สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จ.สมุทรสาคร ยอดวันนี้ 814 ราย ขณะที่ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เผยเชื้อแพร่กระจายเร็ว มีผู้ติดเชื้อสูงเกินคาดการณ์ไว้ ยังรอเตียงรักษากว่า 2.8 พันคน วอนประชาชนปฏิบัติตามมาตรการล็อกดาวน์ เคลื่อนไหวออกนอกพื้นที่ให้น้อยที่สุด หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นอาจถึงขั้นประกาศปิดจังหวัด
วันนี้ (20 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ใน จ.สมุทรสาคร ยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบไม่มีทีท่าว่าจะลดลง โดยข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ณ เวลา 24.00 น. วันที่ 19 ก.ค. พบผู้ป่วยรายใหม่ 814 ราย ยังคงสูงสุดอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดระลอกที่ 3 โดยพบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 135 ราย (คนไทย 99 ราย, ต่างด้าว 36 ราย) พบจากตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาล 663 ราย จำแนกเป็นคนในจังหวัด 476 ราย (คนไทย 349 ราย, ต่างด้าว 127 ราย) และคนนอกจังหวัด 187 ราย (คนไทย 142 ราย, ต่างด้าว 45 ราย)
ส่วนผู้ป่วยในกลุ่ม Bubble & Sealed พบภายในเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร 16 ราย ด้านผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 36,392 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 26,459 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 9,851 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย สะสมอยู่ที่ 82 ราย ขณะที่จำนวนเตียงของโรงพยาบาลรัฐและเอกชนใน จ.สมุทรสาคร 11 แห่ง มีอัตราการใช้เตียงเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ทุกโรงพยาบาล และการใช้งานโรงพยาบาลสนาม 7 แห่ง ใช้งาน 97.69 เปอร์เซ็นต์ คงเหลือ 65 เตียง
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ณ วันนี้ต้องยอมรับว่าการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 เป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ จนเตียงในโรงพยาบาลหลักที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้ติดเชื้อแล้ว แม้แต่เตียงในโรงพยาบาลสนามก็ไม่พอเช่นกัน ดังนั้นการเพิ่มโรงพยาบาลสนามหรือศูนย์ห่วงใยคนสาคร ควบคู่ไปกับการปรับสร้างโรงพยาบาลสนามสีเหลือง และ การสร้างศูนย์พักคอยคนสาคร หรือโรงพยาบาลสนามในชุมชน (Community Isolation) เพื่อให้ทันต่อการรองรับผู้ป่วยในทุกระดับ จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับทุกฝ่าย ที่จะร่วมกันฝ่ากลางวิกฤติโควิด-19 นี้ไปให้ได้
ซึ่งสถานการณ์ของจังหวัดสมุทรสาครขณะนี้อยู่ในขั้นที่น่าวิตกกังวลเป็นอย่างมาก แม้ทางจังหวัดและอำเภอ กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะเร่งสร้างศูนย์พักคอยคนสาคร รองรับผู้ติดเชื้อได้กว่า 4,000 คน แต่ระบบบางอย่างไม่เรียบร้อย ทำให้ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ตามวันเวลาที่คาดการณ์ไว้ จึงยังคงมีผู้ติดเชื้อนอนรอเตียงอยู่ที่บ้านประมาณ 2,800 คน
โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ส่วนตัวผู้ว่าฯ รู้ดีว่าทุกคนเหนื่อย แต่ทุกคนต้องยอมเหนื่อยวันนี้ เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีขึ้นกว่าวันนี้ ยอมเหนื่อยวันนี้ เพื่อวันพรุ่งนี้จะได้มีอนาคตที่ขึ้นกว่าเดิม แม้วันนี้ทุกคนอาจจะกำลังรู้สึกมืดมนว่าจะเดินไปทางไหนดี ดังนั้นในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือ พวกเราต้องรักและสามัคคีช่วยเหลือกัน ซึ่งในอนาคตในฐานะที่ตนเองเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ก็บอกได้เลยว่าคนสมุทรสาครคงต้องเหนื่อยอย่างแน่นอน ทางข้างหน้ายังมีอุปสรรคให้ร่วมกันฝ่าฟันอย่างแสนสาหัส จากที่เราเคยพูดว่า สมุทรสาครไม่แพ้แน่นอนนั้น วันนี้ต้องเพิ่มคำว่ารักและสามัคคีเข้าไปด้วย คือ คนสมุทรสาครต้องรักและสามัคคี จะไม่แพ้แน่นอน แล้วพวกเราจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้แม้อาจจะช้าไปบ้างก็ตามที
ส่วนการประกาศล็อคดาวน์ของ ศบค.และ คำสั่งของจังหวัดสมุทรสาคร ที่ออกมาในวันนี้อยากให้พี่น้องประชาชนจังหวัดสมุทรสาคร ยึดถือปฏิบัติร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องของการหยุดการเคลื่อนไหวออกนอกพื้นที่ หรือเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุดนั้น อยากให้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจกันของพี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสาครที่จะปฏิบัติตามด้วยความเต็มใจ ไม่อยากให้ทำเพราะถูกบังคับ อยากให้ทุกคนใช้หัวใจพึงตระหนักว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันถือปฏิบัติ
เพราะหากทุกคนยังคงปล่อยปละละเลยขาดความร่วมมือร่วมใจกัน แล้วสถานการณ์ยังคงมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกวันนั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่การประกาศปิดจังหวัด ถ้าสิ่งนี้จะเป็นทางรอดสุดท้ายที่สำคัญและจำเป็นต่อชีวิตหรืออนาคตของพี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งถ้าจำเป็นต้องทำถึงขั้นนั้นก็ต้องทำ จึงขอให้คนจังหวัดสมุทรสาครเตรียมใจไว้บ้าง เพราะวันนี้มาตรการที่เราบอกว่าเข้มข้นแล้วนั้น บอกได้เลยว่ายังไม่ถึงที่สุด ยังคงมีมาตรการที่เข้มข้นมากกว่านี้อีก โดยสิ่งที่ทางจังหวัดและสาธารณสุขต้องการคือ การลดความเคลื่อนไหวของคนในพื้นที่สีแดงเข้มให้ได้มากที่สุด ถ้ามาตรการที่ประกาศออกมาในขณะนี้ ยังส่งผลทำให้เกิดการเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็นอยู่นั้น ต่อไปในอนาคตก็จำเป็นต้องปิดประกาศล็อคดาวน์ทั้งเมือง
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ