เปิด รพ.สนามทองอุไร อ้อมน้อย รองรับผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเหลือง จุดยุทธศาสตร์พื้นที่รอยต่อ 3 จว.

นอภ.กระทุ่มแบน พร้อม นพ.สสจ.สมุทรสาคร นายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อย และคณะ ร่วมเปิด “โรงพยาบาลสนามทองอุไร” โรงพยาบาลสนามสีเหลืองแห่งที่ 2 ของ จ.สมุทรสาคร ในพื้นที่จุดยุทธศาสตร์สำคัญเขตรอยต่อ 3 จังหวัด เตรียมรับผู้ป่วยเข้าดูแลวันจันทร์นี้ (13 ก.ย.) ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ใน จ.สมุทรสาคร ยอดวันนี้ลดเหลือ 506 ราย เสียชีวิต 12 ราย

วันนี้ (12 ก.ย.) นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน พร้อมด้วย นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และนายบุญชู นิลถนอม นายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อย พร้อมคณะ ได้ร่วมกันตรวจความพร้อมด้านสถานที่ระบบการวางท่อออกซิเจนและอุปกรณ์การช่วยชีวิตผู้ป่วย ระบบการดูแลผู้ป่วยทางไกล ระบบบริการทางการแพทย์/บุคลากร  ระบบการให้บริการด้านต่าง ๆ รวมถึงการจัดการขยะติดเชื้อ ของศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 17 อาคารอเนกประสงค์ เทศบาลนครอ้อมน้อย ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หรือ โรงพยาบาลสนามทองอุไร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามสีเหลือง แห่งที่ 2 ของ จ.สมุทรสาคร ขณะนี้มีความพร้อมแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ โดยจะเริ่มมีการรับผู้ติดเชื้อจากโรงพยาบาลกระทุ่มแบนเข้ามาดูแลตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป (13 ก.ย. 64)

นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า แม้วันนี้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของ จ.สมุทรสาคร จะลดลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์ น่าจะลดลงต่ำกว่า 300 ราย แต่อย่างไรก็ตาม จากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้คาดการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ในอนาคตนั้น ช่วงนี้จะเป็นช่วง 1 เดือนที่อัตราการติดเชื้อจะลดลงทั่วประเทศ แต่หลังจากนั้นเมื่อเชื้อมีการกลายพันธุ์ หรือมีมาตรการอื่น ๆที่ผ่อนคลายส่งผลให้การดำรงชีวิตประจำวันของประชาชนเป็นปกติมากขึ้น แนวโน้มการติดเชื้อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็น่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้นการมีสถานที่ไว้รองรับผู้ติดเชื้อจากในชุมชนออกมาสู่การดูแลในศูนย์พักคอยฯ หรือโรงพยาบาลสนาม เพื่อแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลหลัก  จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพราะเรายังคงต้องอยู่กับโควิด-19 ไปอย่างต่อเนื่องภายใต้แนวทางที่ว่าติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่เสียชีวิต หรือไม่เจ็บป่วยรุนแรง และลดการแพร่กระจายให้ได้มากที่สุด ดังนั้นกระบวนการที่สำคัญของการควบคุมโรคอย่างหนึ่ง คือ การเตรียมความพร้อมเรื่องของโรงพยาบาลทุกประเภท ทั้งโรงพยาบาลหลักของรัฐกับเอกชน โรงพยาบาลสนาม (ศูนย์ห่วงใยคนสาคร) โรงพยาบาลสนามสีเหลือง (ICU สนาม) ศูนย์พักคอยคนสาคร (CI) และศูนย์กักตัวผู้ติดเชื้อในสถานประกอบการ (FAI) ทุกแห่งยังคงมีความสำคัญต่อการรองรับผู้ติดเชื้อในอนาคต

นพ.นเรศฤทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับโรงพยาบาลสนามสีเหลือง (ICU สนาม) มีความจำเป็นอย่างมากต่อการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่จำเป็นต้องให้ออกซิเจน ซึ่งในส่วนของ จ.สมุทรสาคร ขณะนี้ ได้มีการจัดตั้งแล้วทั้งหมด 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลสนามปรีดียาธร หรือศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 10 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รองรับผู้ติดเชื้อ 200 ราย กับ โรงพยาบาลสนามทองอุไร หรือศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 17 อาคารอเนกประสงค์ เทศบาลนครอ้อมน้อย รองรับผู้ติดเชื้อ 200 รายเช่นกัน 

ซึ่งในส่วนโรงพยาบาลสนามทองอุไร นับเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของ จ.สมุทรสาคร เพราะตั้งอยู่ในพื้นที่พบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มากที่สุดใน อ.กระทุ่มแบน เนื่องจาก ต.อ้อมน้อย เป็นเขตรอยต่อของ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร นครปฐม และกรุงเทพมหานคร จึงมีการไหลของประชากรทำให้มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างและรวดเร็ว ดังนั้นการมีโรงพยาบาลสนามทองอุไรเกิดขึ้น ก็จะช่วยควบคุมและลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงลดอัตราการป่วยที่รุนแรงได้เป็นอย่างดี ส่วนการให้บริการทางการแพทย์นั้น ก็เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกระทุ่มแบน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ในเขตสุขภาพที่ 5 จาก 8 จังหวัด ที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาดูแลผู้ติดเชื้อ นอกจากนี้ในเรื่องของความปลอดภัยและการจัดการขยะติดเชื้อ ก็เป็นหน้าที่ของเทศบาลนครอ้อมน้อย

ส่วนการรับผู้ป่วยในเบื้องต้นจะรับเฉพาะในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน ก่อน โดยในวันจันทร์นี้จะนำผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองประมาณ 20 คน ที่อาการดีขึ้น แต่ยังคงต้องให้ออกซิเจนช่วยบ้างเพื่อการหายใจที่สะดวกเข้ามาดูแลรักษาก่อน อีกทั้งยังเป็นการทดสอบความพร้อมโดยรวมอีกรอบจากการรับผู้ติดเชื้อจริงเข้ามาดูแล  ซึ่งในภาพรวมของโรงพยาบาลสนามสีเหลือง จังหวัดสมุทรสาคร ที่มีอยู่ 2 แห่ง ก็ถือว่ายังคงเพียงพอต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และแม้จะไม่มีการแพร่ระบาดที่รุนแรงมากขึ้นไปกว่านี้ ก็ยังต้องคงระบบไว้ก่อน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในที่สุด

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จ.สมุทรสาคร จากข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อเวลา 24.00 น. วันที่ 11 ก.ย. 64 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 506 ราย จำแนกเป็นพบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 36 ราย (คนไทย 36 ราย) พบจากตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาล 302 ราย จำแนกเป็นคนในจังหวัด 246 ราย (คนไทย 202 ราย, ต่างด้าว 44 ราย) และคนนอกจังหวัด 56 ราย (คนไทย 53 ราย, ต่างด้าว 3 ราย) และพบในกลุ่ม Bubble & Sealed ในโรงงานอีก 168 ราย (คนไทย 12 ราย, ต่างด้าว 156 ราย) ด้านผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 100,785 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 83,562 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 16,480 ราย และมีผู้เสียชีวิต 12 ราย สะสมอยู่ที่ 743 ราย

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *