สถานการณ์โควิด-19 จ.สมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 387 ราย สะสม 102,858 ราย เสียชีวิต 3 ราย ทางด้านผู้ว่าฯ วีระศักดิ์ ปฏิบัติหน้าที่วันสุดท้าย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ก่อนย้ายไปอ่างทอง เปิดใจเป็นห่วงชาวสมุทรสาคร ขอให้ระมัดระวังป้องกันตัวเอง อย่าประมาท ร่วมมือร่วมใจแก้ปัญหา เราจะผ่านไปด้วยกัน
วันนี้ (17 ก.ย.) สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จ.สมุทรสาคร พบจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวันลดลงอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อเวลา 24.00 น. วันที่ 16 ก.ย. 64 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 387 ราย จำแนกเป็นพบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุก 30 ราย (คนไทย 29 ราย, ต่างด้าว 1 ราย) พบจากตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาล 322 ราย จำแนกเป็นคนในจังหวัด 277 ราย (คนไทย 226 ราย, ต่างด้าว 51 ราย) และคนนอกจังหวัด 45 ราย (คนไทย 39 ราย, ต่างด้าว 6 ราย) และพบในกลุ่ม Bubble & Sealed ในโรงงานอีก 35 ราย (คนไทย 5 ราย, ต่างด้าว 30 ราย) ด้านผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 102,858 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 92,853 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 9,236 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย สะสมอยู่ที่ 769 ราย
ขณะที่นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร มีกำหนดปฏิบัติหน้าที่ใน จ.สมุทรสาคร เป็นวันสุดท้าย ในการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ณ ห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ (401) ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร จากนั้นจะส่งมอบงานไว้ให้กับนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ที่จะเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครคนใหม่ ตามที่ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 64 แต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการ 3 จังหวัด จึงมีผลให้นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ได้พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 64 เป็นต้นไป
นายวีระศักดิ์ เปิดใจว่า เรื่องของสถานการณ์โควิด-19 ที่คนสมุทรสาครยังคงต้องร่วมกันต่อสู้ต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ โดยส่วนตัวในใจลึก ๆ แล้ว ยังคงเป็นห่วงชาวสมุทรสาคร เพราะยังมีอีกหลายจุดที่อาจจะทำให้เกิดโรคระบาดขึ้นมาอีก อย่างไรก็ขอให้ชาวสมุทรสาครระมัดระวังป้องกันตนเองให้ดี อย่าประมาท เพราะเมื่อก่อนสมุทรสาครมีตัวเลขผู้ติดเชื้อแค่หลักสิบ ก็พุ่งมาถึงหลักร้อยหลักพัน ซึ่งตอนนี้ก็เช่นกัน แม้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่หากเราประมาท การระบาดก็อาจกลับมาอีกได้
ซึ่งการทำงานทุกที่ก็ต้องเหนื่อย แต่ที่ผ่านมานั้นเรียกได้ว่าเกินคำว่าเหนื่อย แต่ทุกคนก็ได้ร่วมกันสู้จนทุกวันนี้สถานการณ์มันดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดนั้นก็มาจากความร่วมมือของทุกคนที่ได้ช่วยกัน จึงขอขอบคุณไปยังชาวสมุทรสาครทุกคนที่ได้ช่วยกันฝ่าฝันร่วมกันมาตลอด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะโควิด-19 ทำให้การทำงานต้องทำแต่เรื่องนี้ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะทำ แต่ยังไม่ได้ได้ทำ เช่น เรื่องของศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ หรือ อะควาเรียมสมุทรสาคร ที่อยากให้มันเดินหน้าและเปิดบริการให้ไวแบบไม่ติดขัดปัญหาอะไร เรื่องแรงงานต่างด้าวที่เป็นปัญหาใหญ่มาก ซึ่งตนเองเคยวางแผนที่อยากจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว อยากจัดโซนนิ่งให้มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง แต่มาเจอโควิด-19 ทำให้การแก้ปัญหาในเรื่องนี้มาเจอข้อจำกัดหลายอย่าง ส่วนการทำ FAI ในสถานประกอบการนั้นเป็นเหมือนบันไดขั้นแรก ในการจัดระเบียบสถานประกอบการ จัดระเบียบแรงงานต่างด้าว และการดำเนินชีวิตที่เราต้องอยู่ร่วมกับโควิด-19 ให้ได้ ซึ่งต่อไปก็จะไม่มีการสั่งปิดกิจการอะไรอีกแล้ว แต่อยู่ที่ว่าตอนนี้เราจะทำอย่างไรให้สถานการณ์คืนกลับมาให้เกือบปกติเร็วที่สุด
นายวีระศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยู่ที่ไหนก็เหมือนกับบ้านเรา ได้มาอยู่สมุทรสาครก็ได้เห็นความน่ารักของคนสมุทรสาคร ที่ได้ร่วมด้วยช่วยกันในหลายเรื่อง และเป็นกำลังให้ท่านมาโดยตลอด ซึ่งหากมีโอกาสก็จะแวะเวียนกลับมาหาคนสมุทรสาครอย่างแน่นอน และสิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากไว้ในใจพี่น้องชาวสมุทรสาครทุกคนคือ ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใด รุนแรงมากน้อยแค่ไหน ถ้าพวกเราทุกคนร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหา ฝ่าฝันวิกฤติไปด้วยกัน สู้ๆ เราจะผ่านไปด้วยกัน
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ