อธิบดีกรมชลฯ ลงพื้นที่คลองอ้อมน้อย ตรวจสอบกำแพงกันดินทรุดตัว

อธิบดีกรมชลประทาน พร้อม ส.ส. สมุทรสาคร และนายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อย ลงพื้นที่ตรวจสอบและหาแนวทางแก้ไขปัญหากำแพงกันดินทรุด บริเวณใกล้ประตูระบายน้ำอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เบื้องต้นพบการทรุดตัว 3 จุด   

วันนี้ (6 ก.ย.) เวลา 14.00 น. นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส. สมุทรสาคร เขต 3 นายบุญชู นิลถนอม นายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อย นายสากล ชลคีรี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสมุทรสาคร นายปิยะ ลืออุติกุลวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่เพื่อสำรวจพร้อมหาแนวทางแก้ไข กรณีกำแพงกันดินริมคลองอ้อมน้อย ที่พังทรุดตัวลงมา บริเวณใกล้กับประตูระบายน้ำเทศบาลนครอ้อมน้อย (CP9) ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เบื้องต้นพบการทรุดตัว 3 จุด จุดละประมาณ 20 เมตร

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันเป็นช่วงฤดูฝน ได้รับการร้องเรียนจากพื้นที่ว่าอาคารที่ใช้ระบายน้ำเกิดการชำรุดได้รับความเสียหาย วันนี้ได้มีโอกาสดูสภาพจริงว่าเป็นอย่างไร พบว่ากำแพงกันดินหน้าประตูระบายน้ำเกิดพังถล่มลงมาประมาณ 60 เมตร ในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นต้องกำจัดจุดอ่อนก่อน เนื่องจากต้องใช้คลองอ้อมน้อยเป็นคลองหลักในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ หากเครื่องมือตรงนี้ชำรุดแล้วจะระบายน้ำลำบาก ดังนั้นเบื้องต้นแผนในระยะสั้นเร่งด่วน ต้องหาชีทไพล์ (Sheet Pile) หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้กำแพงกันดินไม่พังเพิ่มเติม ขณะเดียวกันก็ได้เรียนกับทางนายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อย ต้องมีการสำรวจและออกแบบเพื่อให้รองรับการระบายน้ำในอนาคต ตรงนี้ก็ต้องว่ากันไปอีกขั้นตอนหนึ่ง

ทางด้านนายบุญชู นิลถนอม นายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อย บอกว่า กำแพงกันดินก่อสร้างมานานกว่า 20 ปีแล้ว ประกอบกับสภาพของน้ำในคลองที่มีการปนเปื้อนของสารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้เกิดปัญหาเหล็กเสื่อมสภาพจนสึกกร่อนแตกร้าวและทรุดตัว ขณะนี้พบการทรุดตัวแล้ว 3 จุด ส่วนจุดอื่น ๆ นั้นแม้จะยังไม่ทรุดถึงขั้นพังทลายลงไปในคลอง แต่ก็มีรอยแตกร้าว หากปล่อยทิ้งไว้นานปัญหาอาจบานปลายและส่งผลกระทบต่อตัวประตูระบายน้ำ

ตนจึงได้ส่งเรื่องให้ทาง น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส. สมุทรสาคร เขต 3 ประสานไปยังอธิบดีกรมชลประทาน เพื่อให้ช่วยหาแนวทางในการซ่อมแซมระยะยาวให้กำแพงกันดินมีความมั่นคงแข็งแรง แต่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งเกินขีดความสามารถของเทศบาลนครอ้อมน้อย จึงวอนขอให้ทางรัฐบาลหรือกรมชลประทานให้การสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนชาวตำบลอ้อมน้อย เ

พราะถึงแม้เขื่อนริมคลองนี้จะไม่ได้ใช้ประโยชน์โดยตรงทางด้านการสัญจร แต่ก็ใช้ประโยชน์เพื่อการระบายน้ำทั้งจากถนน 2 สาย คือ ถ.เพชรเกษม กับ ถ.เศรษฐกิจ รวมถึงชุมชนจากด้านบนลงมาด้านล่างที่ประตูระบายน้ำ ช่วยไม่เกิดภาวะน้ำท่วมขังบนถนนและชุมชนบางแห่ง  เพราะหากสภาพเขื่อนดีมีความมั่นคงแข็งแรง การปฏิบัติงานในพื้นที่ทั้งการขุดลอกคูคลอง หรือการพร่องน้ำเพื่อเตรียมพร้อมรองรับปริมาณน้ำฝน ก็จะทำได้โดยไม่ต้องหวั่นว่าจะเกิดผลกระทบกับเขื่อนป้องกันริมตลิ่งพังแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ขณะที่ ดร.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร เขต 3 เผยว่า ตนมองว่าปัญหานี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะเป็นการทรุดตัวของแนวเขื่อนที่มากพอสมควร และอยู่ในจุดสำคัญของการบริหารจัดการน้ำ บวกกับช่วงนี้เป็นช่วงที่มีฝนตก จึงต้องเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องการระบายน้ำจากตอนบนด้วย ซึ่งตนเองก็จะช่วยในเรื่องของการประสานงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ปัญหานี้ได้รับการแก้ไข

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *