“บิ๊กเด่น” ลงพื้นที่สมุทรสาคร นำทีมตรวจห้องเย็น 11 เป้าหมาย กวาดล้างกักตุนเนื้อหมู

รอง ผบ.ตร. นำทีมตรวจสอบห้องเย็น 11 เป้าหมายใน จ.สมุทรสาคร ที่มีการกักตุนเนื้อสุกร จากห้องเย็น 25 แห่งในจังหวัดปริมณฑล ย้ำหากไม่แจ้งจำนวนสต็อก-แจ้งจำนวนไม่ตรง มีความผิดตามกฎหมาย

วันนี้ (21 ม.ค.) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7, นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร, พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค, นายอาวุธ วิเชียรฉาย ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร, นายชนินทร์ ทิพปภาสมิทธิ์ ปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสาคร, น.ส.สรณา บุญกำเนิด ผู้แทนสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร และคณะ เข้าตรวจสอบห้องเย็นที่มีพฤติกรรมกักตุนเนื้อสุกรพร้อมกัน 11 เป้าหมาย ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความกังวลกรณีเนื้อหมูมีราคาสูงขึ้น สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสืบสวน ปราบปราม สืบเนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีการนำเนื้อสุกรเข้ามากักตุนในห้องเย็นเป็นจำนวนมาก เป็นสาเหตุให้เนื้อสุกรมีราคาแพง วันนี้จึงได้มีการบูรณาการกำลังกันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพร้อมกัน 25 จุด โดยใน จ.สมุทรสาครมีการตรวจสอบทั้งสิ้น 11 จุด

จากการสืบสวน ทราบว่า มี 25 บริษัทในจังหวัดปริมณฑล เช่น สมุทรสาคร ที่ประกอบธุรกิจห้องเย็น อาจเข้าข่ายมีความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในเรื่องการกักตุนเนื้อสุกรเกิน 5,000 กก. โดยไม่แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ พบว่าบางบริษัทมีจำนวนเนื้อสุกรเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยบางรายอ้างว่าอยู่ระหว่างดำเนินการแจ้ง เนื่องจากเพิ่งได้ทราบระเบียบ ซึ่งจะต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจนต่อไป หากพบว่าไม่ได้มีการแจ้ง ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 หรือหากมีการแจ้งการครอบครองไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่เร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด เพื่อตรวจสอบบริษัทห้องเย็นเหล่านี้ หากพบว่ายังมีพฤติกรรมกักตุนเนื้อสุกร จนเป็นเหตุให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โดยจะมีผู้แทนจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ร้องทุกข์ และในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ก็จะมีการบูรณาการกำลังเข้าตรวจสอบเป้าหมายที่เหลืออยู่ต่อไป

ทางด้านนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ขณะนี้มี 4 บริษัทห้องเย็นที่มาแจ้งการครอบครองซากสุกรเกิน 5,000 กก. แล้ว และยังมีอีกหลายบริษัทที่อยู่ระหว่างดำเนินการแจ้ง โดยอ้างว่าเพิ่งได้รับหนังสือประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคากลางสินค้าและบริการ ฉบับที่ 1 เรื่อง แบบแจ้งตามประกาศคณะกรรมการกลางฯ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา

ขณะที่นายณัฐวุฒิ หุ่นมีทอง นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ผู้ครอบครองสุกรมีชีวิตตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองสุกรชำแหละผ่าซีก เนื้อสุกรชำแหละ มีปริมาณตั้งแต่ 5,000 กก. ขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณการเลี้ยง การซื้อ การจำหน่าย มิฉะนั้นจะมีความผิดตามมาตรา 25 (3), (5) พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ​ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *