
โชเฟอร์แท็กซี่วัย 61 ปี ตัดสินใจฆ่าตัวตายในรถตัวเอง กลางลานจอดรถวัดอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร พี่สาวคาดสาเหตุมาจากผู้ตายเครียดจากโรคประจำตัวรุมเร้า ทั้งมะเร็ง-ถุงลมโป่งพอง
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 64 เวลา 09.30 น. ร.ต.อ.เกียรติพล น้อยพิทักษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในรถแท็กซี่ บริเวณลานจอดรถของวัดอ้อมน้อย ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงแจ้งให้ พ.ต.อ.พิภบ พัชรลภัส ผกก.สภ.กระทุ่มแบน และผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน เจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลกระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
โดยที่เกิดเหตุพบรถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง ทะเบียน 1 มค 7204 กรุงเทพฯ จอดดับเครื่องยนต์ ภายในรถตรงที่นั่งข้างคนขับ พบร่างชายสวมชุดเครื่องแบบคนขับแท็กซี่เอนเบาะนอนในสภาพเอาถุงพลาสติกคลุมหัว ใช้สายไฟฟ้ามัดรอบคอ เอามือซุกเข้าไปด้านในของเสื้อ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง ทราบชื่อต่อมาคือ นายกิตติรัตน์ ตุละยากรณ์ อายุ 61 ปี ที่อยู่แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ จากการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้นไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายร่างกาย ขณะที่บนคอนโซลหน้ารถพบรูปมารดาของผู้เสียชีวิต

จากการสอบถามนางสุกัญญา ตุละยากรณ์ อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการครูชำนาญการพิเศษ ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิตเล่าว่า ผู้เสียชีวิตประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่มานานหลายปี มีโรคประจำตัวทั้งโรคมะเร็ง และโรคถุงลมโป่งพอง ก่อนหน้านี้เคยบอกกับภรรยาและบรรดาพี่น้องว่าจะมาทำแบบนี้ โดยทุกคนก็พยายามช่วยกันป้องกันและเฝ้าระวังอยู่แล้ว กระทั่งวานนี้ (17 พ.ค.) น้องชายขับรถมาหาไหว้อัฐิของพ่อกับแม่ที่วัดอ้อมน้อย พอกลับไปถึงบ้านก็บอกอีกครั้งว่าจะฆ่าตัวตายในวันพุธที่จะถึงนี้ จนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนไปหาน้องชายแต่ไม่พบทั้งรถทั้งคน ก็เลยว่าจ้างคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ขับมาตามหาที่วัดแห่งนี้ แล้วก็มาพบว่าน้องชายขับรถมาก่อเหตุฆ่าตัวตายจริง ๆ โดยอาศัยช่วงที่ภรรยายังนอนหลับหนีออกมาก่อเหตุ ภายในบริเวณวัดอ้อมน้อย ซึ่งเป็นวัดที่เก็บอัฐิของพ่อกับแม่
ด้านนายสังวาล นาคประชา อายุ 54 ปี คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซอยประชาร่วมใจ ไร่ขิง 26 อ.สามพราน จ.นครปฐม เล่าว่า ตนเองได้รับการว่าจ้างให้ขี่รถมาดูว่ารถแท็กซี่หมายเลขทะเบียนนี้จอดอยู่ที่นี่หรือไม่ ก็มาเจอรถจริง ๆ จึงมองไปรอบ ๆ เพื่อหาคนขับรถแต่ไม่เจอ ก็เลยมองผ่านกระจกเข้าไป ก็เห็นคนขับนอนเอาถุงพลาสติกสวมคลุมหัวไว้ ก็เลยโทรไปบอกพี่สาวของผู้เสียชีวิต แล้วก็ไปแจ้งพระของวัดรูปหนึ่งตามที่พี่สาวบอก ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมกับคำบอกเล่าของพระลูกวัดรูปหนึ่งชี้ให้เห็นว่า ในช่วงเช้าวันเกิดเหตุ มีรถแท็กซี่เข้ามาในวัด 2 คัน โดยคันแรกเป็นรถแท็กซี่สีเหลือง ลากรถแท็กซี่ของผู้เสียชีวิตเข้ามา จากนั้นก็มีคนเปิดประตูรถฝั่งคนขับแล้วเดินลงมาจากรถแท็กซี่ทั้ง 2 คัน ไม่นานคนขับรถแท็กซี่คันสีเหลืองที่อยู่ด้านหน้าก็ขับถอยมาจอดด้านหลังรถแท็กซี่คันสีเขียว-เหลือง ขณะที่คนขับรถแท็กซี่คันสีเขียว-เหลืองก็พยายามเข็นรถไปข้างหน้า ก่อนที่คนขับรถแท็กซี่คันสีเหลืองจะลงมาช่วยเข็นรถ แล้วก็เปิดฝากระโปรงหน้ารถขึ้นเหมือนกำลังจะซ่อมรถที่เสีย แล้วสักพักหนึ่งคนขับรถแท็กซี่คันสีเขียวเหลืองก็เดินเข้าไปตรงกำแพงวัดที่บรรจุอัฐิผู้เสียชีวิต ส่วนรถแท็กซี่คันสีเหลืองก็ขับออกไปจากบริเวณดังกล่าว ไม่นานคนขับรถแท็กซี่คันสีเขียวเหลืองก็เดินกลับมาเปิดประตูขึ้นรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับ แล้วก็ปิดตายไม่เปิดออกมาอีกเลย จนกระทั่งมีคนมาพบว่าได้ฆ่าตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว
ทั้งนี้ จากภาพของกล้องวงจรปิดและคำให้การในเบื้องต้นของญาติผู้เสียชีวิต ก็เชื่อได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย โดยสาเหตุน่าจะมาจากต้องการหนีปัญหาโรคร้ายรุมเร้า ส่วนรถแท็กซี่คันสีเหลืองนั้น น่าจะเป็นรถของเพื่อนที่ผู้เสียชีวิตอาจจะเรียกให้มาช่วยลากรถที่เกิดเสียกลางทาง เพื่อพามาที่บริเวณลานวัดแห่งนี้ ซึ่งญาติ ๆ ไม่ได้ติดใจถึงสาเหตุของการเสียชีวิต แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ส่งศพไปให้โรงพยาบาลศิริราชทำการชันสูตรอีกครั้ง และเรียกตัวคนขับรถแท็กซี่คันสีเหลืองมาสอบปากคำด้วย ก่อนที่จะให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ