พอช่วงหลังเขาจะออกบิลค้างไว้ พอส่งใหม่ก็จะให้บ้างไม่ให้บ้าง ก็เลยค้างไปเรื่อย ๆ รวม 8 บิล มูลค่าความเสียหายรวม 320,000 บาท

ซึ่งทางด้านนายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้ได้นำผู้เสียหายถูกบริษัทผลิตน้ำมะพร้าว ซึ่งเจ้าของเป็นชาวต่างชาติ ทำการหลอกลวงและฉ้อโกงเอามะพร้าวไป ซึ่งตนมองว่าเป็นเจตนาที่เข้าข่ายฉ้อโกง ดังนั้นจึงพาผู้เสียหายทั้งหมดมาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับบริษัทต่างชาติกับพวก ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง ซึ่งพฤติการณ์ของบริษัทดังกล่าวมีลักษณะการติดต่อโดยการโทรศัพท์ไป และเมื่อติดต่อลูกค้าได้แล้วจะอ้างว่าจ่ายเงินสด แล้วสุดท้ายก็ขอเครดิต แล้วต่อมาเมื่อเหยื่อหลงเชื่อแล้วว่ามีการจ่ายเงินตรง ก็สั่งซื้อจำนวนมาก พอของมาส่งจำนวนมากก็ไม่จ่าย ทำแบบนี้กับเหยื่อทุกๆราย รวมแล้วประมาณ 10 กว่าราย เป็นเงินจำนวนหลายล้านบาท
ซึ่งพฤติการณ์แบบนี้เป็นลักษณะของการฉ้อโกง แล้วสุดท้ายก็ท้าให้ไปฟ้องทางแพ่งเอา เพราะคิดว่าเป็นคดีแพ่ง และบอกว่าถ้าหากตนเองถูกฟ้องแพ่งก็ยอมเป็นบุคคลล้มละลาย ซึ่งเราจะยอมให้บริษัทต่างชาติมาอาศัยเมืองไทยอยู่จะมาโกงคนไทยได้อย่างไร ฉะนั้นจึงต้องมีการบังคับใช้กฏหมายดำเนินคดีอาญากับชาวต่างชาติรายนี้ให้ถึงที่สุด

ทางด้าน พ.ต.ท.ประสพ พันแจ้ง รอง ผกก.สอบสวน สภ.โคกขาม กล่าวว่า ก่อนที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ก็จะสอบปากคำผู้เสียหายทุกปากก่อน หลังจากนั้นถ้ายืนยันว่าจะดำเนินคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะรับคดีและรวบรวมพยานหลักฐานที่มีอยู่และหาได้มาพิจารณาว่าข้อกล่าวหาของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดตามกฎหมายไหม ถ้าเป็นความผิดตามกฎหมาย ก็จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาและก็ต่อสู้คดีกันไป โดยระยะเวลาในการสอบสวนนั้นจะทำให้เร็วที่สุดประมาณ 10 วัน

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ