
ผบ.เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร เผยวางมาตรการแยกผู้ต้องขังแรกรับกักตัว 28 วัน ตรวจหาเชื้อทุกวันอังคารและศุกร์ ทำให้ขณะนี้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังเป็นศูนย์ อีกทั้งเตรียม รพ.สนาม รองรับผู้ต้องขังติดเชื้อรักษาตัวกลับมา
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 64 นายชำนาญ เล็กสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งพบผู้ติดเชื้อในเรือนจำหลายแห่งเป็นจำนวนมาก แต่ที่เรือนจำจังหวัดสมุทรสาครยังคงมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นศูนย์ เนื่องจากได้มีการวางมาตรการในการป้องกันโรคโควิด-19 ที่เข้มข้นมาตั้งแต่การระบาดในช่วงแรก มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและเพิ่มความเคร่งครัดมากขึ้น โดยผู้ต้องขังแรกรับ จะต้องเข้าสู่ห้องกักโรค หรือเรือนจำด่านหน้าก่อนเป็นเวลา 28 วัน แบ่งเป็นผู้ต้องขังชาย 6 ห้อง ผู้ต้องขังหญิง 5 ห้อง ซึ่งก็จะมีผู้ช่วยในการดูแลผู้ต้องขังตั้งแต่เรื่องของการเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ และเข้าสู่ห้องกักโรค นับเป็นมาตรฐานที่สูงกว่าที่อื่น

และในทุกวันอังคารกับวันศุกร์ ทางเจ้าหน้าที่ของ รพ.สมุทรสาคร หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดฯ ก็จะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับผู้ต้องขัง หากใครที่พบเชื้อก็ต้องส่งเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ส่วนคนที่เข้าข่ายสัมผัสเสี่ยงสูง ก็จะต้องถูกกักตัวจนกว่าจะครบกำหนด เมื่อนำมาตรวจยืนยันอีกครั้งแล้วไม่พบเชื้อ จึงจะสามารถเข้าสู่แดนผู้ต้องขังภายในเรือนจำจังหวัดสมุทรสาครได้ ด้วยมาตรการดังกล่าวทำให้ปัจจุบันทางเรือนจำยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แม้ที่ผ่านมาช่วงเดือน ก.พ. 64 มีการพบผู้ติดเชื้อ 2 ราย และเดือน เม.ย. 64 พบผู้ติดเชื้ออีก 2 ราย

ซึ่งผู้ติดเชื้อทั้งหมดล้วนแต่เป็นผู้ต้องขังแรกรับ และทางเรือนจำสามารถคัดแยกได้ทัน พร้อมกับนำเข้าสู่กระบวนการรักษาจนหาย ไม่เกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้างภายในเรือนจำ แต่ส่วนที่เป็นข้อกังวลของทางเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร และผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ก็คงเป็นเรื่องของความแออัดภายในเรือนจำที่มีผู้ต้องขังจำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องดำเนินการตามมาตรการนี้ให้เข้มข้นที่สุด จะได้ไม่เกิดการกระจายของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ต้องขัง

นายชำนาญ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนามของเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร กรมราชทัณฑ์ ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากเงินบริจาคในกองทุน “คนสมุทรสาครรวมใจสู้ภัยโควิด-19” ได้มีการเตรียมสถานที่ไว้รองรับกรณีที่หากพบผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวนมาก โดยได้ใช้พื้นที่บริเวณด้านข้างของเรือนจำจังหวัดสมุทรสาครที่เคยเป็นแปลงเกษตร มาปรับให้เป็นโรงพยาบาลสนาม ใช้เป็นที่รองรับผู้ต้องขังที่ติดเชื้อแล้วรักษาตัวกลับมา ซึ่งเมื่อกลับมาแล้วก็ต้องมากักตัวพักฟื้นอีก 14 วัน ตรวจหาเชื้อจนพบค่าเป็นลบจึงจะปล่อยเข้าสู่แดนภายในได้

นอกจากนี้ ได้ระงับการเยี่ยมญาติแบบปกติไว้ก่อน แต่เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้มีโอกาสพบเจอเห็นหน้ากันและเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ต้องขัง ทางเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ได้ใช้วิธีการเยี่ยมญาติแบบออนไลน์แทน โดยวางระบบให้ญาติสามารถคุยกับผู้ต้องขังผ่านระบบที่ทางเรือนจำจัดขึ้น เป็นวีดีโอคอลผ่านแอปพลิเคชันไลน์ของเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งก่อนที่จะสนทนากันแบบออนไลน์ได้ ญาติก็จะต้องส่งหลักฐานข้อมูลมาให้ทางเรือนจำตรวจสอบ จากนั้นจึงจะได้รับอนุญาตให้วีดีโอคอลพูดคุยกันได้ แต่ไม่ให้สัมผัสกันตามมาตรการของกรมราชทัณฑ์

ทั้งนี้ เรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร มีผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำฯ ทั้งหมด 2,206 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องขังชาย 1,946 ราย ผู้ต้องขังหญิงประมาณ 260 ราย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัวอีกประมาณ 200 คน
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ