
นอภ.กระทุ่มแบน ร่วมกับ นายก ทต.สวนหลวง เปิด “ศูนย์พักคอยคนสาคร” กระทุ่มแบน ศูนย์ 3 วัดหนองพะอง รองรับผู้ติดเชื้อโควิดในชุมชน เจ้าคณะอำเภอกระทุ่มแบน ฝากข้อคิด “เราต้องทำใจสู้กับโรคนี้ให้ได้ อย่าไปวิตก”
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ก.ค. 2564 นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน พร้อมด้วย พระครูสีลาธิการี เจ้าคณะอำเภอกระทุ่มแบน เจ้าอาวาสวัดหนองพะอง ผู้อนุญาตให้ใช้สถานที่ นายพลภวัฒน์ ชำนาญวาด นายกเทศมนตรีตำบลสวนหลวง คณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน รพ.สต.บ้านสวนหลวง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้แทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ได้เข้าตรวจติดตามความพร้อม และทำการเปิด “ศูนย์พักคอยคนสาคร” กระทุ่มแบน ศูนย์ 3 หรือโรงพยาบาลสนามในชุมชน (CI – Community Isolation) ณ ศาลาการเปรียญ วัดหนองพะอง ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
ซึ่งภายในศูนย์ฯ แห่งนี้ สามารถรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชนได้ 120 เตียง แบ่งออกเป็นผู้ป่วยชาย 58 เตียง ผู้ป่วยหญิง 62 เตียง โดยมี รพ.สต.บ้านสวนหลวง เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ เมื่อแรกเข้าผู้ติดเชื้อก็จะได้รับสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวที่จำเป็น และหนังสือสวดมนต์ 1 เล่ม และในเวลา 17.30 น. ของทุกวัน ก็จะมีพระมาเทศน์นำผ่านทางระบบอินเตอร์คอม เพื่อให้ผู้กักตัวได้ท่องปฏิบัติตาม เป็นการรักษาและฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้ติดเชื้อด้วยธรรมะ ควบคู่ไปกับการรักษาทางระบบสาธารณสุข



โดยพระครูสีลาธิการี กล่าวให้ข้อคิดทางธรรมว่า ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้ บางทีทำให้คนเราเกิดความวิตกกันจนเกินไป เราต้องทำใจสู้กับโรคนี้ให้ได้ อย่าไปวิตก อย่าไปกังวลว่าถ้าเราติดแล้วเราจะแย่ เพราะโรคนี้จะยังคงอยู่กับเราไปอีกนาน ไม่ได้อยู่เพียงแค่ 1-2 วันแล้วหายไป ฉะนั้นพวกเราก็ต้องสู้ด้วยการที่เราต้องเตรียมพร้อมในทุก ๆ ด้าน คือ เวลาจับต้องอะไรก็ต้องล้างมือให้สะอาด สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งทุกพื้นที่ และต้องมีการเว้นระยะห่างกันด้วย อีกทั้งถ้ามีวัคซีนมาก็ให้ฉีดกันไว้เพื่อเป็นการป้องกันตนเองและครอบครัว เป็นการสู้กับเชื้อโรคผ่อนหนักให้เป็นเบา
อีกอย่างหนึ่งที่วิตกกังวลกันมากจนอาจเกิดปัญหาตามมา คือ สังคมรอบข้างไม่ยอมรับผู้ติดเชื้อ และบุคคลที่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ แม้จะไม่ได้ติดเชื้อไปด้วยก็ตาม แต่ก็จะถูกคนรอบข้างรังเกียจไปด้วย โดยไม่ยอมให้เข้าใกล้ ไม่ยอมให้มีการซื้อขายสินค้าแก่บุคคลเหล่านั้น แล้วแบบนี้พวกเขาจะอยู่กันอย่างไร จะเอาอะไรที่ไหนกิน ดังนั้นจึงอยากให้เห็นว่า พวกเขาก็ล้วนแต่ต้องการกำลังใจจากคนรอบข้าง ขอให้สังคมเข้าใจ ยอมรับ และไม่รังเกียจ ส่วนการพบปะก็เป็นแบบห่าง ๆ มีการเว้นระยะ และปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข เพราะเราไม่รู้หรอกกว่าวันนี้เชื้อโรคอยู่ที่ไหน จึงควรเฝ้าระวังที่ตัวเองดีที่สุด





ส่วนความก้าวหน้าเกี่ยวกับการจัดสร้างศูนย์พักคอยคนสาคร ขณะนี้ได้มีประกาศให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูงแล้วจำนวน 32 แห่ง แบ่งเป็น อำเภอเมืองสมุทรสาคร 15 แห่ง อำเภอกระทุ่มแบน 8 แห่ง และ อำเภอบ้านแพ้ว 9 แห่ง รองรับจำนวนผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวได้ทั้งหมด 3,841 เตียง เปิดใช้งานได้แล้วทั้งหมด 4 แห่ง คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะเปิดได้ครบทั้ง 32 แห่ง และยังจะมีศูนย์พักคอยคนสาคร ที่จัดตั้งเพิ่มขึ้นตามมาอีกหลายแห่ง ที่อยู่ระหว่างรอการประกาศอย่างเป็นทางการจากนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร



สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง