โควิดสมุทรสาครนิวไฮ 1,639 ราย ดับ 15 ราย ผู้ว่าฯ สั่งเข้ม คุมโรงงาน-ตลาดนัด-รพ.เอกชน

สถานการณ์โควิด-19 สมุทรสาคร ทำสถิติสูงที่สุดอีกครั้ง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,639 ราย เสียชีวิต 15 ราย ด้านผู้ว่าฯ เน้นย้ำเรื่องศูนย์พักคอยฯ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องรับผิดชอบ รวมถึงสั่งปิดตลาดนัดแห่งหนึ่งริม ถ.เศรษฐกิจ ย่าน ต.ท่าทราย

วันนี้ (10 ส.ค.) สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ใน จ.สมุทรสาคร พบว่าทำสถิติยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดอีกครั้งหนึ่ง จากข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อเวลา 24.00 น. วันที่ 9 ส.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 1,639 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้จำแนกเป็นพบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 304 ราย (คนไทย 156 ราย, ต่างด้าว 148 ราย) พบจากตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาล 1,335 ราย จำแนกเป็นคนในจังหวัด 817 ราย (คนไทย 779 ราย, ต่างด้าว 38 ราย) และคนนอกจังหวัด 518 ราย (คนไทย 483 ราย, ต่างด้าว 35 ราย) ด้านผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 61,897 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 33,935 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 27,737 ราย และมีผู้เสียชีวิต 15 ราย ทำสถิติผู้เสียชีวิตรายวันมากที่สุด สะสมอยู่ที่ 225 ราย

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ว่าตนได้เน้นย้ำการดำเนินงาน 5 ประเด็นสำคัญ คือ 1. การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในชุมชน “ศูนย์พักคอยคนสาคร” หรือ CI (Community Isolation) ที่ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องจัดตั้งขึ้น และต้องให้เป็นความรับผิดชอบการดำเนินงานของท้องถิ่นด้วย อย่าผลักภาระไปให้ส่วนใดส่วนหนึ่ง อีกทั้งเรื่องขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อให้ทันต่อการรองรับผู้ติดเชื้อในชุมชนที่มีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น บางครั้งอาจจะมีการลัดขั้นตอนบางส่วนไปบ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องน่ากังวลใจ ขอเพียงทำด้วยความสุจริตเป็นพอ,

2. การเข้าถึงวิธีการตรวจโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK (Antigen Test Kit) ในชุมชนกลุ่มเสี่ยงสูง ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน ซึ่งปัจจุบัน จ.สมุทรสาคร มีชุดตรวจ ATK กว่า 70,000 ชิ้น จึงได้สั่งการให้ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ค้นหากลุ่มผู้ป่วยในชุมชน ถ้าเจอสถานที่ใดที่น่าจะมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ก็ต้องรีบลงพื้นที่ทำงานเชิงรุกเพื่อตรวจหาเชื้ออย่างครอบคลุมและควรเปิดให้มีระบบการตรวจแบบ Walk-In ทุกวันศุกร์ แต่เน้นไปที่กลุ่มผู้เสี่ยงสูงที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) เมื่อตรวจเสร็จถ้าพบมีการติดเชื้อก็รีบจ่ายยาตามอาการ เพื่อให้ทันต่อการควบคุมโรคในชุมชนอย่างทันท่วงที,

3.โรงงานหรือสถานประกอบการ ที่มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม หรือ FAI (Factory Accommodation Isolation) ที่ได้มาตรฐานแล้วนั้น จะต้องมีการบังคับใช้มาตรการอย่างเข้มแข็งด้วย ซึ่งเมื่อมีการตรวจพบคนงานติดเชื้อโควิด-19 ก็ต้องใช้ FAI ที่จัดตั้งขึ้นมาให้เป็นผล คือ ต้องบังคับคนงานที่ติดเชื้ออยู่แต่ใน FAI ที่โรงงานจัดตั้งขึ้นจนกว่าจะครบกำหนดกักตัว ไม่ใช่ตรวจพบแล้วก็ปล่อยตัวให้กลับไปพักที่หอพักหรือที่บ้านด้วยระบบ HI (Home Isolation) แทน เพราะสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ แรงงานส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามหอพัก หากไม่นำตัวเข้าสู่ FAI ก็จะทำให้เกิดการแพร่เชื้อในหอพักและกระจายไปสู่ชุมชนหรือโรงงานอื่น ๆ ได้ ซึ่งถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงของโรงงานหรือสถานประกอบการ ที่ต้องบังคับใช้มาตรการอย่างจริงจังให้เห็นผลเป็นรูปธรรม,

4. ตลาดนัด และโรงพยาบาลเอกชน หรือสถานพยาบาลเอกชน ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ต้องสั่งปิดทันที โดยในส่วนของตลาดนัดนั้น หากพบตลาดใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม อย่างเช่น ตลาดนัดเอกชนแห่งหนึ่งริม ถ.เศรษฐกิจ ในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ให้มีคำสั่งปิดตลาดนัดอย่างสิ้นเชิงโดยไม่มีกำหนด จนกว่าผู้ดูแลตลาดนัดจะมีการนำเสนอแผนการปฏิบัติที่ชัดเจนแล้วส่งต่อให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป พร้อมกันนี้ยังได้สั่งกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ ต้องควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งอย่างเข้มข้นด้วย 

ส่วนโรงพยาบาลเอกชนหรือสถานพยาบาลเอกชนบางแห่งที่รับตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งในระบบประกันสังคมและไม่อยู่ในประกันสังคมเพียงอย่างเดียว แต่ไม่รับผู้ติดเชื้อไว้ดูแลรักษานั้น ก็สั่งการให้ทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ใช้มาตรการทางสาธารณสุข เพื่อควบคุมโรงพยาบาลเอกชนเหล่านี้ให้เป็นไปตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อฯ นอกจากนี้จากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่พบว่ามียอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้น และมียอดผู้ติดเชื้อที่มาจากจังหวัดอื่น ร้อยละ 95 นั้น ส่วนใหญ่เป็นยอดที่มาจากโรงพยาบาลเอกชน ที่รับตรวจกลุ่มผู้ประกันตน ที่ทำงานหรือพักอาศัยอยู่นอกจังหวัด แต่ใช้ประกันสังคมของโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ใน จ.สมุทรสาคร จึงทำให้แต่ละวันมียอดผู้ติดเชื้อนอกจังหวัดเข้ามารวมอยู่ด้วย ส่งผลต่อตัวเลขโดยรวมของจังหวัดสมุทรสาคร ดังนั้นจึงต้องการให้มีการแยกกลุ่มตัวเลขผู้ติดเชื้อนอกจังหวัดออกจากการรายงานผู้ติดเชื้อประจำวันของ จ.สมุทรสาคร รวมถึงการตรวจผู้ติดเชื้อนอกจังหวัดนั้น ให้โรงพยาบาลเอกชนตามประกันสังคม ลงพื้นที่ไปตรวจเชิงรุกในพื้นที่ ๆ สถานประกอบการนั้นตั้งอยู่นอก จ.สมุทรสาคร

และ 5. คือเรื่องของกล่องห่วงใย ที่ตอนนี้ดำเนินการแล้วกว่า 5,000 กล่อง เพื่อส่งต่อไปยังผู้ติดเชื้อที่ใช้วิธีการ HI นั้น นอกจากสิ่งของอุปโภค บริโภคแล้ว ในส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จัดมอบไปให้ คือเครื่องวัดประมาณออกซิเจนในเลือดปลายนิ้ว กับปรอทวัดไข้ดิจิทัล ก็ให้จัดมอบแก่ผู้ติดเชื้อไปเลย ไม่ต้องการมีเรียกเครื่องตรวจทั้ง 2 ชนิดกลับคืนมาแต่อย่างใดทั้งสิ้น เพราะวันนี้ทางจังหวัดสมุทรสาครยังคงสู้ไหว อีกทั้งยังเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความห่วงใยที่คนสมุทรสาครมีต่อผู้ติดเชื้อทุกรายอีกด้วย

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *