เทศบาลนครอ้อมน้อย เร่งเตรียมสถานที่ “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” แห่งที่ 13 ภายในศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต ให้แล้วเสร็จปลายสัปดาห์นี้ ส่วน นอภ.กระทุ่มแบน เผยเร่งจัดหาสถานที่ทำ รพ.สนาม เพิ่มเติม
วันนี้ (30 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต เทศบาลนครอ้อมน้อย เลขที่ 234 หมู่ 11 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ได้เห็นชอบให้จัดตั้งเป็นสถานที่ป้องกันและควบคุมโรค ตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือโรงพยาบาลสนาม “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” แห่งที่ 13
ขณะนี้ทางเทศบาลนครอ้อมน้อยได้เร่งดำเนินการจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่จะเข้ามารับการรักษาตัวภายในศูนย์ฯ ประมาณ 200 เตียง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายสัปดาห์นี้ โดยนายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน นายบุญชู นิลถนอม นายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อย พญ.ดาวัลย์ อนุวุฒินาวิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาชัย 2 รวมถึงคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมสำรวจสถานที่เพื่อวางแผนการดำเนินงานให้แล้วเสร็จทันเวลา
นายบุญชู นิลถนอม นายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อย กล่าวว่า ศูนย์ฯ แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก เยาวชน สตรี คนสูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส โดยเพิ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จและส่งมอบงานเมื่อไม่นานมานี้ ยังไม่ได้เปิดให้บริการแต่อย่างใด ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ ต.อ้อมน้อย ที่พบผู้ติดเชื้อรายวันเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้โรงพยาบาลมีจำนวนเตียงไม่เพียงพอต่อการรองรับกลุ่มผู้ติดเชื้อ ดังนั้นทางเทศบาลนครอ้อมน้อย จึงต้องจัดหาสถานที่เพื่อพัฒนาให้เป็นโรงพยาบาลสนาม และโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จึงพิจารณาอนุมัติให้ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ เทศบาลนครอ้อมน้อย เป็นโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ เพื่อการควบคุมการระบาดของโรค และเพื่อการรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดูแลทุกชีวิตให้ปลอดภัย
ด้านนายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน กล่าวว่า ตามมติของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ได้ประกาศให้ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต เทศบาลนครอ้อมน้อย เป็นโรงพยาบาลสนาม หรือศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 13 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นประชาชนจะเข้ามาชุมนุม ทำกิจกรรม มั่วสุมกัน หรือเข้า-ออกในพื้นที่ดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรค ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งฯ ดังกล่าวไม่ได้ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งนอกจากที่ศูนย์ฯ แห่งนี้แล้วนั้น ทางอำเภอกระทุ่มแบน เทศบาลนครอ้อมน้อย ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขต อ.กระทุ่มแบน ก็เร่งจัดหาสถานที่อื่นที่มีความพร้อมเพื่อทำเป็นโรงพยาบาลสนาม ไม่ว่าจะเป็นอาคารโรงงานเก่า อาคารเอนกประสงค์ หรือตามวัดต่าง ๆ หากมีความเหมาะสมก็จะดำเนินการพิจารณาให้เป็นโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง