สมุทรสาครเริ่ม Factory Sandbox คุมโควิดในโรงงานแบบบูรณาการ “ตรวจ-รักษา-ดูแล-ควบคุม”

คิกออฟวันแรก โครงการ Factory Sandbox จังหวัดสมุทรสาคร นำร่อง 16 สถานประกอบการขนาดใหญ่ในจังหวัด แรงงานกว่า 5.3 หมื่นคน เน้น “ตรวจ-รักษา-ดูแล-ควบคุม” สร้างสมดุลระหว่างมาตรการทางสาธารณสุข-เศรษฐกิจของจังหวัดขับเคลื่อนได้

วันนี้ (23 ส.ค.) นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พร้อมด้วย นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร น.ส.ศิริลักษณ์ มณีประเสริฐ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการและผู้แทนหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน จ.สมุทรสาคร เข้าตรวจเยี่ยมโครงการ Factory Sandbox จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งถือเป็นวันแรกของการเริ่มดำเนินโครงการดังกล่าว ณ บริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด (มหาชน) ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร

โดยมี นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ นายอมรพันธุ์  อร่ามวัฒนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส และคณะผู้บริหาร บมจ.ยูนิคอร์ด ให้การต้อนรับ ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันแรกของการเริ่มดำเนินโครงการ โดยนำร่องใน 16 สถานประกอบการขนาดใหญ่ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง กระทรวงแรงงาน โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล (สมุทรสาคร) และสถานประกอบการ 16 แห่ง ที่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เมื่อ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ตามที่กระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการผู้ติดเชื้อในโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จ.สมุทรสาคร ที่มีสถานประกอบการเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศและมีผู้ใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการแนวคิดริเริ่มนำร่องของประเทศไทย จัดโครงการ Factory Sandbox ขึ้นมา มีสถานประกอบกิจการด้านการผลิตเพื่อส่งออกขนาดใหญ่ จำนวน 16 แห่ง ซึ่งมีลูกจ้างรวมกัน 53,615 คน เข้าร่วมโครงการ ซึ่งโครงการนี้นับเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยผู้ประกอบการได้เป็นอย่างมาก

โดยทางโรงงานจะต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จนกว่าจะครบทุกคน และหากใครพบเชื้อก็จะเข้าสู่กระบวนการ FAI ส่วนผู้ที่ไม่พบเชื้อหรือผลเป็นลบ แล้วยังไม่เคยฉีดวัคซีน ก็จะได้รับวัคซีนเข็มแรก จากนั้นทางโรงงานจะต้องทำการตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ เพื่อเป็นการตรวจสอบว่ามีพนักงานติดเชื้ออีกหรือไม่ โดยจะทำไปเรื่อย ๆ จนครบกำหนดตามระยะเวลาถึงประมาณเดือน ม.ค. 65 หลังจากนั้นก็จะมีการประเมินเพื่อการแก้ไข ปรับปรุง หรือขยายผลต่อไป

ขณะที่ นพ.มงคล วณิชภักดีเดชา ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ บอกว่า การตรวจหาเชื้อแรงงานทั้งคนไทยและคนต่างด้าวตามโครงการ Factory Sandbox จังหวัดสมุทรสาครนี้ จะทำการตรวจด้วยวิธี RT-PCR (Polymerase Chain Reaction) เป็นการ Swab เก็บตัวอย่างหลังโพรงจมูก ทราบผลภายใน 1 วัน ซึ่งมีพนักงานที่จะต้องเข้ารับการตรวจกว่า 50,000 คน โดยน่าจะทำการตรวจหาเชื้อแล้วเสร็จภายในกลางเดือน ต.ค. นี้ ส่วนการฉีดวัคซีนก็จะทยอยฉีดตามไปเรื่อย ๆ เบื้องต้นคาดว่า จะมีพนักงานที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกตามโครงการนี้ประมาณ 25,000 คน ส่วนที่เหลือคือ คนที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว กับผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 มาแล้ว ซึ่งยังไม่ต้องรับวัคซีนภายใน 3 เดือนแรกหลังจากพ้นการกักตัว ขณะที่วัคซีนที่โรงพยาบาลวิชัยเวชฯ ได้รับมาฉีดให้กับแรงงานในสถานประกอบการทั้ง 16 แห่งนั้น เป็นวัคซีนชนิดแอสตร้าเซนเนก้า ที่ประกันสังคมได้รับการจัดสรรมา

สำหรับโครงการแฟคทอรี่แซนด์บ็อกซ์ เป็นแนวคิดในการจัดโครงสร้างและกระบวนการในมาตรการ “เศรษฐศาสตร์สาธารณสุข” ที่มีเป้าหมายดำเนินการควบคู่กันระหว่างสาธารณสุขและเศรษฐกิจ (ตรวจ รักษา ควบคุม ดูแล) มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ภายในสถานประกอบกิจการ พร้อมทั้งสร้างสมดุลระหว่างมาตรการทางสาธารณสุขและเศรษฐกิจของจังหวัดให้สามารถขับเคลื่อนได้ ซึ่งจะเป็นแนวทางแบบอย่างให้กับสถานประกอบกิจการทั่วประเทศ ร่วมมือ ร่วมใจ ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนยังเพื่อให้การบริหารทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดเกิดประโยชน์สูงสุดและตรงกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *