หนุ่มขับกระบะหันไปหยิบกระเป๋าเงิน รถพุ่งเสยคันหน้าชิ่งทะลุร้านข้าวแกง ลูกค้านั่งโต๊ะซวยถูกชน เจ็บ 2 ราย

เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนกัน 3 คันรวด บน ถ.พระราม 2 ย่านบางกระเจ้า สมุทรสาคร ทำให้รถคันหน้าสุดกำลังเลี้ยวเข้าร้านข้าวแกงพุ่งเข้าไปด้านใน มีลูกค้าในร้านบาดเจ็บสาหัส 1 เจ็บเล็กน้อย 1 สาเหตุเกิดจากกระบะคันท้าย คนขับหันไปหยิบกระเป๋าเงินที่เบาะข้าง แล้วไม่ทันมองจึงเกิดเหตุดังกล่าว

เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 21 ต.ค. 64 ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งเข้าไปในร้านขายข้าวแกง ริม ถ.พระราม 2 ฝั่งขาออกกรุงเทพฯ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงแจ้งให้ ร.ต.อ.หญิง ณัชชารีย์ นกรเกียรติวิศาล รอง สว.สส.สภ.เมืองสมุทรสาคร ไปตรวจสอบ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพจากโรงพยาบาลวิภารามรับผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายข้าวแกงชื่อ ครัวสามพี่น้อง กม.35 เลขที่ 4/6 หมู่ 3 ต.บางกระเจ้า อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ภายในร้านพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 6 กด 5242 กรุงเทพฯ ลักษณะพุ่งชนจากหน้าร้านเข้าไปอยู่ด้านในสุด สภาพรถมีร่องรอยของการถูกชนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ส่วนสภาพภายในร้านข้าวของกระจัดกระจายเต็มพื้น และมีรอยเลือดกองอยู่ที่พื้น มีผู้บาดเจ็บ 2 คน ยังไม่ทราบชื่อ เป็นลูกค้าผู้ชายที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ภายในร้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯ ได้รีบนำส่งเข้ารับการรักษาตัว เนื่องจากผู้บาดเจ็บ 1 คนมีอาการค่อนข้างสาหัส ส่วนอีกคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะที่เจ้าของร้านและลูกจ้างของร้านก็ยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ด้านนอกพบรถยนต์กระบะอีก 1 คัน จอดอยู่ริมถนนหน้าร้าน ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ทะเบียน 7 กต 4232 กรุงเทพฯ สภาพหน้ารถพังยับ กันชนแตกหลุดออกมา และอีกคันจอดอยู่หน้าปั๊มแก๊ส ห่างจากที่เกิดเหตุเล็กน้อย เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 2 ฒฬ 5711 กรุงเทพฯ สภาพมีการชนทั้งด้านหน้าและด้านหลังจนพังยับเช่นเดียวกัน

จากการสอบปากคำนายนพพล สุขกำเนิด อายุ 38 ปี เจ้าของรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ซึ่งเป็นคันต้นเหตุ บอกว่า ตนยอมรับว่าเป็นคนผิดจริง โดยช่วงที่ขับรถมาตามถนนเส้นคู่ขนาน เพื่อมุ่งหน้าจะไปช่วยลากรถให้เพื่อนที่ จ.สมุทรสงคราม เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนได้หันไปหยิบกระเป๋าเงินที่วางอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับ ปรากฏว่าพอหันหน้ากลับมามองถนนอีกครั้ง รถของตนก็พุ่งเข้าหาท้ายรถยนต์กระบะที่จอดชะลอให้รถคันหน้าสุดเลี้ยวเข้าร้านอาหารริมทาง ซึ่งตนได้พยายามเบรกแล้วแต่เบรกไม่ทัน จึงพุ่งชนท้ายรถคันหน้ารถตน แล้วรถคันที่ตนพุ่งชนท้ายนั้นก็พุ่งไปชนรถกระบะคันหน้าสุดที่กำลังจะเลี้ยวเข้าร้านขายอาหาร ทำให้รถคันหน้าสุดพุ่งเข้าไปในร้านขายอาหารอย่างแรง แล้วก็ไปเฉี่ยวชนคนที่กำลังนั่งรับประทานอาหารในร้านได้รับบาดเจ็บดังกล่าว 

ขณะที่นายพนม สุขษาเกษ อายุ 48 ปี คนขับรถยนต์กระบะโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ที่ถูกชนท้ายเล่าว่า ตนเองจอดชะลอรถเพื่อให้รถคันหน้าเลี้ยวเข้าร้านขายอาหารริมทาง แต่จู่ ๆ ก็มีรถยนต์กระบะคันที่ขับตามมาข้างหลังพุ่งชนจนรถของตนไปชนกับท้ายรถคันหน้าสุด แล้วรถคันนั้นก็พุ่งเหินเข้าไปในร้านขายอาหารอย่างแรงและรวดเร็ว ส่วนลูกจ้างในร้านเล่าว่า ตนเองเห็นรถยนต์กระบะพุ่งเข้ามาในร้าน รู้สึกตกใจกลัวเป็นอย่างมาก โดยรถได้ชนลูกค้าที่นั่งอาหารอยู่ด้วย ตนกับคนในร้านทำอะไรไม่ถูก รู้สึกสั่นกลัวไปหมด ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย ส่วนสาเหตุมาจากรถยนต์กระบะคันหลังสุด พุ่งชนท้ายรถยนต์กระบะคันกลาง แล้วรถยนต์กระบะคันกลางก็พุ่งชนรถยนต์กระบะคันหน้าสุด จนพุ่งเหินเข้ามาในร้านชนลูกค้าที่นั่งทานอาหารได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับข้าวของในร้านแตกกระจายหลายอย่าง

ด้านผู้บาดเจ็บที่เป็นลูกค้าในร้านนั้น ทางผู้สื่อข่าวได้พยายามพูดคุยสอบถามอาการเบื้องต้น แต่ปรากฏว่ายังอยู่ในอาการมึนงง พอเล่าแบบจับใจความได้ว่า ตนเองนั่งหันหลังให้ถนน กำลังกินข้าวอยู่ ยังกินไปไม่ได้กี่คำ แล้วก็ไม่รู้รถมาจากไหน พุ่งชนเข้ามาเลย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้คนขับรถยนต์กระบะทั้ง 3 คัน ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร และจะได้ทำการสอบปากคำผู้บาดเจ็บ กับ เจ้าของร้านและลูกจ้างภายในร้านขายอาหารครัวสามพี่น้อง รวมถึงพยานผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *