โควิดสมุทรสาครพุ่ง 398 ราย คกก.โรคติดต่อฯ หารือโรงงาน จัดทำ FAI กักตัวผู้ติดเชื้อ

คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร หารือสถานประกอบการ เร่งจัดทำสถานที่แยกกักผู้ติดเชื้อ FAI ภายในโรงงาน และบริหารจัดการตามมาตรการ Bubble and Seal รับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น

วันนี้ (6 ก.ค.) สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ล่าสุดข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ณ วันที่ 5 ก.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนทั้งสิ้น 398 ราย จำแนกเป็นพบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 151 ราย (คนไทย 126 ราย, ต่างด้าว 25 ราย) และพบผู้ติดเชื้อที่เข้ามารับการตรวจในโรงพยาบาล 247 ราย  เป็นคนในจังหวัด 205 ราย (คนไทย 128 ราย, ต่างด้าว 77 ราย) กับคนนอกจังหวัดอีก 42 ราย (คนไทย 38 ราย, ต่างด้าว 4 ราย) ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมทั้งในเขต และนอกเขตจังหวัดฯ รวมทั้งหมด 49 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมทั้งสิ้น 27,508 ราย

ขณะที่การประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครในวันนี้ มีประเด็นเรื่องของมาตรการรองรับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสถานประกอบการ โดยมีนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ และนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร หารือร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนสถานประกอบการ พร้อมให้คำแนะนำเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการจัดทำสถานที่แยกกักผู้ติดเชื้อของสถานประกอบการ หรือ FAI (Factory Alternative Isolation) และการบริหารจัดการตามมาตรการ Bubble and Seal แก่ตัวแทนสถานประกอบการขนาดใหญ่ และสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงของ จ.สมุทรสาคร

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ด้วยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร เห็นควรให้มีการประชุมหารือร่วมกับสถานประกอบการขนาดใหญ่ เพื่อจัดเตรียมการรองรับกรณีมีผู้ติดเชื้อภายในสถานประกอบกิจการ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในการบริหารจัดการ รองรับสถานการณ์วิกฤติร่วมกันระหว่างสถานประกอบกิจการกับภาครัฐ อันเนื่องมาจากการระบาดในระลอกนี้มีความรุนแรงกว่าการระบาดในระลอกที่ผ่านมา

อีกทั้งการระบาดในระลอกนี้ส่วนใหญ่พบในกลุ่มครอบครัวคนไทยแล้วกระจายไปเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ต่างจากรอบที่แล้วที่พบอยู่ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในสถานประกอบการทำให้การควบคุมโรคเป็นไปได้ง่ายมากกว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสถานการณ์เตียงในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนที่แทบจะไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้ติดเชื้อในกลุ่มสีเหลืองและสีแดง ส่วนเตียงโรงพยาบาลสนาม ที่พบว่านับวันจะมียอดผู้ติดเชื้อมากขึ้น จำนวนเตียงก็มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นการทำโรงพยาบาลสนามในโรงงาน หรือ FAI และการบริหารจัดการตามมาตรการ Bubble and Seal จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนต่อสถานการณ์ที่ล่อแหลมในขณะนี้เป็นอย่างมาก

ด้านนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวอีกว่า จากจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่พบวันละเกือบ 400 ราย เป็นระยะเวลาติดต่อกันมาหลายวันแล้วนั้น การตรวจหาเชื้อเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการควบคุมโรค ดังนั้นสิ่งสำคัญคือความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนหรือสถานประกอบการทุกแห่ง ที่จะต้องจัดเตรียมพื้นที่จะภายนอกหรือภายในโรงงาน เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อจากสถานประกอบการของตนเอง

โดยการจัดเตรียมพื้นที่กักตัวผู้ติดเชื้อนี้ไม่ต้องรอให้ตรวจเจอผู้ติดเชื้อแล้วค่อยดำเนินการ นับตั้งแต่วันนี้ไปขอให้ทุกโรงงานกลับไปดำเนินการหาพื้นที่และทำสถานที่กักตัวไว้รอผู้ติดเชื้อเลยทันที โดยให้สาธารณสุขเป็นพี่เลี้ยงในการเข้าไปดูแลการจัดระบบภายใน เพราะโรคโควิด-19 บอกไม่ได้ว่าจะเกิดกับใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ หากเกิดแล้วจะไม่ทันต่อการควบคุมโรคถ้าไม่มีการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า ดังนั้นหลังจากที่ประชุมหารือรับทราบมาตรการและแนวทางการดำเนินงานร่วมกันแล้ว ก็ขอให้ทุกสถานประกอบการไปดำเนินการทันที และจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบความพร้อมในการเตรียมสถานที่เป็น FAI ต่อไป

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *