สมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่พบประชาชน จ.สมุทรสาคร รับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชน นำไปสู่การดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภา อาทิ การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน การจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ โครงการส่งเสริมพลังงานทดแทน สถานการณ์โควิด-19 ฯลฯ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 พ.ค. 65 ที่ห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ (401) ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร คณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง นำโดย นายวิทยา ผิวผ่อง รองประธานกรรมการ คนที่หนึ่ง พร้อมด้วยคณะสมาชิกวุฒิสภา รวม 11 ราย ลงพื้นที่พบส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนชุมชน และประชาชนในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับภารกิจของวุฒิสภา ตลอดจนนำเสนอกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี หรือประเด็นที่น่าสนใจ
โดยมีนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นำหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูลในประเด็นต่าง ๆ อาทิ โครงการจัดการปัญหาที่ดินทำกินให้ชุมชน ภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) พื้นที่เป้าหมายป่าชายเลน จ.สมุทรสาคร ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้นำที่ดินพื้นที่ป่าชายเลนเข้าร่วมโครงการ อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แบ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายในปี 61 ชุมชนบ้านหัวโพรง หมู่ 5 ต.บางหญ้าแพรก จำนวน 5 ครัวเรือน เนื้อที่ 2 งาน 7.20 ตารางวา ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และในปี 62 จำนวน 6 ชุมชน 4 ตำบล ได้แก่กาหลง นาโคก บางกระเจ้า และบ้านบ่อ รวมพื้นที่ 108 ไร่ ซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการ,
โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณสองฟากถนนโครงการ สาย ง13 ผังเมืองรวมเมืองสมุทรสาคร พื้นที่โครงการ 118 ไร่เศษ ขณะนี้ถนนก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยมีสาธารณูปโภค ระบบระบายน้ำ พร้อมทางจักรยาน และเครื่องกั้นรถไฟอัตโนมัติ มีการทำพิธีเปิดใช้ถนนไปแล้วเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 64 รวมถึงการจำหน่ายที่ดินแปลงจัดหาประโยชน์ 1 แปลง เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ซึ่งมีการซื้อขายในราคา 19.6 ล้านบาทเศษ เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาสาธารณูปโภค และบริหารจัดการภายในโครงการ สำหรับโครงการจัดรูปที่ดินฯ มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นหลัก เป็นการเพิ่มมูลค่าที่ดิน แก้ปัญหาที่ดินตาบอด และเสริมสร้างระบบคมนาคมและขนส่งให้มีประสิทธิภาพ,
โครงการส่งเสริมพลังงานทดแทนในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ภายใต้กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ปี 65 โดยมีโครงการที่ขอรับการสนับสนุนทั้งสิ้น 6 โครงการ จาก 16 กลุ่มวิสาหกิจชุมชน, กลุ่มสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกร ผ่าน 6 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต.กาหลง, อบต.โคกขาม, อบต.บ้านบ่อ, อบต.บางยาง, อบต.หนองนกไข่ และ อบต.หลักสอง) รวมงบประมาณทั้งสิ้น 1,886,200 บาท,
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ล่าสุดมีแนวโน้มลดลง ขณะเดียวกันผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย ส่วนผู้มีอาการขั้นรุนแรง (กลุ่มสีแดง) มีประมาณ 1.03 เปอร์เซ็นต์ และได้ยุบโรงพยาบาลสนามเหลือเพียง 2 แห่ง ปิดชั่วคราว 1 แห่ง และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองแสมดำ คลองสหกรณ์สาย 3 พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณวัดวิสุทธิวราวาส (วัดกลางคลอง) ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ความยาว 400 เมตร งบประมาณ 19 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นโครงการตามแผนพัฒนาจังหวัดสมุทรสาคร ปี 65 เชื่อมต่อแหล่งเรือโบราณพนมสุรินทร์
นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้มีรับฟังประเด็นปัญหาจากภาคประชาชน อาทิ ปัญหาการจราจรบริเวณสะพานวัดเจษฯ, การปรับปรุงรถไฟสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่, ปัญหาผักตบชวาและสวะในแม่น้ำท่าจีน, ปัญหาการจัดการขยะมูลฝอย, ปัญหาน้ำทะเลหนุนสูง, การติดตามโครงการเมกะโปรเจกต์เชื่อม 3 จังหวัด, ปัญหาราคาเกลือสมุทรตกต่ำ, การยกระดับมาตรฐานเกลือทะเลไทย, การแก้ปัญหาประมงพื้นบ้าน และปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เป็นต้น รวมทั้งมอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ สมุทรสาคร
ส่วนในช่วงบ่าย คณะสมาชิกวุฒิสภา ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ บริเวณสองฟากถนนโครงการ สาย ง13 ผังเมืองรวมเมืองสมุทรสาคร ต.โคกขาม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เพื่อเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3242 (ถนนเอกชัย) กับถนนเดิมบาง ให้เชื่อมต่ออย่างเป็นระบบตามผังโครงการคมนาคมและขนส่ง ที่จะช่วยบรรเทาการจราจรจากถนนสายหลักคือ ถนนเศรษฐกิจ 1 เพื่อให้ชาวสมุทรสาครเดินทางสัญจรสะดวก ประหยัดเวลา สร้างชุมชนให้เกิดความน่าอยู่ พัฒนาพื้นที่ พัฒนาเมือง พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล สมาชิกวุฒิสภา ได้นำเสนอให้มีการสร้างสะพานข้ามคลองมหาชัยแห่งใหม่เพิ่มเติม เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรช่วงบริเวณสะพานวัดเจษฯ และยังสามารถเชื่อมต่อถนนสาย ง18 และ ง16 ไปยังถนนสหกรณ์ในอนาคตได้อีกด้วย
สำหรับโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประกอบการติดตาม เสนอแนะและเร่งรัดการปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งการพิจารณากลั่นกรองกฎหมาย ประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พัฒนากฎหมายให้สอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่ และสะท้อนข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะไปสู่การแก้ไขด้วยกลไกของวุฒิสภา
ทั้งนี้ คณะสมาชิกวุฒิสภาที่ร่วมลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ประกอบด้วย นายวิทยา ผิวผ่อง, นายลักษณ์ วจนานวัช, พล.อ.ดนัย มีชูเวท, นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล, นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร, น.ส.เรณู ตังคจิวางกูร, นางสุนี จึงวิโรจน์, นายประดิษฐ์ เหลืองอร่าม, นายปัญญา งานเลิศ, พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ และนายไพโรจน์ พ่วงทอง
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง