ลุ้นระทึกศาลวินิจฉัย ใบเหลือง “ปลัดแต” ปมแชตไลน์อดีตเลขาฯ

สะพัด กกต.เผยคำวินิจฉัยยื่นศาลอุทธรณ์ แจกใบเหลือง “ปลัดแต” นายก อบจ.สมุทรสาคร พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง “เลขาฯ เจ๋ง” 5 ปี เหตุมาจากโพสต์แชตไลน์ฝากเด็กเข้าโรงเรียน จูงใจให้ลงคะแนน ด้านอดีต กกต. มองเรื่องเล็กเกิน แถมคนต้นเรื่องอยู่คนละทีมช่วงเลือกตั้ง แนะให้สู้ในชั้นศาล ส่วน “ปลัดแต” ไม่ท้อ พร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์

วันนี้ (15 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ 1274/2564 โดยมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาคเพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสาครใหม่ แทนนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ และสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ นายสุรวัช เรืองศรี ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.กระทุ่มแบน เขตเลือกตั้งที่ 5 ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง รวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุรวัชตามมาตรา 65 (1) ประกอบมาตรา 126

• โพสต์แชตไลน์ขอบคุณ “ฝากเด็กเข้าโรงเรียน” เป็นเหตุ

สำหรับคำวินิจฉัย กกต. บางช่วงบางตอนระบุว่า ประมาณเดือน ต.ค.- พ.ย. 63 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้โทรศัพท์ติดต่อโรงเรียนแห่งหนึ่งเพื่อย้ายนักเรียนซึ่งเป็นหลานสาวเข้าเรียน ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวแนะนำว่านักเรียนต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านในเขตเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวจึงได้ติดต่อนายสุรวัช ได้รับคำแนะนำว่าให้ไปพบกับบิดาของตน ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน หลังจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวได้พบกับบิดาของนายสุรวัชแล้ว ก็ได้ไปติดต่อที่สำนักทะเบียน ดำเนินการย้ายชื่อนักเรียนคนดังกล่าวเข้าบ้านเลขที่ของโรงเรียน และสมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนดังกล่าว

จากนั้นผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวได้ส่งข้อความขอบคุณนายสุรวัช ทางแอปพลิเคชันไลน์ที่นายสุรวัชและบิดาของนายสุรวัชช่วยเหลือให้หลานสาวได้เข้าโรงเรียนตามที่ประสงค์ โดยปรากฏภาพการสนทนาที่นายสุรวัชได้นำไปโพสต์ในบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “สุรวัช เรืองศรี” เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2563 ประกอบกับจากการตรวจสอบใบแจ้งการย้ายที่อยู่ ปรากฏว่า ในช่องลงชื่อเจ้าบ้านยินยอมให้ย้ายเข้ามีการพิมพ์ชื่อของเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกระทุ่มแบนเป็นผู้ได้รับมอบหมาย ซึ่งน่าเชื่อว่า บิดาของนายสุรวัชได้ดำเนินการช่วยเหลือย้ายชื่อของนักเรียนคนดังกล่าวเข้าทะเบียนบ้านของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เพื่อให้นักเรียนคนดังกล่าวมีหลักเกณฑ์ที่สามารถเข้าเรียนได้

เห็นว่าการที่นายสุรวัช โพสต์บทสนทนาระหว่างตนกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวในบัญชีเฟซบุ๊กของตนว่าได้ช่วยฝากหลานของผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวเข้าโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว และขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนดังกล่าวลงคะแนนให้แก่นายอุดม การกระทำของนายสุรวัช มีลักษณะเป็นการแสวงหาคะแนนนิยมจากประชาชนหรือสมาชิกในกลุ่มเฟซบุ๊กที่พบเห็นให้ลงคะแนนให้แก่นายอุดม อันเข้าลักษณะเป็นการจัดทำ ให้ เสนอให้สัญญา ว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายอุดม อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65(1) โดยนายอุดมย่อมได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้งจากการกระทำของนายสุรวัช เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสาคร ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายอุดมเกิดจากการเลือกตั้งที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนายสุรวัช เรืองศรี หรือ เจ๋ง อายุ 40 ปี เป็นหนึ่งใน 5 ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.อบจ.สมุทรสาคร อ.กระทุ่มแบน เขต 5 ในนามผู้สมัครอิสระ ขณะที่ทีมฅนทำงาน ซึ่งมีนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ เป็นหัวหน้ากลุ่ม ได้ส่งนายพหล ขำทอง ลงรับสมัครเลือกตั้ง โดยผลการเลือกตั้งเมื่อ 21 ธ.ค. 63 ปรากฏว่านายพหล ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียง 3,257 คะแนน ขณะที่นายสุรวัช ได้คะแนนเสียงเป็นลำดับสุดท้าย 96 คะแนน ต่อมาหลังจากนายอุดม ได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.สมุทรสาคร แล้ว เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 64 ก็ได้มีการแต่งตั้งนายสุรวัช ให้เป็นเลขานุการนายก อบจ.สมุทรสาคร กระทั่งวันที่ 14 ม.ค. 65 นายสุรวัช ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว   

• อดีต กกต. ข้องใจคำวินิจฉัย แนะให้สู้ในชั้นศาล

ทางด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการเลือกตั้ง มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารจัดการเลือกตั้ง ได้แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กเพจส่วนตัว ภายหลัง กกต. แจกใบเหลือง นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร ระบุว่า “เห็นเอกสารของ กกต. ประเด็นแจกใบเหลือง นายก อบจ.สมุทรสาคร เมื่ออ่านรายละเอียดของการกระทำความผิดแล้ว ผมว่า มันเรื่องเล็กเกิน

1. กกต.หยิบเอาเรื่อง ฝากเด็กเข้าโรงเรียน ของผู้สมัคร สจ. คนหนึ่งมาเป็นเหตุให้ใบเหลือง, 2. ผู้สมัคร สจ. คนดังกล่าว เป็นผู้สมัครอิสระ หมายเลข 5  ไม่ใช่ผู้สมัครในทีมเดียวกับ นายก อบจ. ที่เป็นหมายเลข 3, 3. กกต.จังหวัดสมุทรสาคร พิจารณาเรื่องนี้ แล้วยกคำร้องว่า ไม่เป็นเหตุให้ใบเหลือง, 4. ก่อนหน้าการให้ใบเหลือง โดย กกต.กลาง ทราบว่า มีบุคคลปริศนาติดต่อกับทางฝ่ายนายก อบจ. กล่าวทำนองว่า จะมีการตัดสินให้ใบแดง  และสอบถามว่า อยากให้ช่วยเหลืออะไรไหม ซึ่งฝ่ายนายก อบจ. ได้ตอบปฏิเสธไป,

5. ดูคะแนนของ นายกอุดม ที่ได้คือ 131,537 คะแนน ทิ้งจากที่สอง ที่ได้เพียง 26,463 คะแนน การฝากเด็ก 1 คน ให้เข้าเรียนจากผู้สมัครคนละทีม ไม่น่าจะเป็นสาเหตุที่เหมาะสมของการให้ใบเหลือง, 6. ยิ่งทราบว่า ครอบครัวที่เด็กได้เข้าเรียน ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วย ยิ่งหมายความว่า การขอให้ช่วยเลือกเบอร์ 3 ไม่มีผลอะไรต่อการเลือกตั้งเลย, 7. การให้ใบเหลือง คือ การต้องเลือกตั้งใหม่ทั้งจังหวัด ซึ่งต้องใช้เงินนับสิบล้านบาทในการจัดการเลือกตั้ง, 8. วินิจฉัย กกต. คือ วินิจฉัยที่ต้องไปผ่านการตัดสินโดยศาลอุทธรณ์ภาค อีกรอบ ผมเชียร์ให้สู้ในขั้นศาลครับ และให้ กกต. กลาง ช่วยดูคนในสำนักงานด้วย ว่ามีใครไปเรียกร้องประโยชน์จากผู้ถูกร้องในคดีนี้”

• ปลัดแตลั่นไม่ท้อ พร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์

หลังจากที่มีกระแสข่าวคำวินิจฉัยของ กกต. ที่มีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาคเพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรสาครใหม่นั้น ทางด้านนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ หรือ ปลัดแต นายก อบจ.สมุทรสาคร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ขอบคุณทุกกำลังใจ ผมไม่ท้อครับ ผมพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ 131,537 คะแนนที่ชาวสมุทรสาครมอบให้ผมครับ” โดยมีผู้สนับสนุนนายอุดมเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจ ขณะที่ นายอภิชาต โพธิ์ถนอม รองนายก อบจ.สมุทรสาคร โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า “ไม่มีคำว่าท้อ แม้มันจะเจ็บปวด และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เดินหน้าทำงานลูกเดียว #ฅนทำงาน” ก็มีผู้สนับสนุนเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจเช่นกัน

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ