ชาวตลาดร้อยปีบ้านแพ้ว เข้าสำรวจความเสียหายหลังเหตุเพลิงไหม้ ใจหายเพราะเป็นตลาดเก่าแก่ ผูกพันมานาน ส่วนน นอภ.บ้านแพ้ว เร่งทำทะเบียนผู้ประสบเหตุเพื่อเยียวยา พร้อมขอบคุณพี่น้องชาวสวนนำเรือยนต์ช่วยดับไฟ ขณะที่ นอภ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี อดีต นอภ.บ้านแพ้ว กล่าวชมกองเรือชาวสวนบ้านแพ้ว มีน้ำใจช่วยดับเพลิงโดยไม่ต้องร้องขอ ชี้เป็นวิถีของคนลุ่มน้ำลำคลองดำเนินสะดวก
วันนี้ (1 ส.ค.) ที่ตลาดร้อยปีบ้านแพ้ว หมู่ 1 ต.บ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ชาวบ้านที่อาศัยและทำมาค้าขายอยู่ภายในตลาดฯ เข้ามาสำรวจร่องรอยความเสียหาย และคุ้ยหาสิ่งของมีค่าที่คาดว่าน่าจะยังหลงเหลืออยู่ในกองเถ้าถ่าน ซึ่งตลาดแห่งดังกล่าวเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อคืนนี้ (31 ก.ค. 64) สร้างความเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน ชาวบ้านแพ้วหลายคนรู้สึกเสียดายและใจหายเป็นอย่างมาก เพราะตลาดแห่งนี้เป็นตลาดเก่าแก่ เป็นวิถีชีวิตของคนริมคลองดำเนินสะดวก เป็นแหล่งค้าขายแบบดั้งเดิม คนที่ยังอยู่ในปัจจุบันเกิดมาก็เห็นตลาดแห่งนี้แล้ว
นายพิศิษฐ์ ตั้งอิทธิศักดิ์ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดรายใหญ่ในตลาดร้อยปีบ้านแพ้ว บอกว่า ตอนเกิดเหตุตนเองนอนอยู่อีกบ้านหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างออกไปมากนัก ส่วนบ้านที่เป็นร้านค้าที่ถูกไฟไหม้นี้ มีแม่นอนพักอาศัยอยู่ ซึ่งตอนเกิดไฟไหม้ไม่สามารถเอาอะไรออกไปได้เลย มีเพียงแม่เท่านั้นที่หนีรอดเอาชีวิตออกมาได้ นับเป็นความโชคดีมากที่สุดแล้ว ส่วนความผูกพันที่มีกับตลาดร้อยปีนั้น ตนเองเกิดที่นี่ เรียนที่นี่ และอยู่ทำมาหากินที่นี่จึงมีความผูกพันเป็นอย่างมาก ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย
ขณะที่นางอรพรรณ ตั้งสุทธิวงษ์ อายุ 77 ปี เจ้าของร้านอรพรรณ ร้านขายของโชว์ห่วยรายใหญ่อีกรายในตลาดร้อยปีบ้านแพ้ว เล่าว่า ตอนเกิดเหตุไฟไหม้ตนเองกำลังนอนดูโทรทัศน์อยู่ภายในบ้าน แต่จู่ ๆ ไฟก็ดับลงไปเลย จากนั้นก็มีคนตะโกนว่าไฟไหม้ ตนพร้อมด้วยลูกหลานอีกเกือบ 10 คนที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันจึงรีบหนีลงมา โดยไม่ได้หยิบอะไรติดมือมาเลย และไม่เคยคิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับพื้นที่ตลาดร้อยปี ที่ผ่านมาก็เคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ แต่พอมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับตนเองและคนรอบข้าง ก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่นับเป็นความประทับใจจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้คือ การที่ได้เห็นคนหลาย ๆ คนออกมาช่วยกันดับไฟ โดยเฉพาะชาวสวนบ้านแพ้ว ที่นำอุปกรณ์ทางการเกษตรจากในสวนออกมาช่วยดับไฟ
ซึ่งตัวเองและครอบครัวนั้น หลังจากที่เพลิงสงบลงแล้วก็ได้กลับเข้ามาที่บ้านอีกครั้ง แล้วก็มาช่วยกันขุดหาของมีค่าที่พอจะยังหลงเหลืออยู่บ้าง ซึ่งก็ได้เงินเก็บมาจำนวนหนึ่งสภาพถูกไฟไหม้ สำหรับความผูกพันที่มีต่อตลาดร้อยปีบ้านแพ้วนั้น ตนเองเกิดที่นี่ โตที่นี่ เรียนที่นี่ และทำมาค้าขาย พักอาศัยอยู่ที่ตลาดร้อยปีแห่งนี้มาตลอด จึงมีความผูกพันกับตลาดแห่งนี้มาก เพราะที่นี่สงบ ร่มเย็น ผู้คนก็มีอัธยาศัยดี อยู่กับแบบมิตรไมตรี และมีน้ำใจต่อกัน เป็นวิถีชีวิตชาวบ้านที่อยู่มาอย่างยาวนานกว่าร้อยปีแล้ว
ทางด้านนายพิรุณโรจน์ นาคดนตรี นายอำเภอบ้านแพ้ว ที่ได้เดินทางมาสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น ก็บอกว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่วิทยาการ จากกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้สรุปสาเหตุว่าเกิดจากอะไร อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ พร้อมกันนี้ก็มีทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร เข้ามามอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นด้วย โดยหลังจากนี้ทางอำเภอบ้านแพ้วพร้อมด้วยเทศบาลตำบลบ้านแพ้ว ก็ได้เปิดให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากเหตุการณ์ไฟไหม้และผู้ที่มีส่วนได้รับผลกระทบมาลงทะเบียนเพื่อพิจารณารับการเยียวยาช่วยเหลือต่อไป ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นมีบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลังโดยมีเจ้าของบ้านพักอาศัยตามเลขที่บ้านปรากฏจำนวน 18 ราย และเป็นผู้ที่มาขอเช่าเพื่อทำการค้าขายอีก 10 กว่าราย
ส่วนบริเวณพื้นที่เกิดเหตุนั้นก็ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการเคลียร์พื้นที่ ๆ ได้รับความเสียหายทั้งหมด ด้านผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้นเมื่อคืนที่ผ่านมาบางส่วนก็ได้เข้าพักอาศัยที่หอประชุมอำเภอบ้านแพ้ว แต่บางส่วนก็ไปนอนพักที่บ้านญาติ หรือบ้านตนเองที่ปลูกสร้างไว้ที่อื่น ส่วนวันพรุ่งนี้ (2 ส.ค. 64) ก็จะได้เรียกผู้ประสบภัยโดยตรงกับผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดมาหารือและชี้แจงแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบต่อไป ส่วนเรื่องของการปรับพื้นที่ในอนาคตว่าจะมีการสร้างตลาดร้อยปีขึ้นใหม่หรือไม่นั้น คงต้องรอให้การปรับพื้นที่เสร็จสิ้นและหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายพิรุณโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกฝ่ายที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือปฏิบัติการ ระงับเหตุไม่ให้ลุกลามใหญ่โตไปมากกว่าที่เกิดขึ้น และอีกหนึ่งพลังที่ทำให้ชาวตลาดร้อยปีรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจเป็นอย่างมาก คือ พี่น้องชาวสวนของอำเภอบ้านแพ้ว จำนวนมาก ที่ได้ขับเรือยนต์พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในสวนเกษตร ทั้งเครื่องสูบน้ำ และเครื่องฉีดพ่นน้ำ ทุกขนาดเล็กใหญ่ออกมาช่วยกันระดมฉีดน้ำเข้ามาดับไฟ จนทำให้การดับเพลิงนั้นเป็นไปแบบรอบทิศทาง เกิดความเสียหายน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ หากไม่ได้กำลังจากพี่น้องชาวสวนเกษตรกรบ้านแพ้ว ก็อาจจะทำให้เกิดการลุกลามสร้างความเสียหายไปมากกว่านี้อย่างแน่นอน
ปิดท้ายด้วย ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี อดีตนายอำเภอบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร กล่าวถึงชาวสวนบ้านแพ้ว ที่นำเรือยนต์มาช่วยดับเพลิงที่ตลาดร้อยปีบ้านแพ้ว ว่า “บรรดากองเรือของชาวสวนบ้านแพ้ว ที่บางคนมองว่า เป็นปัญหาทางด้านมลพิษทางเสียง ส่งเสียงดัง แว้นไปแว้นมาตามลำคลองในวันหยุดบ้าง ในช่วงเย็น ๆ บ้าง สร้างความรบกวน สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ให้แก่ผู้คนในเวลาพักผ่อน ซึ่งว่ากันว่า คนที่รำคาญเหล่านี้ เข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านแพ้วในภายหลังทั้งสิ้น จึงไม่คุ้นชินกับวิถีชาวเรือของที่นี่
ณ วันนี้ เมื่อยามค่ำคืนที่ผ่านมา บรรดากองเรือของชาวสวนบ้านแพ้ว ต่างพร้อมใจกันออกมาโดยไม่ได้นัดหมาย โดยไม่มีผู้ใดร้องขอ โดยไม่ต้องรอรับคำสั่งจากใคร ด้วยเพียงเพราะว่า พี่น้องของเขาที่ตลาดร้อยปี ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอัคคีภัย เพียงเพราะว่าเขาต้องการที่จะมาช่วยผจญเพลิง เผชิญเหตุการณ์ร่วมกับพี่น้องของเขา เพียงเพราะว่าเขามีเครื่องไม้เครื่องมือของชาวสวน ที่พอจะนำมาช่วยสูบน้ำจากลำคลองดำเนินสะดวก ซึ่งเป็นสายธารชีวิตของพวกเขา ดับเพลงที่กำลังโหมกระพือ ไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ และเพื่อลดความเสียหายอันอาจเกิดขึ้น ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ของผู้ที่อาศัยอยู่ในตลาด เหตุผลประการหนึ่ง น่าจะเพียงเพราะว่า นี่คือวิถีชีวิตของคนบ้านแพ้ว วิถีชีวิตของชาวสวนบ้านแพ้ว วิถีชีวิตของชาวเรือบ้านแพ้ว วิถีชีวิตของคนลุ่มน้ำลำคลองดำเนินสะดวกแห่งนี้…
หลังจากนี้ ด้วยกำลังน้ำใจของคนบ้านแพ้ว คนสมุทรสาคร คนไทยทั่วประเทศ และคนที่ใจอยู่ที่บ้านแพ้วอย่างผม เพื่อเป็นการช่วยเยียวยาจิตใจของผู้คนที่ผูกพันกับวิถีแห่งนี้ สิ่งหนึ่งในหลาย ๆ สิ่ง ที่ทุกคนพอจะทำกันได้ เราจะร่วมกันและช่วยกันสร้าง “ตลาดร้อยปีวิถีบ้านแพ้ว” ขึ้นมาใหม่…ครับ …ประพันธ์ / 1.ส.ค. 64, 07.55″
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ