รอง ผอ.สพม.สคสส. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในสมุทรสาคร กรณีรุ่นน้อง ม.5 ถูกรุ่นพี่ ม.6 พังประตูห้องน้ำ หมายจะทำมิดีมิร้าย หน.ครูระดับชั้น ม.6 ชี้แจงดำเนินการลงโทษตามขั้นตอน ด้านแม่นักเรียนหญิงเดือด เข้าแจ้งความรุ่นพี่ ม.6 ส่งแชทหาลูกสาวจนผวา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ก.พ. 2567 นายพรนิวัติ สนั่นเอื้อ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สมุทรสาคร สมุทรสงคราม หรือ สพม.สคสส. พร้อมคณะ ลงพื้นที่โรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีนักเรียนหญิงชั้น ม.5 ถูกรุ่นพี่ชั้น ม.6 คุกคามทางเพศในห้องน้ำหญิงของสถานศึกษา โดยรุ่นพี่เข้ามาถีบประตูห้องน้ำเพื่อเข้าหาเหยื่อ เคราะห์ดีที่ครูฝึกสอนมาช่วยไว้ทัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 17.30 น. ของวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา และมีผู้นำเรื่องราวดังกล่าวโพสต์ลงในเฟซบุ๊กในอีก 3 วันต่อมา (22 ก.พ.) จนกลายเป็นประเด็นร้อนดังกล่าว โดยมีคณะผู้บริหารและคณะครูของทางโรงเรียนฯ ผู้เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูล
โดยนายธงชัย หัวหน้าครูระดับชั้น ม.6 ชี้แจงว่า รุ่นพี่ผู้ก่อเหตุ คือ นายโอ (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.6/10 จะมีพฤติกรรมที่ชอบไปอยู่กับกลุ่มที่มีนักเรียนผู้หญิง หรือกลุ่มที่แต่งชุดคอสเพลย์ โดยนายโอ จะมีพฤติกรรมไปแตะเนื้อต้องตัวนักเรียนของกลุ่มดังกล่าว จึงทำให้ถูกห้ามไม่ให้เข้ากลุ่ม เหตุการณ์แรกเกิดกับ น.ส.เอ (นามสมมติ) นักเรียนหญิงชั้น ม.5/7 กล่าวหาว่านายโอกระทำการลวนลาม แต่ก็มีเพียงแค่คำพูดของ น.ส.เอ ที่เป็นหลักฐาน และมีกลุ่มเพื่อนที่ช่วยให้ปากคำเท่านั้น แต่ไม่มีหลักฐานอื่นใด โดยทางโรงเรียนก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการลงโทษนักเรียน ได้แก่ ตักเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดแต้มคะแนนความประพฤติ และเข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 เกิดกับ น.ส.เค (นามสมมติ) นักเรียนหญิงชั้น ม.5/12 เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (16 ก.พ.) เริ่มจาก น.ส.เค และนายโอ เจอกันโดยมิได้นัดหมายที่ห้องศิลปะโรงเรียน ซึ่งนายโอแจ้งว่าเข้าไปเพื่อพรินต์งาน ส่วน น.ส.เค แจ้งว่าเข้าไปเพื่อทำงาน พอครูนักศึกษาฝึกสอนเข้าไปพบว่าทั้งสองคนอยู่ด้วยกันจึงตักเตือนว่าไม่ควรอยู่ด้วยกันแบบนี้ แล้วก็แยกย้ายทั้งสองออกจากกัน ต่อมาในไอจีของ น.ส.เค ปรากฏว่ามีแชทปริศนาทักเข้าไปหาด้วยข้อความว่า สวัสดีครับน้องคนสวย พี่คนที่เข้าไปพรินต์งานกับน้องไง น้องกลัวพี่เหรอ ทาง น.ส.เค ก็ไม่รู้ว่าใครจึงถามว่าคือใคร ก็มีข้อความแชทส่งมาอีกว่า น้องอยากได้กระเป๋าสตางค์คืนไหม ถ้าอยากได้ให้มาเจอกันตอน 5 โมงครึ่ง ที่หน้าห้องน้ำในวันจันทร์ (19 ก.พ.)
เมื่อ น.ส.เค เจอข้อความนี้ ก็ได้แคปภาพหน้าจอส่งมาให้ที่ครูฝึกสอน ทางครูฝึกสอนก็มาปรึกษาตน ในฐานะที่เป็นหัวหน้าครูระดับชั้น ม.6 และคุณครูฝ่ายวินัยอีก 1 คน ตนจึงบอกว่าชายปริศนาคนนี้เราไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากรู้ว่าเป็นใครก็ต้องให้ น.ส.เค ไปตามนัด แต่ก็ได้มีการถามความสมัครใจ น.ส.เค ก่อนแล้วว่ามีความพร้อมที่จะช่วยกันเปิดหน้าว่าชายปริศนาคนนี้คือใคร ซึ่ง น.ส.เค บอกว่าพร้อมที่จะช่วย เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนหญิงในโรงเรียน จึงได้มีการวางแผนไว้ให้ และมีคุณครูไปอยู่ประจำจุด
กระทั่งตอน 5 โมงเย็นวันเกิดเหตุ น.ส.เค ก็ไปนั่งอยู่ที่โรงอาหารคนเดียว แล้วครูฝึกสอนคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ใกล้เคียง ก็ได้โทรมาบอกตนว่าตอนนี้มีนักเรียนชายอยู่คนเดียวที่นั่งอยู่ในโรงอาหารและเดินวนเวียนไปมา คือนายโอ ต่อจากนั้นสักครู่หนึ่ง นายโอ ก็เดินถือกระเป๋าเข้าไปนั่งด้วยกับ น.ส.เค โดยไม่มีการเชื้อเชิญจากฝ่ายหญิงแต่อย่างใด ทำให้ น.ส.เค เกิดความกลัว จึงวิ่งไปหาครูฝึกสอนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ครูฝึกสอนก็พยายามปลอบว่าครูอยู่ตรงนี้ไม่ต้องกลัว คอยช่วยอยู่ แล้ว น.ส.เค ก็กลับไปนั่งที่เดิมรอเวลาถึง 5 โมงครึ่งตามที่นัดหมายกับชายปริศนา
ก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย น.ส.เค ก็เดินไปเข้าห้องน้ำ โดยมีนายโอเดินตาม ซึ่งฝ่ายหญิงบอกไม่ต้องมาเพราะจะไปเข้าห้องน้ำ แต่นายโอก็ยังเดินตามแบบไม่ห่างมาก ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายหญิงห้ามไว้ พอนักเรียนหญิงเดินเข้าห้องน้ำไป นายโอก็นอนเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าห้องน้ำประมาณ 20 วินาที ก่อนที่จะเดินตามเข้าไปในห้องน้ำหญิงแล้วไปเตะประตูห้องน้ำจนกลอนหลุด น.ส.เค จึงวิ่งออกมาเจอกับครูฝึกสอนที่คอยตามประกบอยู่ ซึ่งพอนายโอเห็นครูฝึกสอนก็บอกว่า ตนไม่ได้ทำ ตนไม่ได้ทำ ตนมาช่วยน้องผู้หญิง เพราะเขาร้องว่าประตูห้องน้ำติดออกไม่ได้ ตนแค่เข้ามาช่วย แล้วนายโอก็เดินหนีไป
ต่อมามีการเชิญคุณแม่ของ น.ส.เค มาพูดคุยกับคุณพ่อของนายโอ เพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งทางคุณพ่อของนายโอยอมทุกอย่าง และยอมรับไปโดยปริยายว่าลูกของตนเองเป็นคนทำ แม้นายโอจะยืนยันว่า “ผมไม่ได้ทำ” ส่วนทางคุณแม่ของ น.ส.เค บอกจะไปแจ้งความเพื่อความปลอดภัย และจะเป็นหลักประกันว่าคุณพ่อจะดูแลนายโอไม่ให้มีพฤติกรรมแบบนี้ จึงจะเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ตลอดระยะเวลารอเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจตั้งแต่ประมาณ 3 ทุ่มถึง 4 ทุ่มกว่าของวันดังกล่าวนั้น ทางคุณครูก็มีการพยายามพูดจาดี ๆ เพื่อให้นายโอยอมรับว่าเป็นคนทำ และจะช่วยขอให้ทางผู้ปกครอง น.ส.เค เปลี่ยนจากแจ้งความเป็นลงบันทึกประจำวันแทน เพื่ออนาคตของเด็ก จะได้ไม่ติดบัญชีดำไปตลอดชีวิต นายโอตรึกตรองอยู่พักหนึ่ง จึงหลุดปากออกมาว่า “ผมเป็นคนทำเองครับ” รวมถึงเป็นคนเอากระเป๋าสตางค์ไป แต่ทำหายไปแล้ว เป็นเจ้าของแชทปริศนาในไอจีด้วย โดยจะเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำมิดีมิร้ายจริง เมื่อนายโอสารภาพแล้ว จึงได้ทำการลงบันทึกประจำวันแทนการแจ้งความ
พอเที่ยงคืนหลังวันเกิดเหตุ คิดว่าเรื่องนี้น่าจะจบลงด้วยดี และนายโอน่าจะกลับตัวได้แล้ว แต่เรื่องกลับไม่จบแค่นั้น เพราะต่อมาหลังจากที่มีการลงบันทึกประจำวันไปแค่ 2 วันเท่านั้น ปรากฏว่ามีไอจีแอคหลุม หรือไอจีบัญชีปลอมเข้าไปทักหา น.ส.เค คนเดิมอีกว่า “สะใจที่เห็นร้องไห้ น้องสวยเนอะเวลาเห็นน้องร้องไห้” เมื่อนำข้อความมาแจ้งครู จึงทำให้คุณครูเกิดความไม่พอใจ และมีการใช้คำที่คล้ายคลึงกันกับของเดิม จึงเรียกนายโอมาสอบถาม ทีแรกก็ไม่ยอมรับ แถมยังบอกด้วยว่า ที่รับไปคราวที่แล้วเพราะต้องการให้เรื่องจบๆ ไป ตนเองไม่ได้ทำ ซึ่งนายโอยืนกรานว่าไม่ได้ทำอยู่นานหลายชั่วโมง จนในที่สุดก็ยอมรับว่าทำจริงทั้งหมด
ดังนั้นคุณครูจึงมีการลงโทษนักเรียนตามมาตรการของโรงเรียน และตามที่แม่ของนักเรียนหญิงร้องขอ คือ การกักบริเวณ ไม่ให้สอบร่วมกับคนอื่น มีการตรวจกระเป๋า และไม่ปล่อยเด็กเพ่นพ่าน แม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำก็มีครูไปคุม ตอนกินข้าวก็สั่งมาให้กิน โดยอยู่ภายในสายตาคุณครูตลอดเวลา อีกทั้งยังได้มีการพิจารณาตามหลักฐานแล้ว เสนอเรื่องให้ทางฝ่ายผู้บริหารของโรงเรียนตัดสินให้นายโอออกจากโรงเรียน เนื่องจากมีพฤติกรรมจริงตามทัณฑ์บนครั้งที่ 2 โดยทำเรื่องเสนอผู้อำนวยการโรงเรียนไปแล้ว และยังได้แจ้งให้ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายทราบด้วย
นายพรนิวัติ สนั่นเอื้อ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร-สมุทรสงคราม กล่าวว่า ตามที่ได้มีการชี้แจงนั้นทางโรงเรียนได้ดำเนินการอย่างถูกต้องสมบูรณ์ทุกอย่างในการดูแลเด็กนักเรียนทั้งสองฝ่าย และชี้แจงทำความเข้าใจไม่ได้นิ่งนอนใจเรียกผู้ปกครองมาพบและหามาตรการร่วมกันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ขอให้ทุกฝ่ายกำชับกวดขันเรื่องความปลอดภัยของเด็กนักเรียนอย่างเข้มข้นและทั่วถึง
ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ทางมารดาของ น.ส.เค ก็ได้เข้าแจ้งความอีกครั้ง ภายหลังจากที่เคยลงบันทึกประจำวันไปก่อนหน้านี้แล้ว ด้วยปรากฏว่ามีบุคคลปริศนาส่งข้อความแชทเข้ามาหาลูกสาว จนทำให้ลูกสาวเกิดความหวาดกลัว แม้ต่อมาทางโรงเรียนจะทำการสอบสวนจนทราบว่า ผู้กระทำคือคนเดิม และมีการลงโทษตามมาตรการขั้นเด็ดขาดไปแล้ว โดยมารดาของ น.ส.เค เปิดใจว่า ภายหลังจากที่ลูกสาวถูกนายโอ ถีบประตูห้องน้ำจนพังเพื่อหวังกระทำมิดีมิร้าย จากนั้นก็มีการมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร โดยมีนายโอ พร้อมผู้ปกครอง รวมถึงคุณครูรับทราบ ซึ่งตนเองยอมที่จะไม่แจ้งความเพราะเห็นแก่อนาคตเด็ก
แต่ปรากฏว่าเรื่องกลับไม่จบเพราะมีการส่งแชทเข้ามาที่ลูกสาวอีก เป็นข้อความในลักษณะเชิงคุกคาม ซึ่งลูกสาวได้แคปหน้าจอไว้เป็นหลักฐาน แล้วก็นำไปแจ้งให้คุณครูรับทราบ กระทั่งคุณครูก็ได้มีการเรียกคู่กรณีคนเดิมมาสอบถาม ซึ่งทีแรกก็ได้คำตอบจากเด็กนักเรียนชายคนนั้นกลับมายืนยันว่า เขาไม่ได้ทำ ส่วนที่รับไปตอนแรกที่โรงพักก็เพราะแค่ต้องการให้เรื่องจบ ๆ ไป ซึ่งไม่มีใครเชื่อจนมีการสอบสวนกันนานหลายชั่วโมง นักเรียนชายจึงยอมรับอีกครั้งว่า เป็นคนส่งแชทอวตารนั้นมาหาลูกสาวจริง
และแม้ทางโรงเรียนจะลงโทษตามมาตรการไปแล้ว แต่ตนเองเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการคุกคามสิทธิส่วนบุคคล และสร้างความหวาดกลัววิตกกังวลให้เกิดกับลูกสาว รวมถึงนักเรียนหญิงรายอื่น ๆ ด้วย จึงได้นำหลักฐานเป็นข้อความแชททั้งหมดมาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับนักเรียนชายคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด อีกทั้งยังต้องการให้ทางผู้ปกครองของเด็กออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะมาอ้างว่าลูกเป็นสมาธิสั้น ขาดการยับยั้งชั่งใจ และทำไปโดยไม่ทันคิดไม่ได้ เพราะหากปล่อยเด็กไปแบบนี้ก็อาจจะไปก่อเหตุกับลูกคนอื่นได้อีก
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ
ประชาสัมพันธ์
