รอง ผบ.ตร. พร้อมผู้การภาค 7 ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีลอบยิงเลขานายก อบต.หนองนกไข่ เผยตั้งปมสังหารไว้ 3 ประเด็น ส่วนตัว-ธุรกิจ-การเมือง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 พ.ค. 65 ที่สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 และคณะ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าในคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ลอบยิงนายณรงค์ฤทธิ์ เกตุแก้ว อายุ 58 ปี เลขานุการนายก อบต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ขณะนั่งพักผ่อนบริเวณหน้าบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา
โดย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะ ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.เสรีฐกาญจน์ จันทร์ด้วง ผกก.สภ.กระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.7 สืบสวน ภ.จว.สมุทรสาคร และสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน ตลอดจนเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กับ ฝ่ายปกครองอำเภอกระทุ่มแบน โดยใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงในการประชุมเพื่อรับทราบความคืบหน้าในคดี และสั่งการชุดปฏิบัติการให้เร่งรัดติดตามตัวคนร้ายรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายนั้น พอจะมีข้อมูลเบื้องต้นว่าคนร้ายน่าจะใช้อาวุธปืนขนาดใด และกำลังหาทิศทางที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้บาดเจ็บ ซึ่งก็พอจะได้ข้อมูลมาบ้างแล้ว แต่รายละเอียดยังอยู่ในสำนวนขอให้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับปมลอบยิงผู้บาดเจ็บนั้น ได้ตั้งไว้ทั้งหมด 3 ประเด็นด้วยกันคือ ปมขัดแย้งส่วนตัว ปมขัดแย้งธุรกิจ และปมขัดแย้งทางการเมือง ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติงานเร่งหามูลเหตุของทั้ง 3 ประเด็นที่ตั้งไว้ว่าเกิดจากอะไร เพราะถ้าทราบถึงมูลเหตุที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ก็จะทำให้มุ่งน้ำหนักไปที่ปมปัญหาดังกล่าว นำไปสู่การตีกรอบหากลุ่มของผู้ที่มีความขัดแย้งในเรื่องนั้น ๆ กับผู้บาดเจ็บ
ส่วนในเรื่องของสืบสวนจากจุดที่เกิดเหตุก็ได้สั่งการให้มีการดำเนินการต่อ แต่ในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ทั้งหมด เพราะยังอยู่ระหว่างการสืบสวน อีกทั้งยังต้องรอหลักฐานจากทางการแพทย์ในเรื่องวิถีกระสุนและหัวกระสุน อีกทั้งผู้บาดเจ็บยังคงอยู่ในอาการสาหัสไม่สามารถให้การใดๆ ได้ในขณะนี้
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดที่คนร้ายลอบยิงผู้บาดเจ็บนั้น ยังไม่พบรถต้องสงสัย ซึ่งอาจจะมีแนวโน้มได้ว่าคนร้ายอาจจะไม่ได้ใช้รถเข้ามาในเส้นทางที่เกิดเหตุ ซึ่งก็เป็นประเด็นหนึ่งที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนให้เป็นที่ชัดเจน แต่จากหลักฐานของกล้องวงจรปิด ตลอดเส้นทางที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ทาง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องตรวจสอบกล้องอย่างละเอียด ควบคู่กับการหาหลักฐานอื่น ๆ ทั้งในจุดที่เกิดเหตุและจุดที่คาดว่าจะใช้เป็นจุดซุ่มยิงเพิ่มเติม ทั้งนี้ ขอให้ความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ทำงานสักระยะหนึ่ง เพราะมูลเหตุที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นค่อนข้างที่จะกว้างอยู่พอสมควร จึงต้องใช้เวลาในการเก็บหลักฐานให้ชัดเจนมากที่สุด
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ